ในบทความที่ 27 นี้ผมจะมาแชร์การสร้างบ้านส่วนที่เหลือและข้อคิดในตอนท้ายให้คิดกันดูนะครับจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ
18. หลังจากฉาบปูนเสร็จก็จะมาเริ่มปูกระเบื้องในส่วนห้องน้ำ
19.สีรองพื้นและงานฝ้า
20.ขอบหน้าต่าง กระจก
21.ต่อมาส่วนงานครัวผู้รับเหมาไม่ได้รับทำตรงนี้ ผมต้องไปหาข้างนอกเองซึ่งต้องนัดให้ช่างมาในช่วงจังหวะสีรองพื้นทาเสร็จเพื่อให้มันเสร็จพร้อมๆกับตอนทาสีพอดี จุดนี้ต้องจัดสรรเวลาให้ดี
22.ระหว่างนั้นจะมีปูกระเบื้องยางไวนิลและทาสีภายนอกไปพร้อมๆกัน
23. ติดตั้งเหล็กบังตาและประสานงานขอน้ำ ไฟฟ้า **จุดไฟฟ้าจำเป็นต้องคุยกับผู้รับเหมาไปเลยนะครับว่าจะมีอะไรบ้างเช่น แอร์กี่ตัว เครื่องทำน้ำอุ่น เตาอบ ปลั๊ก เป็นต้นเพราะมันต้องเตรียมช่องเซอร์กิตให้พอดีกับสิ่งที่เราต้องการ**
24.หลังจากสีและอื่นๆเสร็จก็จะประมาณนี้
25.ส่วนทางขึ้นข้างนอกก็เริ่มทำต่อ
26.ต่อท่อน้ำทิ้งให้เสร็จ
27.ตามด้วยเทปูนรอบบ้านในขั้นตอนสุดท้าย
28.สุดท้ายก็จะเป็นงานประตูกับครัวเสร็จสมบูรณ์ครับ
โดยผมจะสรุปข้อคิดที่ได้จากการสร้างบ้านให้ฟังละกันครับ ถ้าผู้อ่านคนไหนกำลังจะซื้อบ้านหรือสร้างบ้านเองก็น่าจะต้องคิดไว้ประมาณนี้ครับ
1. อย่าไว้ใจผู้รับเหมา100% ขนาดผมมาตรวจบ้านบ่อยๆก็ยังเจอกับปัญหาหลายๆอย่างเช่น ฉากไม่ได้ วงกบไม่ตรง ไฟเซอร์กิตที่ไม่ได้เผื่อไว้ให้
2. ที่ใครๆมักจะพูดว่าการสร้างบ้านหรือซื้อบ้านส่วนใหญ่จะงบบานปลายเรื่องนี้ก็มีส่วนจริงครับ ที่จริงมันก็มีเหตุผล insight ของมันนิดหน่อยที่เจอมาก็คงประมาณนี้
2.1 spec ที่ผู้รับเหมาให้ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการเมื่อเปลี่ยนspecราคาก็เปลี่ยน
2.2 ระหว่างก่อสร้างทางเราหาข้อมูลเพิ่มเติมและไปเจอสิ่งที่สวยกว่าและดีกว่า ทางเราก็อยากจะเปลี่ยนให้ดูดีขึ้นทำให้ราคาเปลี่ยนตามความต้องการของเราซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา
2.3 ผู้รับเหมาโค้ดราคาผิด(ในBOQจะมีรายละเอียดเยอะมาก) ซึ่งบางอย่างอาจเกิดการผิดพลาดได้ทำให้ต้องกลับมาคุยกันว่าราคาที่รับได้ใหม่จะอยู่ที่เท่าไร
3. ไม่ว่าคุณจะซื้อบ้านหรือสร้างบ้านตามที่ผมบอกงบมันจะบานปลายเพราะฉะนั้นคุณไม่ควรใส่เต็ม max ที่เรามีไม่ว่าจะกู้หรือเงินสดคุณควรเหลือไว้ให้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือเผื่องบบานปลายนี้ไว้ด้วย
ถ้าในกรณีที่คุณใส่เต็ม max แล้วงบบานปลายจะมีผลต่อกระแสเงินสดที่ใช้ในชีวิตประจำวันสิ่งนี้จะทำให้การบริหารการเงินคุณพังครับ เพราะมันจะติดลบในระหว่างสร้างและติดลบรัวๆๆๆๆหลังจากสร้างเสร็จ คุณต้องมีก๊อกหนึ่ง ก๊อกสองไว้เสมอ
4. หลังจากสร้างบ้านหรือซื้อบ้านค่าใช้จ่ายที่ตามมาคือเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่ง สิ่งเหล่านี้ก็จะมีผลให้งบบานปลาย ต่ำๆก็หลักแสนครับผมบอกได้เลย ถ้าคุณใส่เต็ม max ตอนสร้าง/ซื้อบ้าน ถ้าหมด maxคุณก็จะมาติดลบตอนซื้อเฟอร์นิเจอร์
5. สุดท้ายการที่คุณใส่ทุกอย่างเต็ม max เช่นกู้เต็มที่ ตกแต่งเต็มที่ ทำมันให้สวยให้อลังการที่สุดเพราะบ้านเราสร้างครั้งเดียวอยู่ตลอดชีวิต ที่จริงวิธีคิดนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไรถ้าการงานคุณมั่นคงพอ กระเป๋าคุณหนักพอหรือมี back upที่ดีพอ คุณก็สามารถจัดมันได้เต็มที่ครับ
แต่สำหรับผมพอเห็น👀
-อาชีพที่เคยมั่นคงอย่างสายการบินวันนี้กลับเปลี่ยนไป
-การท่องเที่ยวที่เคยเป็นรายได้หลักของประเทศก็เปลี่ยนไป (มีผลกับกลุ่มโรงแรม)
-การทำธุรกรรมทางธนาคารก็เปลี่ยนไป
-หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นสะท้อนมุมมองมากมาย
-Disrupt ที่เข้ามาให้ทุกภาคส่วนเช่น ธนาคาร ล่าม ทีวี
-Unemployment rate
-บริษัทที่ปิดตัวลงหรือลดเงินเดือนลงเพื่อให้ได้ไปต่อ
ผมเลือกที่จะใส่ทุกอย่างในบ้านให้มัน ''พอดี'' ไม่ให้มัน ''มากเกินไป'' และเตรียมไปลงทุนต่อเพื่อเพิ่ม passive income ตรงนี้มันจะ Win Win situationครับ
Win ความสุข ความภูมิใจ ครอบครัว
Win ลงทุนต่อยอดเพื่อให้เรามีรายได้ในหลายๆตระกร้าเพื่อกระจายความเสี่ยงในอนาคต
** สิ่งที่ผมแชร์มาข้างบนนี้ก็เป็นแค่มุมมองและการเตรียมการเผื่อล่วงหน้าเพราะเราไม่รู้จะเจออะไรในอีก1-2ปีข้างหน้านี้ ถ้าคุณยังเป็นมนุษย์เงินเดือนการสร้างหนี้ระยะยาววววววเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงครับ แต่ถ้าคุณมั่นใจในสายงานของคุณหรือมี back up ที่ดีพอคุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้เลยครับ สุดท้ายก็ไม่มีผิดไม่มีถูก สิ่งสำคัญคือแค่คุณสามารถรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิดได้ในทุกสถานการณ์นี่คือ key **
บทความหน้าผมจะมาแชร์คอนโดหลังที่สามจะมีอะไรบ้างไว้จะมาแชร์ครับ😁
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
