เรื่องเล่าที่ 6 "Turning Point"
เมื่อไม่กี่วันก่อนครับ พี่ชายผมได้มาคุยกับผมพน้อมขอความช่วยเหลือในเรื่องเดิมที่ผมปฏิเสธและหลีกเลี่ยงไปลายต่อหลายครั้ง
คือการเข้าไปช่วยทำงานในธุรกิจของมันหน่อย (พี่ชายเป็นเหมือนพ่อค้าคนกลางในการส่งชิ้นส่วนไก่)
ซึ่งตอนแรกผมก็อยากจะปฎิเสธมันเหมือนทุกทีแหละครับ แต่คราวนี้ดันมีเรื่องที่ทำให้ผมไม่สามารถปฎิเสธมันไปได้ คือการที่มันมาบอกว่าบ้านเรามีหนี้ 4 ล้านบาท จากการที่เมื่อก่อนพ่อเอาไปจำนองไว้ และตอนนี้ธนาคารต้องการหนี้ก้อนนี้คืนภายใน 3 เดือน
ผมได้แต่ยืนช็อคอยู่ตรงนั้น ปากไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ ได้แต่พูดเพียงคำว่า "โอเค ได้ เดี๋ยวจะกลับมาช่วย"
ต้องขอบอกก่อนว่าที่บ้านไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไรครับ พอมีพอใช้ ไม่มีสมบัติอะไรที่มีราคาหรือมูลค่าเก็บไว้ ทำให้หนี้ 4 ล้าน เป็นอะไรที่เยอะมากๆ สำหรับผม
ที่นี้มาถึงจุดที่ผมคิดว่าเป็น Turning Point ครั้งสำคัญในชีวิตของผม นั้นคือการที่ผมต้องตัดสินใจว่า ผมจะกับมาช่วยไหม หรือผมจะเป็นแค่พนักงานบริษัทเอกชนต่อไป หลายคนอาจจะสงสัยว่าผมช่วยแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมเองก็สงสัยเหมือนกันครับ555
ผมก็เลยถามมันไปว่า ผมกลับมาช่วย มันจะมีอะไรดีขึ้น
มันตอบมาว่า อย่างน้อยก็ช่วยแบ่งเบาแรงได้ หรือให้มันได้มีเวลาไปคิดหาเงินมาใช้หนี้ในทางอื่นได้บ้าง
ทีนี้ย้อนกลับมาที่เรื่องของผม ผมคิดอยู่นานเหมือนกันนะครับว่า ผมจะเอาไงดี เพราะผมรู้ครับว่าผมกลับมาช่วยคงต้องอยู่กับตรงนี้ประมาณ 1 - 2 ปีเป็นอย่างน้อย
ผมต้องทิ้งงานการตลาดที่ผมทำอยู่ในปัจจุบันลงไป และถ้าวันนึงผมอยากกลับมาทำจะมีใครรับไหม ความรู้ของเราจะต่อเนื่องไหม นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผมคิดหนักครับ
แต่สุดท้ายแล้ว ผมก็ใช้เวลาตัดสินใจไม่นานครับ เพราะผมคงเห็นแก่ตัวกว่านี้ไม่ได้แล้ว แล้วจะให้ผมไปเลือกบริษัทมากกว่าครอบครัว ผมก็คงทำไม่ได้ในสถานการณ์แบบนี้
โดนเซอร์ไพรต้นปี 2021 แบบช็อคๆเลยครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
