นอกจากนี้คุณเฉลิมยังได้ทำอีกธุรกิจนึง ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับการทำประโยชน์จากที่ดินขนาดใหญ่
นั่นคือธุรกิจ “ปล่อยเช่าโกดัง” ซึ่งธุรกิจนี้เป็นโมเดลที่คล้ายกับ 7-11 อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น
คือการที่เจ้าของธุรกิจนั้นไปติดต่อขอเช่าที่ดินว่างเปล่าจากคนที่ปล่อยเช่าที่ดิน
เพื่อสร้างโกดังปล่อยเช่าให้กับผู้ที่ต้องการเช่าโกดังเพื่อเก็บสินค้าต่างๆ
ยกตัวอย่างโครงการนึง เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น
ที่ดินแปลงนึงมีขนาด 7 ไร่ และต้องเข้าไปในซอยลึกกว่าที่จะเจอโกดังปล่อยให้เช่า
ซึ่งโครงการนี้มีโกดังอยู่ประมาณ 25 โกดัง ขนาดของแต่ละโกดังประมาณ 100
ตารางเมตร
ค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 12,000 บาทต่อเดือน
ค่าก่อสร้างต่อหลังประมาณ 400,000 บาท
โครงสร้างของรายได้คือ เจ้าของที่ดินไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากปล่อยให้เช่าที่ดินและรอรับค่าเช่า
จากนั้นคุณเฉลิมก็เข้าไปขอเช่าที่ดินและสร้างโกดังเพื่อปล่อยเช่าให้ลูกค้าเช่าต่อไป
โดยเขาเองใช้วัสดุก่อสร้างของบริษัทตัวเองในการก่อสร้าง ทำให้ต้นทุนนั้นถูกลง
ไปด้วย
จึงสามารถสร้างรายได้จากการปล่อยเช่าได้ถึง 700,000 บาทต่อเดือน
และแบ่งเปอร์เซนต์ค่าเช่าให้เจ้าของที่ดินได้ประมาณ 10-25%
ซึ่งเจ้าของที่ดินจะได้รับเงินค่าเช่าประมาณ 210,000 บาทต่อเดือน
เป็นผลตอบแทนที่ค่อยข้างเยอะ เมื่อเทียบกับการปล่อยที่ดินให้รกร้างเพื่อรอขาย
หรือทำธุรกิจอย่างอื่นที่ต้องลงทุนเองทั้งหมด
หลังจากนั้นเมื่อเจ้าของที่ดินเห็นว่าสามารถสร้างผลตอบแทนได้เยอะ
จึงขอซื้อโกดังจากคุณเฉลิมเพื่อนำมาปล่อยเช่าเอง เพื่อที่จะได้รับค่าเช่าเองทั้งหมด
โดยตอนนี้ซื้อคืนไปแล้วถึง 20 โกดัง