21 ก.พ. 2021 เวลา 11:59 • ประวัติศาสตร์
Doppellgӓngar of Emilie Sagée : ร่างที่สองของเอมิลี ซาจี
คาดว่าหลายๆคนน่าจะเคยได้ยินคนรู้จักทักว่า
“วันก่อนฉันเห็นคนที่หน้าตาเหมือนคุณมากๆด้วยล่ะ”
ปรากฎการณ์แบบนี้ฝรั่งเค้าเรียกกันว่า Doppellgӓngar (DOPP-el-gang-er) ซึ่งเป็นภาษาเยอรมันที่แปลว่า Double walker หรือร่างที่สองประมาณนั้นแหละค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังมีคำอื่นที่ใช้กันอีกเช่น Evil twin หรือ twin stranger ด้วยค่ะ ซึ่งคำอธิบายของมันก็คือ “biologically unrelated look-alike” หรือคนที่หน้าตาเหมือนเราทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดนั่นเอง
โดยคำว่า Doppellgӓngar รู้จักแพร่หลายเป็นครั้งแรกจากนิยายเรื่อง Siebenkäs ของ Jean Paul ในปี 1796 แต่คอนเซปต์ของร่างที่สอง แฝดสยอง ก็เป็นอะไรที่มีมานานแล้วในเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับศาสนา นิทาน ตำนานเมืองต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะถูกนำเสนอไปในทางวิญญาณร้ายที่ลอกเลียนแบบหน้าตาของเรา แต่มีนิสัยและการกระทำที่ชั่วร้ายตรงข้ามกับตัวตนของเรา
แต่ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว Doppellgӓngar ก็เป็นแค่ความบังเอิญและการเล่นตลกของสมองของเรานั่นเอง
ในขณะที่สัตว์อื่นๆใช้วิธีการดมกลิ่น ในการจดจำเพื่อนหรือครอบครัวของมัน มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่ใช้การมองเห็นและจดจำใบหน้า สมองของเราจะจำใบหน้าของคนอื่นจากการการจำลักษณะ ตา จมูก ปาก หู ตำแหน่งการจัดวางขององค์ประกอบเหล่านี้ เพียงแค่เราเห็นลักษณะดวงตาที่เหมือนเพื่อนเรามากๆบนหน้าคนอื่น สมองก็จะทำการเล่นตลกโดยการรื้อฟื้นความทรงจำถึง จมูก ปาก ของเพื่อนขึ้นมา ทำให้เราคิดไปเองว่า อ๊ะ! คนนี้หน้าเหมือนเพื่อนเราเลย
ภาพถ่ายคนหน้าเหมือนโดยข่างภาพ François Brunelle
แน่นอนว่าถ้าพูดตามหลักวิทยาศาสตร์ (เท่าที่ความสามารถของเราไปถึงในตอนนี้)แล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะเกิดปรากฏการณ์ bilocation หรือการเห็นสิ่งของ หรือใครคนหนึ่งอยู่ในสองสถานที่ในเวลาเดียวกัน
ภาพคนดังที่บังเอิญหน้าเหมือนกับคนในอดีต
แต่เมื่อประมาณปี 1845 ในสาธารณรัฐลัตเวีย กลับมีเรื่องประหลาดของคุณครูสาวคนหนึ่งที่คนรอบตัวของเธอเห็น Doppellgӓngar ของเธอ แถมยังไม่ใช่แค่การเจอคนที่หน้าเหมือนเธอ แต่เป็นร่างที่สองที่เหมือนเธอเป๊ะๆ และอยู่ในสองสถานที่ในเวลาเดียวกันเลยอีกต่างหาก
เอมิลี ซาจี เป็นคุณครูสาวชาวฝรั่งเศสวัย 32 ปี สอนอยู่ที่โรงเรียนประจำ Pensionat von Neuwelcke ในรัฐลิโวเนียประเทศรัสเซีย (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐลัตเวีย)
เอมิลี เป็นผู้หญิงที่สวย มีเสน่ ฉลาดและทำงานเก่ง เธอจึงเป็นที่รักของนักเรียนและบุคลากรคนอื่นๆในโรงเรียน แต่เรื่องที่น่าแปลกก็คือคุณครูที่ยังสาวและเก่งขนาดนี้ กลับเคยถูกย้ายโรงเรียนมาแล้วถึง 18โรงเรียนในรอบ 16 ปี ซึ่งเหตุผลก็ดูจะค่อยๆชัดขึ้น ณ โรงเรียนที่ 19 ของเธอ
ครั้งหนึ่งในห้องเรียน ในขณะที่เอมิลีกำลังสอนอยู่ จังหวะที่เธอกำลังเขียนกระดานดำ หันหลังให้กับเด็กหญิง 17 คนในชั้นเรียน จู่ๆก็มีร่างๆหนึ่งค่อยๆปรากฎขึ้นข้างๆเธอ
ร่างนั้นมีรูปร่างหน้าตาเหมือนเอมิลี แต่งตัวเหมือนเธอ แถมยังลอกเลียนแบบท่าทางการเขียนกระดานดำของเธอ สิ่งที่ต่างคือ ร่างๆนั้นไม่มีชอล์คอยู่ในมือและไม่มีตัวหนังสือปรากฏขึ้นบนกระดานดำ และสิ่งที่แปลกไปกว่านั้นก็คือเอมิลีกลับมองไม่เห็นร่างที่สองของเธอเหมือนกับที่นักเรียนทุกคนในห้องเห็น
การปรากฏตัวของร่างแฝดของเอมิลีเริ่มเป็นที่พบเห็นบ่อยขึ้นจากผู้คนในโรงเรียน โดยร่างๆนี้จะปรากฏอยู่ใกล้ๆเอมิลี ในหลายๆกิจกรรมในชีวิตประจำวันของเธอ บางครั้งร่างแฝดก็จะนั่งอยู่เงียบๆในชั้นเรียน ขณะที่เอมิลีสอนอยู่ หรือขณะที่เอมิลีกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่บนโต๊ะ ร่างๆนี้ก็กำลังรับประทานอาหารอยู่เช่นกัน เพียงแต่ไม่อาหาร จาน หรือช้อนส้อม ร่างๆนั้นเพียงแค่ทำท่ากิน...
ร่างๆนี้ไม่เคยส่งเสียงหรือมีปฏิกิริยาตอบโต้กับใคร แต่ก็ทำให้ผู้คนรอบๆตัวเอมิลีเริ่มกลัวขึ้นทีละน้อย
ครั้งหนึ่งมีนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งที่จะต้องแต่งตัวสวยงามสำหรับงานสำคัญ เอมิลีอาสาช่วยคุณครูอีกท่านหนึ่งในการแต่งตัวให้กับเด็กๆ ในขณะที่เอมิลีอ้อมไปข้างหลังเด็กนักเรียนหญิงเพื่อที่จะจัดการกับตะขอของชุดเดรส นักเรียนหญิงได้มองตามเธอจากเงาในกระจก แต่ปรากฏว่ามีคุณครูเอมิลีถึงสองคนกำลังช่วยติดตะขอชุดเดรสของเธออยู่ นักเรียนหญิงคนนี้ถึงกับเป็นลมล้มพับกันไปเลยทีเดียว
เหตุการณ์ที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุดในโรงเรียนคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคาบเรียนเย็บปักถักร้อย ที่ห้องเรียนนั้นจะมีโต๊ะยาวขนาดใหญ่หนึ่งโต๊ะ ที่นักเรียนหญิง 42 คนนั่งเย็บผ้าอยู่ด้วยกัน หน้าห้องเก้าอี้นวมหนึ่งตัวสำหรับคุณครูประจำวิชา และห้องเรียนนี้มีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดอยู่ มองออกไปเห็นสวนดอกไม้ของโรงเรียน
ที่สวนนั้น นักเรียนหญิงทุกคนเห็นคุณครูเอมิลี กำลังทำสวนซึ่งเป็นงานอดิเรกที่เธอชอบทำอยู่ ขณะที่นักเรียนกำลังนั่งเย็บปักถักร้อยกันอยู่นั้น คุณครูประจำวิชาก็ขอตัวออกไปนอนห้อง พักใหญ่ๆต่อมา คุณครูเอมิลีก็เดินสวนกลับเข้ามาแล้วนั่งบนเก้าอี้นวมแทนคุณครูที่เพิ่งเดินออกไป
แวบแรกก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติ แต่ก็เริ่มมีเสียงกระซิบกระซาบ และนักเรียนหลายคนก็เริ่มหันไปมองนอกหน้าต่าง
ที่สวนดอกไม้นั้น คุณครูเอมิลียังคงง่วนอยู่กับการรดน้ำต้นไม้ เพียงแต่เธอดูเหมือนเหนื่อยล้าและขยับเขยื้อนช้าลง นักเรียนในห้องตื่นกลัวมากแต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร จนมีนักเรียนใจกล้าสองคนตัดสินใจเดินไปหาร่างที่สองของคุณครูเอมิลีที่นั่งอยู่หน้าห้อง และเอื้อมมือไปสัมผัสเธอ
มือของเด็กๆทั้งสองผ่านตัวเธอไปได้ เธออ้างว่ามีความรู้สึกที่บางเบา เหมือนจับใยแมงมุม แล้วร่างๆนั้นก็ค่อยๆจางหายไป ในขณะที่ครูเอมิลีตัวจริงก็กลับมาขยับตัวอย่างกระฉับกระเฉงเหมือนเดิม
เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ จนไม่ได้มีเพียงแค่นักเรียนเท่านั้นที่เห็น บุคลากรคนอื่นๆในโรงเรียนก็เริ่มเห็นเหตุการณ์ร่างที่สองของเอมิลีแล้วเช่นกัน พวกเขาสังเกตว่าร่างที่สองมักจะปรากฏขึ้นเมื่อเอมิลีกำลังมีสมาธิจดจ่อกับการทำอะไรบางอย่าง
นานวันเข้านักเรียนหลายคนเริ่มไม่กล้ากลับมาโรงเรียนหลังจากกลับไปเยี่ยมครอบครัวในวันหยุดเทศกาล ผู้ปกครองหลายคนเริ่มร้องเรียน และพาตัวลูกๆกลับ จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 42 คน จนตอนนี้เหลือแค่ 12 คน
สุดท้ายทางโรงเรียนจึงต้องไล่ เอมิลี ซาจีออก เพื่อรักษาสถานภาพของโรงเรียนไว้
เหตุการณ์ทั้งหมดถูกเขียนอยู่ในหนังสือเรื่อง Footfalls on the Boundaries of Another World ของนักเขียนชาวสกอตชื่อว่า โรเบิร์ต เดล โอเวน โดยหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือแนวเรื่องเหนือธรรมชาติเล่มแรกของเขาที่ถูกตีพิมพ์ในปี 1859
หนังสือ Footfalls on the boundary of another world
นักเขียน โรเบิร์ต เดล โอเวน
โอเวนเขียนเรื่องราวทั้งหมดจากการพูดคุยกับ Mademoiselle Julie de Guldenstubbé ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในนักเรียนหญิงที่เคยเรียนกับเอมิลี ซาจี
จูลี่ได้เล่าต่ออีกว่า เธอได้ติดต่อพบปะกับเอมิลี ซาจี หลังจากเอมิลีออกจากโรงเรียนไปแล้ว ซึ่งเธอได้ไปอาศัยอยู่กับพี่สาวของเธอ และพี่สาวของเธอก็มีลูกๆ จูลี่อ้างว่า เหล่าหลานๆของเอมิลี ซาจี บอกกับเธอว่าพวกเขามีน้าเอมิลีสองคน
จูลี่เล่าว่านั่นคือช่วงสุดท้ายที่เธอได้ไปเยี่ยมเยียนเอมิลี หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อหรือรับรู้เรื่องของเอมิลี ซาจี และร่างที่สองของเธออีกเลย
อย่างไรก็ตามเรื่องที่เล่ามาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่จากปากคำของคนเพียงคนเดียว เป็นไปได้ว่า เรื่องเล่านี้อาจถูกแต่งเติมเพื่อให้เนื้อหาในหนังสือของโอเวนน่าสนใจ หรือเอมิลี ซาจี อาจจะไม่เคยมีตัวตนอยู่จริงด้วยซ้ำ
แล้วถ้าเธอมีตัวตนอยู่จริงเราจะใช้เหตุผลไหนมาอธิบายปรากฏการณ์นี้ดีนะ เป็นเรื่องของมิติทับซ้อนหรือเปล่า หรือเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติกันแน่ เพื่อนๆผู้อื่นลองวิเคราะห์กันเล่นๆ สนุกๆ แล้วกันนะคะ
เช่นเคยค่ะ บทความทั้งหมดได้ข้อมูลมากจากบทความภาษาอังกฤษหลายแหล่ง หากมีการแปลผิด หรือเนื้อหาไม่ตรงกันประการใด ผู้เขียนขออภัยไว้ด้วยนะคะ ทุกคนสามารถติชมทั้งเนื้อหาและภาพประกอบที่ผู้เขียนวาดขึ้นเองได้ด้วยนะคะ แต่ขอเป็นการติเพื่อก่อให้เกิดการปรับปรุงที่ดีขึ้นในนบทความต่อๆไปนะคะ
ที่มา เผื่อใครอยากไปอ่านเพิ่มเติมนะคะ
โฆษณา