การตรวจสอบสมมติฐาน
ทำเพื่อดูว่า มีสมมติฐานอื่นที่ใช่ได้หรือไม่ -> ขยายแนวคิด สร้างไอเดีย
โดยการ แยกสมมติฐานเป็นหลายๆ สาเหตุ ประเภท และพิจารณาหลายๆ สาเหตุ หรือ ใช้เกณฑ์ ที่มีความเกี่ยวข้อง หลายๆ เกณฑ์ เพื่อตรวจสอบดูว่าทางอื่นพอเป็นไปได้หรือไม่ครับ
!! อย่าไปคิดว่าสมมติฐานนั้นมันถูก ถ้าผิดก็คือผิด แล้วตั้งสมมติฐานใหม่ครับ ถ้ามีทีท่าว่ามันผิด หรือ อันอื่นถูกกว่า และตรวจสอบซ้ำอีกที !!
สมมติฐานถูกตั้งขึ้นมาหลายสมมติฐาน อาจจะตาม Framework คือ 3 สมมติฐาน ดังนั้นทุกวิธีล้วนเกี่ยวข้องกับประเด็นที่เราสนใจ แต่คำตอบที่จะนำไปตอบโจทย์ในตอนสุดท้าย มีคำตอบเดียว และ 3 ทางเลือกนั้นให้คำตอบที่ต่างกัน (ไม่ซ้ำซ้อน) ก็จะมี 3 คำตอบเป็นอย่างน้อย แต่ไม่ได้หมายความว่า 3 สมมติฐานจะให้คำตอบที่ผิด 2 ถูก 1 นะครับ อาจจะรวมกัน 3 ข้อแล้วได้ 1 คำตอบที่ถูกก็ได้ ดังนั้นวิธีการที่จะคัดเลือกคำตอบ คือ การจัดลำดับสมมติฐาน ทำเพื่อไม่หาข้อสรุปของสมมติฐานที่เราไม่ต้องการครับ อันไหนต้องการอยู่เก็บไว้ได้หมดครับ
โดย การจัดลำดับสมมติฐานจะแบ่งเป็นหลักๆ 5 ข้อ คือ
- สามารถตอบคำถามของประเด็น ได้ในตอนนี้เลยไหม (ความเร่งรีบ)
- มีความเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน
- สมมติฐานนั้นต้องใช้เวลาตรวจสอบนานแค่ไหน
- ผลลัพธ์ที่น่าจะได้ มีค่ามากน้อยแค่ไหน
- แล้วผลลัพธ์ที่ได้ สามารถนำมาใช้งานจริงได้หรือไม่
เราสามารถเลือกใช้ เกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่งเป็นหลัก หรือ ใช้หลายเกณฑ์ เพื่อคัดให้ได้สมมติฐานตามที่เราต้องการมากที่สุดครับ
ต่อมาเป็น การพัฒนาสมมติฐาน คือการใช้เทคนิคแบบตัว T เจาะลึกข้อมูลลงไป ก็คือเอาข้อมูลทั้งหมดที่มี (ข้อมูลปฐมภูมิ) มาตอบสมมติฐานว่าได้คำตอบอย่างไร คล้ายๆ การอุปนัยนั่นแหละครับ แต่ต้องนึกไว้เสมอว่า ข้อมูลเปลี่ยน สมมติฐานเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ถ้าข้อมูลนั้นถูก และทำให้สมมติฐานผิดเราก็ต้องเปลี่ยนสมมติฐานใหม่ๆ เสมอครับ