21 ก.พ. 2021 เวลา 23:42 • ท่องเที่ยว
วัดหนังราชวรวิหาร
วัดหนัง ... เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดราชวรวิหาร สร้างขึ้นประมาณปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏผู้สร้าง วัดนี้เป็นวัดโบราณ เป็นวัดร้างมากว่า 200 ปีแล้ว ตั้งอยู่ ณ ฝั่งเหนือคลองด่าน แขวงบางค้อ เขตจอมทอง
วัดแห่งนี้ .. เดิมเป็นวัดราษฎร์ มีสืบมาแต่โบราณ มีนามว่าวัดหนังมาแต่เดิม ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญอีกวัดในฝั่งธนฯ มีประวัติว่าสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในรัชกาลสมเด็จพระสรรเพ็ชญ์ที่ 9 (พระเจ้าท้ายสระ)
ก่อนหน้าที่จะมาเป็นวัดพระอารามหลวงนี้วัดหนังเป็นวัดร้างอยู่กว่า 200 ปี จนมารุ่งเรืองขึ้นเมื่อสมเด็จพระศรีสุลาลัย พระบรมราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงสถาปนาวัดขึ้นเป็นพระอารามหลวงเมื่อปี พ.ศ. 2460 ...
ด้วยเหตุนี้เองที่วัดหนังไม่ได้เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีนตามแบบพระราชนิยมของรัชกาลที่ 3 แต่เป็นวัดแบบไทยๆ เพราะพระบรมราชชนนีของพระองค์ทรงสถาปนาขึ้น
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ทำการฉลองวัดหนัง ณ วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2380 นั่นเอง การเริ่มสถาปนาคงอยู่ในระหว่าง พ.ศ. 2367 ถึง พ.ศ. 2378 และปรากฏเจ้าอาวาสมาจนถึงปัจจุบันถึง 9 พระองค์
วัดแห่งนี้ .. ได้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ของรัชกาลที่ 3 ซึ่งพระองค์ได้ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆขึ้นภายในวัดอีกหลายสิ่งด้วยกันดังที่ได้เห็นกันในปัจจุบัน
พระอุโบสถ ... ก่ออิฐถือปูนขนาด 5 ห้อง มีเฉลียงโดยรอบ หน้าเป็นประดับกระจกเป็นรูปดอกไม้สวยงาม
ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน "พระพุทธปฏิมากร" พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยเป็นพระประธาน ประดิษฐานอยู่บนฐานแว่นฟ้า 2 ชั้น ฐานพระ 1 ชั้น แบบชุกชีในพระอุโบสถวัดพระเชตุพนฯ แต่ย่อส่วนให้เล็กลง
พระวิหาร ... มีลักษณะคล้ายกับพระอุโบสถ ภายในแบ่งเป็นสองห้อง มีประตูทางเข้าคนละด้าน
ด้านหนึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาพอกปูนลงรักปิดทองปางมารวิชัยไว้ พระประธานองค์นี้สันนิษฐานว่าเดิมเป็นพระประธานของวัด รวมทั้งตัวพระวิหารก็สันนิษฐานว่าเป็นพระอุโบสถเก่าก่อนที่จะถูกบูรณะในสมัยรัชกาลที่ 3
ด้านหนึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยเรียงเป็นแถว 5 องค์
พระปรางค์ ... องค์สูงใหญ่ที่ตั้งอยู่ระหว่างกลางระหว่างพระอุโบสถ และพระวิหาร เป็นพระปรางค์ที่มีความโดดเด่น ด้วยความสูง 22.30 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 13.60 เมตร มีลานประทักษิณ 3 ชั้นเป็นรูปแปดเหลี่ยม ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้
บริเวณหน้าพระปรางค์นั้นมีแท่นหินประกอบเป็นรูปเก้าอี้จีนอยู่ 1แท่น เรือนไฟหิน 1 คู่ ตุ๊กตาหินนักรบจีนโบราณ 1 คู่ โดยของเหล่านี้เป็นของพระราชทานจากรัชกาลที่ 3 นั่นเอง
วิหารหลวงปู่ ... ตั้งอยู่ใกล้กับศาลาการเปรียญ เป็นที่ตั้งรูปปั้นของ หลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่ฉัตร และหลวงปู่ผล โดยหลวงปู่ทั้งสามองค์นี้ก็ถือเป็นเกจิชื่อดังแห่งวัดหนัง
โดยเฉพาะหลวงปู่เอี่ยม หรือพระภาวนาโกศลเถระนั้น ถือเป็นพระสงฆ์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างสูง เพราะเมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จประพาสยุโรปไปที่ประเทศฝรั่งเศส พระองค์จะต้องทรงขึ้นขี่ม้าพยศตัวหนึ่งซึ่งไม่มีใครปราบได้ แต่พระองค์ได้ทรงใช้คาถาของหลวงปู่เอี่ยมเสกหญ้าให้ม้ากินจนม้าเชื่องสงบ และสามารถประทับขี่บนหลังม้าตัวนั้นได้อย่างสง่างาม
ศาลาการเปรียญ .. ศาลาการเปรียญวัดหนังราชวรวิหาร ชาวบ้านมักจะเรียกว่า "ตึกดิน" สันนิษฐานว่ามีมาแต่ครั้งอยุธยา แต่ได้รับการปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่ ๓
ว่ากันว่า ... แต่เดิมเป็นอาคารชั้นเดียวต่อมาได้ปรับโครงสร้างโดยยกพื้นอาคารให้เป็น ๒ ชั้น เมื่อเดินขึ้นไปชั้นบน สิ่งที่โดดเด่นที่มองเห็นสิ่งแรก คือ เสาไม้ที่มีงานเขียนสีลายรดน้ำสีทองบนพื้นสีดำ ฝีมืองช่างโบราณ สวยมาก
ภายในศาลาการเปรียญมีงานจิตรกรรมที่งดงามมากปรากฏอยู่ แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันบางส่วนได้ลบเลือนไปจนเกือบจะหมด
ภาพจิตรกรรมบนแผ่นไม้ที่ติดกับส่วนของเพดาน .. ด้านในสุด (ติดกับธรรมมาสน์) มองเห็นชุดเฉพาะภาพของพระพุทธเจ้า และพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งคล้ายกับคติของภาพในวัดอื่นๆ ที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าเสด็จจากดาวงดึงส์ และพระแม่ธรณ๊ชีบีบมวยผม ในส่วนของพิชิตมาร ..
ภาพจิตรกรรมบนแผ่นไม้ที่ติดกับส่วนของเพดาน .. ในฝั่งตรงข้าม ด้านหนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นภาพ นรก อีกภาพ เป็นสวรรค์
ภาพจิตรกรรมบนแผ่นไม้ที่ติดกับส่วนของเพดาน .. ที่อยู่รอบๆ คล้ายกับเป็นภาพชุมนุมเทวดา
ภาพเขียนที่ยังคงสภาพดี ... มีเพียงภาพเขียนดาวเพดานฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ ๔ เป็นลวดลายที่วิจิตรบรรจงยิ่งนัก
ลวดลายบานประตู-หน้าต่าง สวยงาม
อีกมุมที่งดงามในศาลาการเปรียญ
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดหนังแห่งนี้นอกจาก ศิลปกรรมที่งดงามภายในเขตพุทธาวาสแล้ว ภายในวัดแห่งนี้ยังมี"พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษาวัดหนังราชวรวิหาร" เก็บรวบรวม วัตถุโบราณ ข้าวของเครื่องใช้โบราณ ตำรายาโบราณ และสิ่งต่างๆ ในการจัดแสดงเพื่อการเรียนรู้มากมาย ... เสียดายที่ในวันที่เราไปเยือน พิพิธภัณฑ์ปิด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid 19
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปกับ พี่สุ
ท่องเที่ยวทั่วโลก กับพี่สุ
ซีรีย์เที่ยวเจาะลึก ประเทศนอร์เวย์
Iceland ดินแดนแห่งน้ำแข็งและเปลวไฟ
Lifestyle & อาหารการกิน แบบพี่สุ
สถานีความสุข by Supawan
โฆษณา