"วิ่งเล่นชมวิวในฐานทัพเรือสัตหีบ"
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราขอย้อนเวลาพาทุกคนไปเที่ยวโดยการวิ่งด้วยสองขา ชมวิวของทะเลสัตหีบข้างทางไปเรื่อยๆ เพราะการมาเที่ยวสัตหีบครั้งนี้เราไม่มีรถยนต์ส่วนตัวมาค่ะ ^^
โดยเส้นทางที่เราไปในวันนี้ จะเป็นเส้นทางที่ผ่านเข้าไปในฐานทัพเรือสัตหีบนะคะ เริ่มจากที่เราเดินทางจากเชียงใหม่ มาทำงานกับที่ทำงานโดยคณะรถตู้ ถือเป็นภารกิจหลัก และเมื่อทำงานเสร็จ ภารกิจรองหลังจากงานหลักคือการไปวิ่งเทรลในงาน NavyFrog Trail Challenge 2019 นะคะ ซึ่งภารกิจรองนี้เราทำภารกิจไม่สำเร็จค่ะ (DNF ระยะ 50 km จากที่ต้องวิ่งซ้ำรูทเดิม 2 รอบ แต่เราวิ่งได้แค่รอบเดียวนะคะ) ก็อยู่ในช่วงทำใจ เศร้าไปแป้บ แต่หลังจากวิ่งเทรลไม่สำเร็จ เรามีวันลาพักผ่อนต่ออีก 2 วัน เลยอยู่เที่ยวสัตหีบต่อค่ะ
ก่อนจะไปที่เส้นทางวิ่ง เราขอแนะนำที่พักสำหรับคนที่จะไป NavyFrog Trail ปีต่อไปนะคะ ถ้าเค้ายังใช้จุดปล่อยตัวจุดเดิม คือหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หาดน้ำใส นี้อยู่ ก็ขอแนะนำให้จองที่พัก คือ “บ้านพักรับรองหาดน้ำใส” ให้ทันนะคะ เพราะมันใกล้จุดปล่อยตัวมากกกกกกก เหมาะกับการลากสังขารอันเหนื่อยอ่อนเข้าที่พักเลยหลังจากวิ่งเสร็จ เราจองที่พักนี้ได้เพราะโทรไปจองวันแรกที่เค้าเปิดให้จองเลยค่ะ เลยได้ที่พักใกล้จุดปล่อยตัว สะดวกสบายมาก ที่พักอยู่หน้าหาดน้ำใสเลย บรรยากาศดีมาก ราคาแรงไปนิ๊ด แต่คุ้ม เอาบรรยากาศหน้าบ้านพักรับรองหาดน้ำใสมาให้ชมค่ะ
อันนี้บรรยากาศช่วงเย็นๆ ก่อนพระอาทิตย์ลับแนวเขา
ส่วนนี่ก็เป็นบรรยากาศหน้าหาดน้ำใสช่วงเช้าๆค่ะ หาดน้ำใสคนจะเยอะมากช่วงสายๆนะคะ แต่ช่วงเช้าคนยังน้อยมากค่ะ
การเข้ามาที่หาด เห็นว่าทางทหารจะมีที่จอดรถให้ และต้องนั่งสองแถวต่อเข้ามาหน้าหาด แต่กรณีเราพักที่บ้านพักรับรองหาดน้ำใส จะมีที่จอดรถใกล้ที่พักเลยค่ะ
น้ำใสมากจริงๆ สมชื่อหาด ^^
ที่พักแห่งที่สอง หลังจากที่เราเช็คเอ้าท์ออกจากหาดน้ำใสแล้ว เรายังเหลือวันลาพักผ่อนอีก 2 วัน เราก็เลยไปหาที่พักที่มันราคาถูกลง (บ้านพักรับรองหาดน้ำใส ราคาคืนวันเสาร์ 2,000 บาท คืนวันอาทิตย์เหลือ 1,400 บาท ราคาสูงไปนิด สำหรับการพักคนเดียวและงบน้อยอย่างเรา -_-") เราเลยเลือกไปที่ "กิจการอาคารรับรองสัตหีบ สวัสดิการอาคารรับรอง กองทัพเรือ (Sattahip Navy Hotel)" ห้องพักราคาคืนละ 900 บาท เช็คอินได้เวลาบ่ายสอง พิกัดอยู่ที่ถนนเลียบชายทะเล แถวๆหาดดงตาลค่ะ ทริปนี้เราไม่มีรถส่วนตัว และเดินทางคนเดียว เลยขอให้ทางที่พักเก่าเอารถมาส่งและให้ค่าทริปพี่คน-ขับรถที่มาส่งไปค่ะ ที่ รร.ใหม่นี้เราได้ไปอยู่อาคาร 8 คือทาง รร. จะมีหลายอาคาร ขึ้นกับราคาที่เลือก เราเจอให้ไปอยู่อาคาร 8 ซึ่งจะอยู่ด้านหลังสมาคมเรือใบค่ะ เราว่ากิจการอาคารรับรอง อาคาร 8 ที่เราได้พักนี้สภาพห้องพัก ห้องน้ำ ค่อนข้างเก่ามากเลย และราคาแพงไปหน่อย แถมราคานี้ยังไม่รวมอาหารเช้า แต่ห้องพักค่อนข้างกว้างนะคะ ในห้องมีประวัติของที่พักให้อ่าน ได้ความว่าอาคาร 8 นี้เดิมชื่อว่า อาคารศูนย์สมุทรกีฬา กองทัพเรือได้อนุมัติให้การกีฬาแห่งประเทศไทยได้ใช้เป็นสถานที่สำหรับก่อสร้างเป็นอาคาร ศูนย์สมุทรกีฬาทางน้ำ เพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 (อื้อหือออ นานมากก T_T) นอนๆไปคืนแรกก็หลับสบายดีนะคะ แต่ยังไงก้ตาม เราก็ว่ายังราคาแรงไป อันนี้สภาพห้องพักค่ะ
นอนที่นี่หนึ่งคืน จากนั้น เราเลย search หาที่พักใหม่ หลังจากพอจะรู้ทิศรู้ทางจากการเดินสำรวจเข้าไปทางตลาดสัตหีบแล้ว เห็นว่ามีที่พักที่เอาตึกแถวไปรีโนเวท เปิดเป็นโฮสเทลใหม่ เราเจอกับที่นี่ค่ะ
ที่พักแห่งที่สาม “Sattahiptale Botique Guesthouse&Hostel” เนื่องจากว่าที่นี่มีที่พักลักษณะเป็น dorm ห้องนึงนอนกันหลายเตียง เป็นห้องพักรวม เราได้โทรไปสอบถามที่พักแล้วว่าคืนนี้มีผู้เข้าพักเป็นน้องผู้หญิง 1 คน เราก็เลยจัดการย้ายที่พักไป ที่นี่ dorm ห้อง 8 เตียง ราคาเตียงละ 350 บาท/คืน เท่านั้นเองค่ะ ห้องพักไม่มีหน้าต่าง มีแอร์คอนดิชั่น และห้องน้ำรวม ซึ่งเราเคยนอนโฮสเทลที่ต่างประเทศอยู่หลายครั้งแล้ว และวันที่ไปพักเป็นวันธรรมดา เลยคิดว่าน่าจะมีแขกแค่เรากะน้องผู้หญิงอีกคนเท่านั้น และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ห้อง 8 เตียงคืนนั้นก็มีแค่เรากะน้องผู้หญิงที่มาพักก่อนเราแค่ 2 คนจริงๆค่ะ โฮสเทลนี้เป็นตึกแถวเก่านะคะ แต่เอามารีโนเวทใหม่ อยู่ในตลาดสัตหีบ พิกัดใกล้กับวัดหลวงพ่ออี๋ ภายในตกแต่งน่ารักเก๋ไก๋มากค่ะ ห้องพักมีหลายห้อง หลายแบบ หลายราคา ต้องลองเข้าไปดูในเพจเค้าเอง แต่เราเลือกอยู่ที่ราคาประหยัดสุดค่ะ จุดเด่นของโฮสเทลนี้คือ ชั้นดาดฟ้าค่ะ กลางคืนเป็นบาร์ รับแต่แขกเฉพาะของโฮสเทลเท่านั้น มองเห็นวิวทะเลติดกับหลังคาชาวบ้าน เก๋ๆ สวยๆค่ะ วิวดาดฟ้านี้รับรองว่าใครมาต้องมาถ่ายรูปเช็คอินกันทุกคน ซึ่งเราเหลือเวลาพักร้อนอีกแค่วันเดียว และไม่ได้ออกไปเที่ยวเกาะที่ไหน เพราะยังเพลียกับการวิ่งเทรล เลยเลือกใช้เวลาพักทั้งวันรับลม และชมวิวทะเลอยู่บบดาดฟ้าโฮสเทลนี้แหล่ะค่ะ เอารูปที่พักมาให้ดูค่ะ ส่วนห้องพักอื่นๆเราเข้าไปดูไม่ได้นะคะ แต่ดูจากในเพจของทางโฮสเทลก็น่ารักมากๆค่ะ
รูปนี้หัองพักด้านบนเป็นห้องพักรวมแบบ 8 เตียงนะคะ เป็นแบบ mix-dormed แต่คืนนี้มีแค่เรากะน้องผู้หญิงอีกแค่คนเดียว อิอิ
ส่วนที่ดีงามของโรงแรมนี้ก็คือ ชั้นดาดฟ้าที่เห็นวิวทะเลค่ะ ตอนกลางคืนจะกลายเป็นบาร์เล็กๆ แต่เราไม่ได้ขึ้นมาช่วงกลางคืนเพราะเหนื่อยมากเลยพักผ่อนค่ะ
วิวทะเลจากบนดาดฟ้าค่ะ
รูปนี้ซูมไปฝั่งซ้ายไกลๆ ใช้มือถือซูมภาพเลยแตก ฝั้งซ้ายจะเป็นหาดดงตาลค่ะ ที่เห็นเล็กๆขาวๆในทะเลนั่นคือเรือใบ บริเวณตรงนั้นก็คือแถวๆอาคาร 8 หรือศูนย์สมุทรกีฬาที่พักเก่าที่เราเพิ่มย้ายมาค่ะ เค้ามีสอนแล่นเรือใบกันด้วย ปิดเทอมมีเด็กๆมาเรียนกันเยอะเลย ดูน่าสนุก
หลังจากนั่งๆนอนๆ ถ่ายรูปเล่น บนดาดฟ้าของโฮสเทล เราก็หากิจกรรมใหม่ทำ นั่นคือการหาที่กิน ฮ่าๆๆ ไปหาร้านกาแฟ และขนมเค้กกินกันค่ะ ไม่รู้จักร้านไหน ก็อาศัยเปิด google หาเอา และแล้วเราก็ได้ร้านกาแฟและมีขนมเค้ก น่ารักน่านั่ง ติดริมทะเล อยู่ไม่ไกลจากโฮสเทลเลย ชื่อร้านว่า Coffee beach ค่ะ สั่งขนมเค้กและชาเย็นมานั่งกินรับลมเล่นๆนอกร้านดูวิวทะเล รูปวิวจากร้าน Coffee Beach นะคะ
นั่งร้านเค้กได้แป้บเดียวฝนก็ตก กินเค้กเสร็จ รอฝนหยุดก็เกือบสี่โมงเย็นพอดี โปรแกรมสุดท้ายที่เราตั้งใจจะทำคือการออกไปวิ่งริมทะเล ถึงแม้ร่างและขา จะล้าและเพลียจากการวิ่งเทรลมาเมื่อสองคืนก่อน แต่ว่าไหนๆก็มาสัตหีบแล้ว ความฝันคือการได้ไปวิ่งเล่นริมทะเล ฮ่าๆๆ เลยออกจากร้านเค้กสี่โมงเย็นก็กลับไปเปลี่ยนชุดวิ่งที่โฮสเทล รองเท้าวิ่งถนนก็ไม่ได้เตรียมมา ก็เอารองเท้าเทรลนั่นแหล่ะค่ะมาวิ่ง เอารูปรองเท้าให้ดูหน่อย นี่สภาพหลังกลับจากวิ่ง 29 km และ dnf กลับมา เราก็เอารองเท้าไปฉีดๆน้ำ ให้ฝุ่นมันออกก่อนนะ นี่เลยค่ะ Altra Superior 3.0 คู่เก่ง เอาวิ่งถนนมันก็จะกระเทือนๆนิดนึงแต่เราชินแล้ว ป่ะ ไปเปลี่ยนชุด ไปวิ่งเล่นกันค่ะ ^^
สภาพเท้าหลังจาก dnf งานวิ่งเทรลมานะคะ ^^
ก่อนวิ่ง เราหาเส้นทางวิ่ง โดยการเปิดแอป Suunto ซึ่งเป็นแอปสำหรับนาฬิกาวิ่งซุนโต้ของเรา ในแอปมันจะมีหน้าของ map ซึ่งในหน้า map นั้นก็มี map หลายแบบให้เลือก เช่น Terrain, Satellite และ ที่เราใช้คือ Heat map ซึ่ง Heat map มันจะแสดงเส้นทางที่มีผู้ใช้งานเส้นทางนั้นสำหรับใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น วิ่ง หรือปั่นจักรยาน ซึ่เราก็สามารเลือกได้ ถ้าเส้นทางไหนที่มีผู้ใช้งานมาก heat map ก็จะขึ้นเป็นสีส้มเด่นชัดขึ้นตามจำนวนการใช้งานเส้นทางนั้นๆ และเส้นทางที่เราตั้งใจเลือกวิ่งในวันนี้ตอนแรกก็คือเส้นทางตามรูปนี้เลยค่ะ เริ่มจากบริเวณที่พัก อยู่แถวๆวัดหลวงพ่ออี๋ แล้วไปทางฐานทัพเรือสัตหีบ จุดหมายเราคือ หาดเตยงามค่ะ ตอนแรกสิ่งที่คิดไว้คือจะวิ่งย้อนไปทางหาดดงตาลก่อน แล้วค่อยวิ่งไปหาดเตยงาม แต่ดูระยะทาง เวลาที่ใกล้ค่ำ และอัตราการวิ่งที่ช้ามากๆของเราแล้วคงเก็บไม่ได้ 2 หาดในการวิ่งครั้งเดียว เราเลยตัดสินใจมุ่งหน้าไปหาดเตยงามก่อนค่ะ และตั้งใจจะวิ่งกลับเส้นทางเดิม ตามเส้นทาง Heat map เลาะชายหาดที่ส้มเข้มที่สุดนั่นแหล่ะค่ะ
เราเริ่มจากโฮสเทล มุ่งหน้าสู่ประตูใหญ่ของฐานทัพเรือสัตหีบ หน้าประตูมีทหารคอยกั้นรถ ก่อนวิ่งเข้าไปก็แวะถามเค้าหน่อยว่า เข้าไปวิ่งข้างในเขตทหารได้มั๊ย ต้องแลกบัตรรึเปล่า คุณทหารบอกวิ่งเข้าไปได้เลย ไม่ต้องแลกบัตรค่ะ เราก็เข้าไปเลยค่ะ ช่วงแรกๆด้านซ้ายมือภายในค่ายทหาร จะเห็นวิวทะเลแบบนี้ค่ะ เราวิ่งเลาะขอบถนนไปนะคะ ถึงแม้จะใส่รองเท้าเทรลแต่ก็ไม่ได้ไปวิ่งบนชายหาดค่ะ ^^ วิวทะเลด้านซ้ายมือสวยมาก ต้องวิ่งไป หยุดถ่ายรูปเล่นไปเป็นระยะๆ
วิ่งไปเรื่อยๆ เราจะเจอกับร้านกาแฟคาเฟ่อะเมซอนค่ะ เราว่าต้องเป็นคาเฟ่อะเมซอนสาขาที่มีวิวสวยที่สุดในประเทศแน่ๆเลย ดูบรรยากาศซิ เสียดายที่เราเพิ่งรู้ว่ามี ไม่งั้นก่อนหน้านี้คงมาชิวๆเล่นที่ร้านนี้แล้ว
วิ่งต่อมาอีกนิด เจอแหลมม้าน้ำ
ตรงแหลมม้าน้ำ จะเป็นทางแยก เราเลือกไปทางขวา ขึ้นเนินไปนิดหน่อย เพราะไปตามเส้นทางใน heat map ค่ะ เส้นทางจะผ่านสวนสุขภาพฐานทัพเรือสัตหีบทางซ้ายมือ ซึ่งมีคนออกมาวิ่งกันบ้างแล้ว แต่เราจะไม่หยุดที่สวนสุขภาพนี้เพื่อวิ่ง เรามุ่งหน้าต่อไปค่ะ ไปเรื่อยๆตาม heat map จะเจอกับวงเวียน ตรงวงเวียนจะเป็นกองบัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ถึงตรงนี้ ดู heat map ไม่ค่อยออกเลยแวะถามน้องทหารว่าหาดเตยงามไปทางไหน น้องถามกลับมาว่า จะไปเส้นไหน ขึ้นเขาไปเหรอ เราก็บอกว่า ไม่ใช่ จะเลียบชายทะเลไป เพราะเราเข้าใจผิดว่า เส้นทางตาม heat map มันคือทางเลียบชายทะเล น้องก็ชี้ๆทางไป เราก็วิ่งไปแบบงงๆ ซักพัก เห็นนักวิ่งมาเรื่อยๆ เค้าวิ่งไปทางไหน เราก็ตามเค้าไปเลยจ้า ตามไปเรื่อยๆ เห้ย เส้นทางมันพาขึ้นเขา ขึ้นเขาจริงๆดังน้องทหารว่าไว้ จริงๆเส้นทางตาม heat map ก็ถูกต้องแล้ว แต่เราดันดูไม่ออกเองว่ามันคือเส้นทางที่ขึ้นเขา แถมวิ่งไปเจอฝูงน้องลิง ออกมาเดินเล่นบนถนนเพื่อขออาหารคนเพียบเลยจ้า แถมพี่ๆนักวิ่งที่วิ่งนำหน้าไปก็วิ่งเร็วกันเหลือเกิน หายไปข้างหน้าแบบที่เราตามไม่ทัน เราก็เลยต้องวิ่งผ่านฝูงน้องลิงไปแบบกล้าๆกลัวๆ
หลังจากวิ่งขึ้นเนินมาจนสุด ก็จะเจอกับทางแยก ถ้าตรงไปลงเนิน จะไปทางหาดเตยงาม แต่ระหว่างวิ่งเราเจอกับคุณป้าคนนึง เค้าบอกว่า ถ้าไปทางซ้ายขึ้นเนินไปอีกประมาณ 2 km ก็จะเจอกับศาลเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพร เค้าบอกว่า ไหนๆมาไกลแล้วก็มาไหว้ท่านหน่อยมั๊ย ไอ้เราก็ใจง่าย เค้าแนะนำให้ไปอ่ะ ก็ไป วิ่งขึ้นเนินต่อค่ะ ระหว่างทางวิ่งขึ้นเจอคนสวนมา ก็คอยถามเค้าตลอดว่าอีกไกลมั๊ย เหนื่อย ฮ่าๆ เจอพี่ทหารคนนึงใจดี วิ่งขึ้นมาส่งค่ะ ระหว่างทางก่อนถึงศาลกรมหลวงชุมพร จะมีจุดชมวิวด้วยค่ะ แวะพัก ชมวิวกันซักนิด และพี่ทหารยังพาขึ้นทางบันได เป็นทางลัดขึ้นมาถึงศาลกรมหลวงชุมพรอีกด้านนึงค่ะ
ไหว้เสด็จเตี่ยเสร็จก็ไปถ่ายรูปที่จุดชมวิวแหลมปู่เจ้าค่ะ เห็นวิวท้องทะเลสัตหีบสวยงามมาก ดีใจที่ได้ขึ้นมา เกือบจะแพ้เนิน ไม่ขึ้นมาแล้วเชียว
ข้างบนมีนักวิ่งเจ้าถิ่นมาซ้อมวิ่งกันเยอะเชียวค่ะ แข็งแรงๆทั้งนั้น ^^
จากศาลกรมหลวงชุมพร แหลมปู่เจ้า เราวิ่งกลับลงมาตามถนน (คราวนี้เหนื่อยน้อยลงละเพราะวิ่งลงเขา ฮาาา) กลับมาถึงทางแยกเดิม เราก็ลงเนินไปตามทางที่จะไปหาดเตยงามค่ะ เพราะเป้าหมายเรายังไม่บรรลุ ฮ่าๆ ระหว่างทางไปหาดเตยงาม ก็จะผ่านร้านอาหารสโมสรเรือนสักประดู่ ผ่านอาคารเอนกประสงค์ นย. ที่พี่ทหารเล่าว่าเค้ามักจะมาใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน ผ่านพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธิน และวิ่งไปเจอวงเวียนที่เป็นอนุเสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน เราวิ่งไปแวะถ่ายรูปเล่นไปทุกจุดค่ะ ^^
ถัดจากอนุเสาวรีย์นาวิกโยธินสัตหีบไปก็จะมองเห็นหาดเตยงาม จุดมุ่งหมายในวันนี้ของเรา ไปถึงก็เมื่อพระอาทิตย์ใกล้ลับสันเขาพอดี
หาดเตยงามยามเย็นสวยงามมากค่ะ ยังมีประชาชน เด็กๆ เล่นน้ำทะเลกันเยอะอยู่
พี่ทหารบอกว่า มองไปฝั่งตรงข้าม จะเรียกว่า ผาวชิราลงกรณ์ ค่ะ
สุดท้ายก่อนกลับ ขอถ่ายป้ายหาดเตยงามไว้เป็นที่ระลึกซักหน่อย
ขากลับ ความตั้งใจตอนแรกเราจะวิ่งไปจนสุดหาดเตยงาม ตาม heat map แต่ด้วยเวลาใกล้ค่ำ และจะมืดแล้ว ตัดสินใจว่าต้องวิ่งกลับแล้ว แต่เราจะเปลี่ยนเส้นทาง เพราะเส้นเดิมต้องวิ่งขึ้นเขาและผ่านฝูงลิง และขากลับเป็นเวลามืดแล้วด้วย เลยตัดสินใจวิ่งลัดผ่านตัวฐานทัพเรือ เพื่อกลับไปยังวัดสัตหีบค่ะ ขากลับวิ่งแบบมืดๆนิดหน่อย แต่เส้นทางไม่ได้มีอะไรน่ากลัวค่ะเพราะอยู่ในเขตทหารและเขตชุมชน ไม่เปลี่ยวน่ากลัวอะไร
สุดท้ายแล้วเรากลับถึงที่พัก ใช้เวลาและระยะทางไปทั้งหมด 16 km ด้วยเวลา 2 ชม.ครึ่ง เพซ 9.36 แบบสบายๆ วิ่งไปถ่ายรูปเล่นไปค่ะ
ปิดท้ายด้วยภาพนี้ Altitude เบาๆ 157 m จากระดับน้ำทะเล ถือว่าไม่สูงมาก แต่เรียกเหงื่อ และ HR ได้ดีทีเดียวค่ะ เห็นว่าเส้นทางวิ่งนี้ใช้ในงานวิ่งนาวิกโยธินมาราธอนด้วยนะคะ เค้าว่าวิ่งผ่านเรือหลวงจักรีนฤเบศน์ด้วย แต่เรายังไม่เคยมาเลย ไว้มีโอกาสซักปีคงได้ลงงานนี้เนอะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
