สุข ทุกข์
คลื่นลมและน้ำทะเลมีขึ้นมีลง ดั่งเช่นชีวิตคนเราที่มีช่วงที่ดีมีสุข สมหวัง และบางช่วงก็ต้องมีปัญหาเข้ามาบ้าง เพื่อลับคมปัญญา ท้าทายสติ ให้เกิดการเรียนรู้ พิจารณาในสิ่งที่เป็นไป
หลาย ๆ ครั้งที่คนเรามักจะหนีปัญหา (ตัวผู้เขียนก็เป็น) ไม่ใช่เรื่องแปลก มันคือกลไกชีวิต สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์ สำหรับผู้เขียนมองว่าเป็นเรื่องปกตินะ
เมื่อวันหนึ่งที่ตัดสินใจว่า ต่อไปจะไม่หนีปัญหาอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไร จะขออยู่ ดู จะเป็นเพื่อนกับความรู้สึก ณ ช่วงเวลานั้น เราจะไม่ทิ้งใจตัวเอง จะไม่ซ้อนความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จะจับมาชำแหละ แยกมันออกมาดูแทน
ไม่ว่าจะเป็นสุข ทุกข์ รัก โลภ โกรธ หลง (ความรู้สึกสุขก็เป็นปัญหา)
เราจะเห็นเขาให้ไว จะไม่ทิ้งเขาอีกแล้ว และจะเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อก้าวข้ามสิ่งที่เป็นปัญหา สิ่งที่สงสัย สิ่งที่เป็นทุกข์เหล่านั้นไปให้ได้
เพราะปัญหา กลัวปัญญา
ปัญหา คือความทุกข์ ปัญญา คือความสุข
มีใครไหม เกิดมาบนโลกนี้แล้วไม่มีทุกข์ ? ถ้าไม่โกหกตัวเองเกินไป ก็ต้องตอบว่าไม่มี
แค่คิดจะมีความสุข ทุกข์ก็รออยู่ข้างหน้าแล้วค่ะ
ในความเป็นจริง มีแต่คนต้องการความสุข และปฏิเสธความทุกข์
ผู้เขียนรู้สึกเสียดายโอกาสแทนบุคคลเหล่านั้นจัง
ถ้าคนเราได้หยุดคิดสักนิด ยิ้มให้ตัวเองสักหน่อย เราจะค่อย ๆ มีแรง มีกำลังใจ ขึ้นนะ
ความทุกข์นั้น เป็นสิ่งมีค่ามาก
มากแค่ไหนเหรอ ผู้เขียนขอยกตัวอย่าง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านยอมเสียสละ ความสุข ความสบายทั้งหมดของชีวิต
เพื่อไปเรียนรู้และเข้าใจในความทุกข์ยาก ลำบาก เพราะหากท่านเข้าไม่ถึง หรือไม่เข้าใจในความรู้สึกเหล่านั้น ท่านจะสอนคนอื่นให้พ้นทุกข์ ได้อย่างไร
ทุกวันนี้ใคร ๆ ต่างก็หลงยินดีไปกับคำว่า คิดบวก + คือความสุข ต้องสุขนะ ต้องสุขเท่านั้น แม้จะโกหกตัวเอง หรือผู้อื่น ก็ต้องพูดแต่เรื่องบวก ๆ ๆ เพื่อส่งพลังบวก
ใครคิดต่าง พูดต่าง จะโดนแยกออกไปเป็นคนคิดลบ ไม่น่าคบขึ้นมาทันที (น่าสงสาร) ทำให้ทุกวันนี้คนไม่ค่อยกล้าเผยใจปรับทุกข์กัน เพราะกลัวโดนข้อหา เป็นคนคิดลบ
ลองไปศึกษาชีวประวัติของบุคคลต้นแบบ ไอดอล เศรษฐี มหาเศรษฐี ดูสิ
หรือไลฟ์โค้ชต่าง ๆ ก็ได้ จริงอยู่เขาสอนคนให้คิดแต่เรื่องดี ๆ ให้ไปมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่เรื่องที่เขาพูดบนเวทีมีแต่เรื่องราวความทุกข์ ความเจ็บปวด ปม ปัญหาชีวิตของเขาเหล่านั้นทั้งนั้น ว่าก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จ เขาเจอปัญหาอะไรมาบ้าง ทุกข์ ยาก ลำบากแค่ไหน
เราผู้ฟังก็เคลิ้มไปกับความสำเร็จของเขา ณ ปัจจุบันกันไปสิ
ส่วนความเจ็บปวดของเขาเหล่านั้นแทบไม่มีใครสนใจ
ทุกความสำเร็จ มีเรื่องให้เล่า
การเสียสละบางช่วงเวลาของชีวิต เพื่อเรียนรู้เข้าใจในทุกข์นั้นมีค่ามาก อย่าปฏิเสธที่จะเห็นความทุกข์ในใจอีกเลย
แค่รู้ เห็น และยอมรับในทุกข์ที่เกิดขึ้น
ความทุกข์ขี้อายมาก พอเราเห็นเขา เขาจะตัวเล็กลงทันที แล้วค่อย ๆ หายไป ในที่สุด
ความสุขจะตรงข้ามกัน ถ้าชอบความสุข ให้ทักทายเขาบ่อย ๆ
เพราะความสุขบ้ายอ ยิ่งเราใส่พลังให้เขามาก เขายิ่งแสดงตัวชัดเจน และตอบแทนความจงรักภักดีของเราเหมือนเด็กทารก ซื่อ ใส บริสุทธิ์ ทรงพลัง
ถ้าความสุข สมหวัง ความสำเร็จ ที่รออยู่ข้างหน้า คือรางวัลที่ใคร ๆ ก็เฝ้าฝันถึง
งั้นความทุกข์ก็คงเป็นราก เป็นฐาน เป็นบันได ให้ไปถึงซึ่งความสุข
กว่าจะถึงวันนั้น นานนะ รอไหวไหม
ผู้เขียนมีวิธีมาแนะนำนิดหนึ่งนะคะ ก็ความสุขมีพลังขนาดนั้น ทำไมต้องรอละ สุขเลยสิ เดี๋ยวนี้ ทันที
สุขง่าย ๆ สุขได้ทันที ที่ใจเรา ที่ความนึกคิด ปรุงใจให้สุข
คนเรามักจะเก่งในการปรุงแต่งจินตนาการไปในทางไม่ดี คิดเผื่อ แผน A แผน B
ก็ถ้าจะปรุงกันเก่ง ขนาดนั้น แล้วทำไม ไม่ลองปรุงดี ปรุงสุขบ้างละ ลองดูสิ
ปล.ผู้เขียนเป็นคนโลกสวยมาก ในขณะเดียวกันก็ไม่ปฏิเสธความทุกข์ ไม่ว่าจะของตัวเอง หรือของคนอื่น ก็มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา น่ายินดี ทั้งนั้น
ยินดีกับคนที่เกิดมาแล้วมีแต่ความสุข สมหวัง ไม่ต้องรู้จัก หรือประสบกับความทุกข์ใด ๆ
และขอเอาใจช่วยกับคนที่กำลังเจอบททดสอบ ถ้าคุณผ่านมันมาได้ คุณจะมีเรื่องเล่าของความสำเร็จเป็นของตัวเอง.
...ส่งใจให้ค่ะ
รักกันไว้นะทุกคน
*** ขยายความคำว่า " ความรู้สึกสุข ก็เป็นปัญหา" ความสุขนั้นเป็นคลื่นพลังงานที่ดี แต่เมื่อใดก็ตามที่คนเรา หลงสุข ยึดสุข ติดสุข เมื่อนั้นความทุกข์ก็เกิดขึ้น ***
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
