ออกกำลังกายชนิดไหนลดไขมันได้ดีกว่า
ก่อนอื่นต้องรู้จักระบบพลังงานร่างกายก่อน
เพราะว่ากีฬาเป็นกิจกรรมที่ร่างกายต้องสร้างพลังงานเพื่อประคองให้ร่างกายทำกิจกรรมนั้นได้จนเสร็จสมบูรณ์
ร่างกายจะดึงพลังงานมาใช้จาก 3 ส่วน
1. กล้ามเนื้อเป็นส่วนแรก ที่ร่างกายจะดึงพลังงานมาใช้ ระบบนี้เราจะเรียกการเผาพลาญพลังงานว่า ระบบฟอสเฟส กล้ามเนื้อเราจะสะสมพลังงานไว้ใช้สำหรับออกแรงในช่วงสั้นๆ ซึ่งจะกินเวลาแค่ 1 นาทีแรก เพราะกล้ามเนื้อเราไม่สะสมพลังงานมากนัก เหมาะกับการกระโดด วิ่งสั้นๆ speed เร็วๆ ไม่นาน หรือยกน้ำหนักเป็นต้น
2. พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต พลังงานนี้ร่างกายจะดึงมาจากคาร์โบไฮเดรตที่สะสมอยู่ในตับในรูปของสารที่ชื่อว่า ไกลโคเจน เราจึงเรียกระบบเผาพลาญพลังงานแบบนี้ว่า ระบบไกลโคเจน ร่างกายจะใช้คาร์โบไฮเดรต มาสร้างพลังงานหลังจาก 1-4 นาทีแรกของการออกกำลังกาย ถ้าวิ่งๆ หยุดๆ จะไม่ได้ใช้พลังงานจากไขมัน แต่จะใช้จากตับแทน นอกจากนี้ยังมีการเผาผลาญพลังงานแบบไม่ใช้ออกซิเจนมาเผาผลาญพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตด้วยเช่นกัน ซึ่งจะให้พลังงานเพียง 3-4 หน่วย หรือที่เรียกว่า ATP
3. พลังงานจากไขมัน เป็นระบบพลังงานเผาพลาญที่ต้องใช้ออกซิเจน ระบบนี้จะเป็นระบบที่ร่างกายดึงพลังงานจากไขมันมาใช้ จะเกิดในช่วง 4-10 นาทีหลังจากเราเริ่มออกกำลังกาย ระบบนี้จะให้พลังงานมากสุด คือ 38 หน่วย หรือ ATP ระบบนี้จะใช้เมื่อร่างกายต้องออกกำลังงานด้วยพลังงานที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นถ้าจะออกกำลังกายให้ใช้ไขมัน ควรออกต่อเนื่องเกิน 10 นาที
แต่ว่าปัจจัยสำคัญคือ ในแต่ละกีฬา จะใช้การเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันทำให้ใช้พลังงานต่างกัน เนื่องจาก การใช้พลังงานนั้นจะขึ้นกับปัจจัย อย่าง ความต่อเนื่อง การใช้แรงมากน้อย (intensity) และ ระยะเวลาของการออกกำลังกาย ดังนั้น วิ่งระยะยาวและว่ายน้ำ อาศัยความต่อเนื่องของการเคลื่อนไหวร่างกายมากกว่า จำเป็นต้องใช้พลังงานที่มากและคงที่ จึงทำให้วิ่งและว่ายน้ำ ต้องใช้พลังงานจากไขมันมากกว่า กีฬาชนิดอื่น
ฟุตบอล บาสเกตบอล เป็นกีฬาที่วิ่งๆ หยุดๆ จะใช้พลังงานจากไขมันค่อนข้างน้อย
ส่วนกอล์ฟเป็นกีฬาที่ไม่ได้ใช้พลังงานจากไขมันเลย
- 74
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
