Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องมีอยู่ว่า
•
ติดตาม
28 ก.พ. 2021 เวลา 03:19 • การ์ตูน
" ซินเดอเรลล่าของพี่น้องกริมม์ไม่ได้ใส่รองเท้าแก้ว "
1
รู้กันไหมคะ ว่าในเวอร์ชั่นนิทานกริมม์ ซินเดอเรลล่าไม่มีรองเท้าแก้วนะคะ ทีนี้สงสัยกันใช่ไหมคะ ว่าไม่มีรองเท้าแก้วแล้ว เรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางไหน? เจ้าชายจะตามหาซินเดอเรลล่าเจอได้ยังไง?
3
เรื่องราวของซินเดอเรลล่าในเวอร์ชั่นกริมม์เริ่มต้นด้วย ผู้หญิงคนนึงที่เป็นเมียเศรษฐี นางป่วยและกำลังจะตายและนางมีลูกสาวคนหนึ่งชื่อว่า "แอนน์ เดล ทาโคล หรือ แอนน์แห่งทาโคลบัน" ในขณะที่นางรู้ตัวว่านางกำลังจะตาย นางได้เรียกลูกสาวของตัวเองเข้าไปคุยด้วยเพื่อจะสั่งเสียว่า "ลูกรัก ตอนนี้แม่รู้ตัวว่าแม่คงมีชีวิตต่อไปไม่ไหวแล้ว และแม่เชื่อว่าลูกจะสามารถอยู่ด้วยตัวเองได้ แต่ขอให้ลูกยึดมั่นเอาไว้ 2 เรื่อง เรื่องแรกก็คือขอให้ลูกยึดมั่นในความดี และอย่างที่ 2 ขอให้ลูกยึดมั่นในความเชื่อ ถ้าลูกมีทั้งความดีและความเชื่อ ลูกก็จะอยู่ได้ด้วยตัวเองอย่างแน่นอน" พอพูดจบมือของนางก็ตกลงและสิ้นใจไป ทำให้แอนน์เสียใจมาก หลังจากที่แม่ของแอนน์ตายไป เธอก็ไปที่หลุมศพของแม่หลังบ้านทุกวัน และร้องห่มร้องไห้จนน้ำตาของเธอชุ่มไปทั่วหลุมศพของแม่เธอ
เวลาผ่านไปจากวันที่แม่ของแอนน์ตายไปก็เข้าสู่ฤดูหนาว จากฤดูหนาวก็เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ และในฤดูใบไม้ผลิปีนั้นเอง พ่อของแอนน์ก็พาเมียใหม่เข้าบ้านพร้อมกับลูกติดอีก 2 คน ซึ่งลูกสาว 2 คนนี้หน้าตาดีมาก แต่มีจิตใจที่โหดร้าย อิจฉาริษยา และใจดำมาก
1
ดังนั้นเมื่อทั้งหมดเข้ามาอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน พ่อก็ต้องเอาใจเมียใหม่และลูก ๆ ของเมียใหม่ด้วย ลูกสาวทั้ง 2 คนก็เลยได้ใจ ถือโอกาสกลั่นแกล้งและจิกหัวใช้แอนน์สารพัด แถมยังยึดทุกสิ่งทุกอย่างของแอนน์มาเป็นของตัวเอง "นี่แก คนที่ไม่มีงานทำน่ะ ไม่ควรจะมีข้าวกินหรอกนะ คนไม่มีประโยชน์อย่างแกจะมีข้าวกินไปทำไม และแกก็ไม่ควรใส่ชุดสวย ๆ พวกนี้หรอก คนอย่างแกควรไปทำงานแลกอาหารมากกว่านะ" ว่าแล้วก็ยึดเครื่องประดับ เพชรนิลจินดา ของใช้ทุกอย่าง รวมถึงชุดของแอนน์ไปหมด เอาชุดสกปรกปอน ๆ ของคนรับใช้ให้ใส่ และยังต้องทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านของตัวเอง เธอไม่เหลือแม้กระทั่งที่นอน ทุกวันหลังจากที่แอนน์ทำงานเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน เธอต้องไปนอนอยู่หน้าเตาผิงในบ้านอย่างอนาถา จนเนื้อตัวของเธอนั้นสกปรกมอมแมมเต็มไปด้วยขี้เถ้า ทุกคนก็เลยเรียกแอนน์ว่า "ซินเดอเรลล่า"
5
วันหนึ่ง พ่อของแอนน์ต้องออกไปค้าขายต่างเมือง จึงถามลูก ๆ ทั้ง 3 ว่า "ลูกพ่อ อยากได้อะไรจากต่างเมืองกันไหม? หลังจากค้าขายพ่อจะหามาให้" พี่สาวคนแรกบอกว่า "หนูขอเครื่องประดับสวย ๆ เพชรนิลจินดาแบบที่ไม่ซ้ำกับใครในเมืองนี้" พี่สาวคนรองบอกว่า "หนูขอเสื้อผ้าที่ดูแพงหรูหราไฮโซ และสวยกว่าทุกชุดที่มีในเมืองนี้" และพ่อก็หันไปถามแอนน์ว่า "แล้วเธอล่ะ อยากได้อะไร?" แอนน์มองหน้าพ่อและตอบกลับไปว่า "หนูไม่ขออะไรมากเลย สิ่งเดียวที่หนูอยากได้คือ กิ่งไม้กิ่งแรกที่ชนหมวกของพ่อจนตกลงไปกับพื้นระหว่างที่พ่อเดินทางกลับบ้านเท่านั้น" พ่อก็ตอบตกลงกับลูก ๆ ทั้งสาม และออกไปค้าขายต่างเมือง
1
เมื่อพ่อของแอนน์ทำธุระเสร็จ ก่อนกลับก็ได้หาซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับมากมายให้กับลูก ๆ ทั้งสองตามคำขอ โดยที่ลืมแอนน์ไปสนิท แต่เมื่อพ่อกำลังเดินทางกลับ ระหว่างทางก็ได้มีกิ่งไม้กิ่งหนึ่งมาชนหัวพ่อจนหมวกตกลงพื้น จึงทำให้นึกได้ว่าเป็นสิ่งที่แอนน์ได้ขอไว้ พ่อจึงจัดการหักกิ่งไม้กิ่งนั้นและนำกลับมาให้แอนน์ด้วย
เมื่อมาถึงบ้าน แอนน์ก็นำกิ่งไม้ที่พ่อเอามาให้ไปไว้ที่หลุมศพของแม่เธอ แล้วเธอก็นั่งร้องไห้เหมือนทุก ๆ วัน ซึ่งแอนน์ร้องไห้หนักมากถึงขั้นน้ำตาของเธอนั้นชุ่มโชกไปทั่วหลุมศพของแม่เธอ จนทำไม้น้ำตาของเธอไปโดนกิ่งไม้ ทำให้มีรากงอกออกมา และค่อย ๆ เกิดเป็นต้นไม้ต้นใหญ่ โดยทุกวันแอนน์รดน้ำต้นไม้ต้นนี้ด้วยน้ำตาของเธอเอง
หลังจากที่แอนน์ปลูกต้นไม้ต้นนี้ (ด้วยร้ำตาของเธอเอง) ไปได้สักระยะเวลาหนึ่ง ต้นไม้ต้นนี้ก็เริ่มออกดอกออกผล และต้นไม้ต้นนี้ก็มีนกพิราบ 2 ตัวมาอาศัยอยู่ด้วย นกพิราบ 2 ตัวนี้ไม่เหมือนนกพิราบทั่วไป ความพิเศษอยู่ตรงที่ ไม่ว่าแอนน์จะร้องขออะไร นกพิราบก็จะทำให้คำขอของแอนน์นั้นเป็นจริง
จนกระทั่งวันหนึ่ง พี่สาวทั้ง 2 ของแอนน์ก็เรียกให้เธอไปช่วยทำผม แต่งหน้า แต่งตัว และดูรีบร้อนมาก แอนน์ก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น จนเธอได้รู้ในภายหลังว่าในเมืองจะมีการจัดงานขึ้นงานนึง ซึ่งจัดขึ้นโดยพระราชายาวถึง 3 วัน เป็นงานเลี้ยงเต้นรำ เพื่อให้เจ้าชายของเมืองได้เจอกับสาว ๆ ทุกคนในเมือง เผื่อว่าเจ้าชายจะได้เลือกผู้หญิงสักคนมาเป็นเจ้าสาว
1
ซึ่งพอแอนน์รู้ก็อยากไปงานเลี้ยงนี้ด้วยเหมือนกัน จึงขอแม่เลี้ยงไปงานนี้ด้วย แต่แม่เลี้ยงก็ปฏิเสธไม่ให้ไป แอนน์อยากไปมากจึงพยายามตื๊อและร้องขอกับแม่เลี้ยง จนแม่เลี้ยงถือจานถั่วมากจานหนึ่ง และเทถั่วในจานลงไปในกองขี้เถ้าหน้าเตาผิง แล้วบอกกับแอนน์ว่า "ซินเดอเรลล่า ดูสิตอนนี้ถั่วกับขี้เถ้ามันปนกันอยู่ ถ้าเธอสามารถแยกถั่วออกจากขี้เถ้า และแยกเม็ดถั่วที่ดีและไม่ดีออกจากกันได้ ภายในเวลา 2 ชม. ฉันจะยอมให้เธอไปด้วย" แอนน์รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองโดนกลั่นแกล้ง จึงร้องไห้และวิ่งออกไปที่หลุมศพแม่ เธอนั่งร้องไห้คร่ำครวญ แล้วได้แต่พูดว่าจะทำยังดี ตนไม่มีทางแยกเม็ดถั่วออกขี้เถ้าได้ทันภายในเวลา 2 ชม.แน่ ๆ นกพิราบทั้ง 2 ตัวที่ได้ยิน ก็พากันบินออกมาไปที่เตาผิง และช่วยกันจิกแยกเม็ดถั่วออกจากขี้เถ้า นกทั้ง 2 ตัวแยกเม็ดถั่วเสร็จภายในเวลาไม่ถึง 1 ชม.ด้วยซ้ำ แอนน์ดีใจมากจึงรีบไปรายงานให้แม่เลี้ยงทราบ แต่แม่เลี้ยงก็ยังไม่ยอมให้ไป พร้อมกับเดินไปหยิบจานถั่วมา 2 จาน เทลงไปในกองขี้เถ้า และพูดว่า "ซินเดอเรลล่า เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียวเราจะต้องออกเดินทางกันแล้ว ถ้าภายใน 1 ชั่วโมงนี้ เธอสามารถแยกเม็ดถั่วออกจากกองขี้เถ้าได้หมด ฉันจะยอมให้เธอไปกับเราด้วย" คราวนี้แอนน์ก็ใช้มุกเดิม วิ่งไปร้องไห้คร่ำครวญที่หลุมศพแม่อีกครั้ง นกทั้ง 2 ตัวก็ออกมาช่วยกันจิกแยกเม็ดถั่วจนเสร็จทันเวลา แอนน์จึงวิ่งไปรายงานแม่เลี้ยงอีกครั้ง ครั้งนี้แม่เลี้ยงกลับตอบกลับมาว่า "ทำไมฉันต้องพาเธอไปให้ทุกคนในงานหัวเราะเยาะฉันด้วย" ว่าแล้วทั้ง 3 แม่ลูกก็สะบัดก้นเดินหนีและพากันไปงานเลี้ยง ปล่อยให้แอนน์อยู่บ้านคนเดียว
แอนน์ทำอะไรไม่ได้ จึงร้องไห้คร่ำครวญวิ่งกลับไปที่ศพแม่ เมื่อนกพิราบทั้ง 2 ตัวเห็นดังนั้นจึงบินไปคาบชุดมาให้แอนน์ชุดหนึ่ง เป็นชุดที่ทำงานเงินและไหม นกทั้งสองก็โยนชุดนั้นให้แอนน์ เมื่อเธอเห็นก็ดีใจ และรีบล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาด และแต่งตัว เมื่อแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบเดินทางไปที่งานเลี้ยงเต้นรำ
1
The first dress
ในงานเลี้ยงเต้นรำ เจ้าชายไม่สนใจหญิงคนไหนเลยนอกจากแอนน์ ทุกคนในงานเข้าใจว่าแอนน์เป็นเจ้าหญิงมาจากต่างเมือง เพราะมีรูปร่างหน้าตาที่งดงาม และชุดที่เธอใส่ก็ดูแพง หรูหรา ไฮโซมาก เรียกได้ว่าฟาดทั้งงานเลย
แอนน์เต้นรำกับเจ้าชายทั้งคืน จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคืน แอนน์เริ่มรู้สึกตัวว่าควรกลับบ้านได้แล้วเพราะกลัวแม่เลี้ยงกลับมาแล้วจะไม่เจอเธอ เธอจึงขอตัวกลับบ้าน แต่เจ้าชายอยากรู้ว่าแอนน์เป็นหญิงสาวมาจากบ้านไหน จึงอาสาไปส่งแอนน์ แอนน์ก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรปล่อยให้เจ้าชายมาส่ง
เมื่อมาจนใกล้จะถึงบ้าน แอนน์ก็กระโดดหนีเข้าไปในพุ่มไม้ที่มีรังนกอยู่ด้านในพุ่มไม้ และรีบเปลี่ยนชุดกลับไปเป็นชุดเดิม ก่อนจะโยนชุดของตัวเองทิ้งไป ปล่อยให้นกพิราบทั้ง 2 ตัวคาบเอาชุดของเธอไปเก็บ และแอนน์ก็รีบกลับไปนั่งที่หน้าเตาผิง
ฝ่ายเจ้าชายเมื่อพบว่าแอนน์หายตัวไปก็ตามหา จนกระทั่งพ่อของแอนน์โผล่มา เจ้าชายจึงถามว่า "ท่านเห็นหญิงสาวที่มากับฉันไหม? เธอหายตัวไปแถว ๆ นี้ เธอน่าจะเข้าไปในพุ่มไม้ที่มีรังนกนี่ ท่านรู้จักเธอไหม?" ซึ่งพ่อของแอนน์ก็แอบคิดว่าจะเป็นแอนน์รึเปล่า แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ ทั้งสองจึงช่วยกันตามหา และพ่อของแอนน์ก็เอาขวานมาและจัดการพังรังนกนั้นทิ้ง กะว่าพอแหวกรังนกออกมาแล้วจะเจอหญิงสาวอยู่ในนั้น แต่ก็ไม่เจออะไร ทำให้เจ้าชายเสียใจมากและถอดใจ จึงเดินทางกลับวังไป
1
วันที่ 2 งานเลี้ยงยังคงดำเนินไปเหมือนเดิม แม่เลี้ยงใจร้ายและลูก ๆ ทั้งสองก็เดินทางไปที่งานเลี้ยงเต้นรำเหมือนเดิม ทิ้งให้แอนน์อยู่บ้านคนเดียว แอนน์ก็ไปร้องห่มร้องไห้กับนกพิราบอีกครั้ง นกพิราบก็ไปคาบชุดใหม่โยนมาให้แอนน์ ซึ่งสวยกว่าชุดที่แล้วหลายเท่า แอนน์จึงรีบเปลี่ยนชุดและไปที่งานเลี้ยง
1
The second dress
เมื่อถึงงานเลี้ยงเจ้าชายได้รอแอนน์อยู่แล้ว ทั้งคู่ได้เต้นรำด้วยกันอีกทั้งคืนจนถึงเวลาเที่ยงคืน แอนน์จึงขอตัวกลับบ้าน และแน่นอนว่าครั้งนี้เจ้าชายก็ขออาสาไปส่งอีกเหมือนเดิม กะว่าครั้งนี้จะต้องรู้ให้ได้ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นใคร เมื่อใกล้ถึงบ้านแอนน์ก็หลบไปและแอบปีนต้นไม้ข้ามไปอีกฝั่ง และรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นกคาบเอาไปเก็บให้ แล้วรีบไปนั่งอยู่ที่หน้าเตาผิงเหมือนเดิม
เจ้าชายเมื่อรู้ตัวว่าแอนน์แอบหนีไปจึงหาเธอจนทั่ว พ่อของแอนน์ออกมาเห็นว่าเจ้าชายทำท่ากำลังหาอะไรบางอย่างอยู่จึงเข้าไปถาม และเจ้าชายก็บอกว่า "ผู้หญิงคนเมื่อคืนเธอหายไปอีกแล้ว เธอน่าจะอยู่แถว ๆ ต้นไม้ต้นนี้นะ" พ่อของแอนน์จึงหยิบขวานมาฟันต้นไม่ต้นนี้ทิ้งไป แต่ทั้งคู่ก็ไม่พบอะไร ครั้งนี้เจ้าชายทนไม่ไหวจนถึงขั้นเข้ามาขอดูในบ้านแต่ก็หาไม่เจอ เห็นแอนน์นั่งหันหลังให้อยู่หน้าเตาผิงก็จำไม่ได้ เจ้าชายจึงยอมกลับวังไป
และแล้วงานเลี้ยงก็ดำเนินมาจนถึงวันที่ 3 แอนน์ปลอมตัวไปที่งานเลี้ยงอีกครั้ง ครั้งนี้ชุดที่เธอได้รับเป็ดชุดที่สวยที่สุด สวยมากกว่า 2 ชุดที่ผ่านมา เป็นชุดที่ทำจากทองคำและไหมทั้งชุด รอบนี้แอนน์ยังได้รองเท้าที่สวยมาก ๆ ซึ่งไม่ใช่รองเท้าแก้วเหมือนที่เราเคยดูในการ์ตูนกันนะคะ แต่เป็นรองเท้าทองคำ แอนน์ดีใจมากและรีบแต่งตัวออกเดินทางไปยังงานเลี้ยงอย่างรวดเร็ว
1
The third dress
แอนน์และเจ้าชายเต้นรำด้วยกันทั้งคืนจนถึงเวลาเที่ยงคืน แอนน์ได้ขอตัวกลับบ้าน แต่ครั้งนี้เจ้าชายไม่ได้ยอมปล่อยให้แอนน์กลับบ้านเหมือนเดิม เจ้าชายได้วางแผนไว้เรียบร้อย โดยการใช้ยางไม้มาเทราดไปทั่วบันได จนทำให้เท้าของแอนน์ติดก้าวไม่ออก รองเท้าทองคำจึงหลุดติดอยู่ที่บันได แอนน์จึงต้องยอมทิ้งรองเท้านั้นไป และรีบหนีออกจากงานเลี้ยง
เจ้าชายตามแอนน์ไปไม่ทัน แต่พอเจ้าชายก้มลงไปดูรองเท้าที่ติดอยู่กับบันไดที่แอนน์ทิ้งไว้ เจ้าชายหยิบขึ้นมาดูและเห็นว่ารองเท้าคู่นี้มีความพิเศษมากกว่าทุกข้อ เพราะเป็นรองเท้าที่ทำจากทองคำ และมีขนาดเล็กเป็นพิเศษ เจ้าชายจึงคิดว่าจะตามหาแอนน์จากรองเท้าคู่นี้ โดยให้ผู้หญิงทุกคนลองใส่รองเท้าทองคำคู่นี้ หากผู้หญิงคนไหนใส่แล้วพอดีจะได้แต่งงานกับเจ้าชายทันที
1
ดังนั้นเจ้าชายก็ไปที่บ้านของแอนน์ (ที่ไปมา 2 วันแล้วแต่ก็ยังหาไม่เจอ) และบอกคนในบ้านว่า "บ้านนี้มีผู้หญิงกี่คน ให้ออกมาลองสวมรองเท้าคู่นี้ให้หมด ถ้าผู้หญิงคนไหนสวมรองเท้าคู่นี้ได้พอดี คนนั้นจะได้เป็นเจ้าสาวของฉันทันที" แม่เลี้ยงจึงรีบพาลูกสาวของตัวเองไปลองสวมรองเท้าทองคำ ด้วยความที่ผู้หญิงสมัยโบราณจะต้องใส่กระโปรงบานเป็นสุ่ม และการที่จะให้คนอื่นมาเห็นเท้าของตัวเองน่าจะดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ดังนั้นจึงมีการไปลองสวมรองเท้ากันในห้อง ลูกสาวคนโตก็เข้าไปกับแม่ และพยายามยัดเท้าของตัวเองลงไปในรองเท้า ถึงแม่ว่าลูกสาวคนโตเท้าจะเล็กขนาดไหน แต่ก็ยังใส่รองเท้าคู่นี้ไม่ได้เพราะเธอมีนิ้วโป้งเท้าที่ใส่เกินไป แม่ก็พยายามช่วยยัด แต่ยัดยังไงก็ไม่เข้า แม่จึงพูดกับลูกว่า "นี่ลูก ถ้าลูกได้แต่งงานกับเจ้าชายและได้เป็นราชินี นิ้วโป้งของลูกมันก็ไม่สำคัญหรอกนะ ตัดนิ้วโป้งนั้นทิ้งไปเถอะนะ" ว่าแล้วแม่เลี้ยงก็เดินไปหยิบมีดและยื่นให้ลูก ลูกคนโตรับมีดมาจากแม่และทำการจัดนิ้วโป้งเท้าของตัวเองทิ้ง และเอาเท้าพิการของตัวเองยัดเข้าไปในรองเท้าทองคำ
2
เมื่อเจ้าชายเห็นว่าลูกสาวคนโตใส่ได้พอดีจึงหลงเชื่อและพาเธอกลับวัง ระหว่างทางที่หลุมศพแม่ของแอนน์ นกพิราบทั้ง 2 ตัวก็ออกมาและพากันส่งเสียงร้องออกมาเป็นเพลงให้เจ้าชายได้ยินว่า "เลือดชุ่มโชกที่เท้า นิ้วโป้งเท้าหรือจะไม่สำคัญ ดูสิ เท้าของเจ้าสาวของท่านชุ่มโชกไปด้วยเลือด นี่ไม่ใช่เจ้าสาวของท่านหรอก" เจ้าชายได้ยินดังนั้นจึงก้มลงไปดูที่เท้าของพี่สาวคนโตแล้วเห็นว่ามีเลือดซึมออกมาจากรองเท้าจริง ๆ จึงพาพี่สาวคนโตกลับไปส่งที่บ้านและบอกว่า "นี่ไม่ใช่เจ้าสาวของฉัน รีบพาผู้หญิงคนอื่นมาลองสวมรองเท้าคู่นี้เดี๋ยวนี้" น้องสาวคนรองก็เลยเข้าไปลองใส่รองเท้าในห้องทั้ง ๆ ที่รองเท้ายังชุ่มไปด้วยเลือดของพี่สาวอยู่นั่นแหละ
1
คราวนี้น้องสาวสามารถยัดนิ้วทั้งหมดลงไปในรองเท้าทองคำได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ส้นเท้าของเธอมันใหญ่เกินไป ทำให้ยัดลงไปในรองเท้าไม่ได้ แม่จึงบอกว่า "ลูก เมื่อลูกได้แต่งงานกับเจ้าชายและเป็นราชินีแล้ว ส้นเท้าก็ไม่สำคัญอีกต่อไป" แม่เลี้ยงพูดและยื่นมีดให้กับลูก ลูกสาวคนรองก็กลั้นใจตัดส้นเท้าของตัวเองทิ้ง จากนั้นนางก็ใส่ถุงเท้าและเอาเท้ายัดลงไปในรองเท้าได้พอดี
2
1
เจ้าชายเห็นจึงรีบพากลับไปวัง และผ่านหลุมศพแม่ของแอนน์อีกครั้ง นกพิราบทั้ง 2 ตัวจึงออกมาฟ้องเจ้าชายโดยการส่งเสียงร้องเพลงออกมาว่า "เห็นเลือดที่ไหลเป็นทางนั่นไหม มันชุ่มออกมาจนทั่วถุงเท้า คิดว่านี่คือเจ้าสาวของท่านหรอ? เจ้าสาวของท่านไม่มีส้นเท้าอย่างงั้นหรอ? นี่ไม่ใช่เจ้าสาวของท่านหรอก" เจ้าชายได้ยินก็ก้มลงไปดูที่เท้าของน้องสาวคนรอง และเห็นว่าเลือดได้ซึมออกมาจากถุงเท้า จนถุงเท้าเปลี่ยนเป็นสีแดง เจ้าชายจึงนำตัวน้องสาวคนรองกลับไปส่งคืนที่บ้าน และพูดว่า "ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เจ้าสาวของฉัน ในบ้านหลังนี้มีผู้หญิงเหลืออยู่อีกกี่คน พาออกมาให้หมด ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะไม่ได้อยู่ที่บ้าหลังนี้" แม่เลี้ยงพยายามจะบอกกับเจ้าชายว่าที่นี่ไม่มีผู้หญิงเหลืออยู่แล้ว ตนมีลูกสาวเพียงแค่ 2 คน จะมีก็แต่ซินเดอเรลล่าคนใช้สกปรก ๆ คนนึงเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นผู้หญิงคนนั้น แต่เจ้าชายก็ยังไม่ปักใจเชื่อ และบอกให้ไปพาตัวสาวใช้คนนั้นมาให้ได้ลองสวมรองเท้าด้วย แม่เลี้ยงจึงจำใจต้องพาแอนน์มาให้ลองสวมรองเท้า แอนน์ก็ไปล้างหน้า ล้างตา และเดินออกมา ทันทีที่เจ้าชายเห็นหน้าแอนน์ก็จำได้ทันทีว่าคือคนเดียวกันกับที่เจ้าชายเต้นรำด้วย แอนน์ก็มาลองสวมรองเท้าทองคำนั้นทั้ง ๆ ที่ก็ยังชุ่มเลือดของพี่สาวทั้งสองอยู่
3
แน่นอนว่าแอนน์ใส่ได้พอดีเป๊ะ เจ้าชายจึงพาตัวแอนน์กลับวังไปด้วยเพื่อจะไปจัดพิธีแต่งงาน ซึ่งตอนที่ขี่ม้าผ่านหลุมศพแม่ของแอนน์ นกพิราบทั้ง 2 ตัวก็ออกมายินดีและส่งเสียงร้องเพลงว่า "ซินเดอเรลล่าใส่รองเท้าได้พอดี นิ้วเท้าก็ครบ ส้นเท้าก็ครบ เลือดก็ไม่มีแม้แต่หยดเดียว ซินเดอเรลล่านี่แหละคือเจ้าสาวของท่าน" ว่าแล้วนกทั้ง 2 ก็บินมาเกาะที่ไหล่ซ้ายกับไหล่ขวาของแอนน์ และทั้งหมดก็เดินทางกลับไปที่วัง
จนถึงวันแต่งงาน พี่สาวทั้งสองที่พิการเท้าไม่สมประกอบก็ยังพยายามที่จะมาหาประโยชน์จากแอนน์ จึงอาสามาขอเป็นเพื่อนเจ้าสาวเดินประกบว้าย-ขวาแอนน์ตอนเข้าโบสถ์ ด้วยความชั่วต่าง ๆ นา ๆ ที่ตัวเองเคยทำไว้กับแอนน์ นกที่เกาะไหล่ซ้าย-ขวาของแอนน์จึงจิกตาของพี่สาวทั้งสองจนตาบอดไปแล้วข้างนึงทั้งคู่ แต่พี่สาวก็ยังไม่เข็ดตอนเดินกลับออกไปจากโบสถ์ก็ต้องสลับข้าง นกพิราบคู่นี้จึงจิกตาข้างที่เหลือของพี่สาวทั้งสอง จนทำให้พี่สาวทั้ง 2 คนของแอนน์ตาบอดไปอย่างถาวร และทำให้พี่สาวทั้งสองต้องไปเป็นขอทานพิการตาบอดไปตลอดชีวิต และแอนน์ก็ใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าชายอย่างมีความสุขตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
1
-Lynn Yi Wu-
#เรื่องมีอยู่ว่า #Cinderella #ซินเดอเรลล่า #Grimm #นิทานกริมม์ #Disney #Cartoon
แหล่งอ้างอิง : Grimms' Fairy Tales
22 บันทึก
38
21
29
22
38
21
29
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย