Blockdit Logo (Mobile)
อ่านแล้วแชร์
•
25 ก.พ. 2021 เวลา 09:40 • หนังสือ
หนังสือสุดยอดธุรกิจเกษตรสไตล์ญี่ปุ่น ที่เปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความจริงด้วยเคล็ดลับจาก มิสเตอร์บลูเบอรี่ ที่พลิกชีวิตจากมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ ไม่มีประสบการณ์ด้านการเกษตร ไม่มีเงินทุน แต่สามารถสร้างธุรกิจเกษตรให้ประสบความสำเร็จได้
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากทำธุรกิจเกษตรให้ประสบความสำเร็จ ด้วยเงินทุนที่มีอย่างจำกัด และประสบการณ์ที่ไม่ได้มีมากอย่างเพียงพอ
หนังสือ เริ่มต้นจากการเล่าประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยที่คุณคุโรยานางิ ชิเงคิ ทำงานประจำที่บริษัทเด็นโซ่ ก่อนจะทิ้งงานที่มั่นคงตอนอายุ 45 ปี แล้วมาก่อตั้งธุรกิจสวนเกษตร ด้วยการทำเกษตรเชิงท่องเที่ยวที่ชื่อว่าฟาร์มบลูเบอร์รี่ โอคาซากิ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทำให้เขามีรายได้มากกว่าเดิมที่ทำงานประจำถึง 2 เท่า ในขณะที่เปิดสวนให้คนมาเที่ยวแค่ปีละ 60 วันเท่านั้น
โดยกลยุทธ์ในการบริหารสวนเกษตรที่เขาใช้ คือกลยุทธ์การบริหาร 3 ข้อ คือ
1 การวางตำแหน่งตัวเองให้ไม่ต้องแข่งขัน
กลยุทธ์นี้ขอให้สรุปเข้าใจอย่างง่ายๆก็คือการทำสิ่งที่ตรงข้ามกับสวนเกษตรเชิงท่องเที่ยวแห่งอื่นที่กำลังทำอยู่ในช่วงขาลง โดยสวนเกษตรเชิงท่องเที่ยวจะไม่รับลูกค้ากลุ่มใหญ่ และบริการลูกค้าด้วยความเอาใจใส่ อย่างเช่นไม่จำกัดเวลาในการเก็บลูกเบอรี่ ลูกค้าสามารถเก็บลูกเบอร์รี่ได้อย่างเต็มที่ สามารถใช้เวลาอยู่ที่สวนเกษตรได้อย่างเพลิดเพลินทั้งวัน สร้างที่พักให้สวยงาม ให้ความสำคัญกับวิว ห้องน้ำสวน ให้เหมือนกับรีสอร์ท
เนื่องจากสวนเกษตรไม่ได้ให้บริการกลุ่มใหญ่ ทำให้มีเวลาดูแลผลผลิตให้มีคุณภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็วางตำแหน่งราคาที่ค่อนข้างแพง ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดสวนเกษตรตลอดทั้งปี จะเปิดเพียงแค่ 60 วันเท่านั้น ก็ทำให้ยอดขายเยอะถึง 2 เท่าของเงินเดือนประจำ
2 ทุ่มเททรัพยากรไปที่สิ่งเดียว
คือการทำสวนบลูเบอร์รี่เท่านั้น เนื่องจากคุณคุโรยานางิ ชิเงคิ มีทรัพยากรค่อนข้างจำกัด ซึ่งถ้าไม่นำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็ไม่มีทางเอาชนะคู่แข่งได้เลย จึงเป็นเหตุผลที่กลยุทธ์ที่ 2 คือการทุ่มเทใช้ทรัพยากรไปกับสิ่งเดียว
3 เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
สิ่งที่ใช้วัดประสิทธิภาพการผลิตก็คือผลิตภัณฑ์แรงงาน หรือก็คืออัตราส่วนมูลค่าเพิ่มต่อจำนวนแรงงาน 1 คนหรือต่อชั่วโมงทำงาน โดยเทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ที่คุโรยานางิ ชิเงคิ นำมาใช้ คือประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากบริษัทเด็นโซ่
ตัวอย่างของการเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น
ระบบปลูกแบบไร้ดิน โดยปลูกลงในฟองน้ำสำหรับปลูกพืชซึ่งเป็นวัสดุที่ไม่เสื่อมสภาพ อุ้มน้ำ และระบายน้ำได้ดี ในขณะเดียวกันก็ถ่ายเทอากาศได้อย่างเหมาะสม และใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยในเรื่องของการให้ปุ๋ยน้ำโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์วัดค่า pH และค่าความเข้มข้นของปุ๋ยน้ำ ซึ่งจะทำให้การให้ปุ๋ยน้ำมีความแม่นยำและเหมาะสมอย่างมาก
อันนี้คือตัวอย่างของกลยุทธ์การบริหารส่วนเกษตรที่ได้จากหนังสือเล่มนี้
ส่วนเทคนิคที่ทำให้สวนเกษตรประสบความสำเร็จสร้างยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนถึง 2 เท่า
การทำสวนเกษตรเชิงท่องเที่ยว
ทำให้ชั่วโมงการทำงานลดลงและประสิทธิภาพผลผลิตสูงขึ้น โดยให้คนที่มาท่องเที่ยวสามารถเก็บลูกบลูเบอร์รี่ด้วยตัวเองได้ ซึ่งทำให้งานที่ต้องเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ต้องใช้เวลามหาศาลหมดไป เพราะลูกค้าเป็นคนเก็บบลูเบอรี่ด้วยตัวเอง
ในหนังสือยังเผยเทคนิคในเรื่องของการทำของฝาก การขายของจากสวนเกษตร รวมถึงของหวานจากคาเฟ่สวนเกษตร
ที่น่าสนใจในหนังสือเล่มนี้กลับไม่ใช่เรื่องของการทำสวนเกษตร ผมกลับรู้สึกว่าวิธีการทำการตลาดค่อนข้างน่าสนใจมาก
สวนเกษตรใครๆก็ทำได้ ในขณะที่สวนเกษตรที่มีคนมาเที่ยวจำนวนเยอะมาก ใช่ว่าใครก็ทำได้ถ้าไม่รู้เรื่องของการตลาด ในหนังสือเล่มนี้จะเผยเทคนิคการเข้าหานักข่าว การโปรโมทสวนเกษตร รวมถึงเทคนิคการเปิดตัวสวนเกษตรว่าใช้เทคนิคอะไร
และจุดที่สำคัญของการทำสวนเกษตรที่ได้จากหนังสือเล่มนี้คือการปรับปรุงจากแบบสอบถามที่ลูกค้าทำ ตลอดทั้งเล่มจะเห็นว่าคุณคุโรยางอาชิ ค่อนข้างใส่ใจกับลูกค้าหรือคนที่มาใช้บริการสวนเกษตรของเขาเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากแบบสอบถามเพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุง
รวมถึงการใช้เทคนิคอย่างการตลาดออนไลน์เข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการเขียน Blog การทำเพจ facebook
ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะเผยให้เราได้เห็นเคล็ดลับเหล่านั้น
แนะนำครับถ้าใครอยากทำสวนเกษตร หรือมีสวนเกษตรอยู่แล้วแต่อยากพัฒนาให้มันดีขึ้น ให้มันสอดคล้องกับยุคดิจิตอล เอาระบบออนไลน์เข้ามาช่วย
หรือใครก็ตามที่อยากหาอาชีพเสริมหรืออาชีพที่เราสามารถทำแล้วลาออกจากงานประจำได้ ลองให้หาหนังสือเล่มนี้มาอ่านดูครับ
จำนวนหน้า 277 หน้า
ราคา 250 บาท
โฆษณา