ซึ่งต้องขอเกริ่นก่อนว่าไอเดียสตาร์ทอัพของ Band Protocol นั้นถ้าอธิบายตรงๆ ท่านผู้อ่านหลายท่านอาจจะต้องเกาหัวกันไม่น้อยฮ่าๆเเต่ตัวผมจะลองอธิบายแบบง่ายยๆให้ลองดูคับฮ่าๆ
โดย Band Protocol นั้นเป็นบริษัท ที่ทำเกียวกับเทคโนโลยี BlockChain (ถ้าใครพึ่งเคยได้ยินคำนี้ เชิญเข้าไปอ่านบทความที่เราเขียนได้เลยคับ: shorturl.at/mpDOV)
โดยตัว Band Protocol นั้นทำตัวเหมือน Data Oracle ในโลก BlockChain (ศัพท์ deep tech มาอีกแย้วฮ่าๆ) เอาเป็นว่าถ้าใช้คำพูดจากคุณสรวิศ Data Oracle นั้นก็เปรียบเหมือนผู้ดูจัดเตรียมข้อมูลในโลก BlockChain เพราะต้องบอกก่อนว่าถ้า BlockChain คืออินเตอร์เน็ต 2.0 มันก็จะต้องมี Data Oracle เหมือนกัน เเล้วมันคืออะไร ? นึกง่ายๆคือว่าถ้าคุณอย่างสร้าง Application บน BlockChain(D-App)
เเล้วคุณต้องการข้อมูลมาใช้ในแอพของคุณไม่ว่าจะเป็น ผลคะเเนน NBA / ราคาหุ้น Netflix หรือราคาเหรียญบิทคอย การคุณจะดึงเข้ามาคุณต้องทำผ่าน Data Oracle เท่านั้นอันเปรียบเสมือนผู้แปลข้อมูลจากโลกปกติมาเป็นข้อมูลใน BlockChain
ซึ่งทั้งสามท่านได้พบกับปัญหานี้มาโดยตรง จึงคิดที่จะสร้าง Band Protocol ขึ้นมา โดยทาง Band Protocol นั้นทำตัวเป็นผู้สร้างโครงสร้าง BlockChain Band นี้ขื้นมาเเละคอยไปรับความต้องการข้อมูลจากทางลูกค้าแบบ (B to B) เเล้วนำมาปรับให้ (อ่านเเล้วผมก็ยังงงๆยุเลยฮ่าๆ)
โดยความเจ๋งของ Band Protocol นั้นคือนอกจากจะเป็น startup เชื้อสายไทยที่ไปลุยในตลาดโลกที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี BlockChainเเล้วบริษัทยังได้รับเงินทุนจาก Sequoia Capital (กองทุนอันดับต้นๆของโลกทางด้าน innovation ที่เคยลงทุนใน Google, Nvidia, Github, PayPal, Stripe, Instagram เเละ Tech Company อีกมากมาย) เรียกได้ว่าเป็นเกียรติเป็นศรีเเก้ประเทศชาติเลยก็ว่าได้ฮ่าๆ