27 ก.พ. 2021 เวลา 07:24 • หนังสือ
Codex Leicester หนังสือแพงที่สุดในโลก หนึ่งในสิ่งที่สร้างแรงบัลดาลใจให้ Bill Gates จนถึงวันนี้
เมื่อเอ่ยชื่อ Bill Gates คนส่วนใหญ่น่าจะรู้จักว่าเขาเป็นใคร ไม่ว่าในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ บุคคลที่มั่งคั่งที่สุดในโลกหลายปีติดต่อกัน หรือมหาเศรษฐีใจบุญที่คอยบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสอยู่เสมอ
แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งหนึ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้ Bill Gates จนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่วิธีการเขียนโปรแกรมล้ำยุค ไอเดียธุรกิจแบบใหม่ หรือตำราเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง แต่กลับเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า Codex Leicester
Codex Leicester เป็นสมุดบันทึกเก่าแก่อายุกว่า 500 ปี ถูกเขียนในช่วงปีค.ศ. 1506 - 1510 ด้วยลายมือของ Leonardo da Vinci โดยใช้ภาษาอิตาเลียน
Leonardo da Vinci (ภาพจาก Azcentra)
หนังสือเล่มนี้มีจำนวน 72 หน้า ภายในเต็มไปด้วยข้อสังเกตุ ทฤษฎี และภาพวาด เกี่ยวกับสิ่งที่เขาศึกษา พร้อมอธิบายแนวคิดการหาคำตอบแบบวิทยาศาสตร์
การจดบันทึกไม่มีการจัดลำดับ เพราะว่าเมื่อเขาเกิดความสงสัยสิ่งใดขึ้นมาก็จะจดลงในสมุดด้วยรายละเอียดแบบถี่ยิบ ที่สำคัญเขาจดโดยการเขียนตัวหนังสือกลับด้านแบบเงาสะท้อนในกระจกเพื่อป้องกันคนอื่นมาแอบอ่าน
1
สาเหตุหนึ่งที่ต้องทำแบบนี้ คาดว่ามีที่มาจากในยุคศตวรรษที่ 16 ผู้คนยังมีความเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลก แต่ทฤษฎีของ Leonardo da Vinci กลับสวนทางกับแนวคิดของศาสนจักรอย่างสิ้นเชิง
1
ยกตัวอย่างเช่น ข้อสงสัยว่าบนยอดเขามีน้ำได้อย่างไร ซึ่งเขาอธิบายถึงความเชื่อในยุคนั้นว่าความร้อนจากดวงอาทิตย์ดึงน้ำให้ไหลย้อนไปที่ยอดเขาเป็นสิ่งที่ผิด แต่เกิดจากน้ำไหลเวียนผ่านการระเหย เกิดเป็นเมฆ และกลายเป็นฝนตกลงมาที่ยอดเขา
หรือการเรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ที่เขาใช้วิธีศึกษาด้วยการแอบผ่าศพ ทำให้สามารถวาดภาพอวัยวะส่วนต่างๆ และอธิบายถึงการทำงานได้อย่างถูกต้องเหมือนตำรากายวิภาคศาสตร์ในปัจจุบัน
แต่ในสมัยนั้นการกระทำแบบนี้ขัดแย้งกับแนวคิดของศาสนจักรถือเป็นสิ่งต้องห้าม หากข้อมูลในบันทึกถูกเผยแผ่ออกไป เขาต้องถูกจับไปประหารอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้บันทึกทั้งหมดจึงต้องเก็บไว้อย่างมิดชิดและเพิ่งถูกเปิดเผยในศตวรรษที่ 18 หลังจากที่ Leonardo da Vinci เสียชีวิตไปกว่า 200 ปี
สิ่งที่ค้นพบในสมุดบันทึกมีทั้งความรู้ด้านกลศาสตร์ ดาราศาสตร์ ชีววิทยา ไปจนถึงแนวคิดแบบวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ซึ่งได้ถูกนำไปทดลองและพิสูจน์จนกลายเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน อย่างเช่น เครื่องบิน เรือดำน้ำ กล้องโทรทรรศน์ แม้กระทั่งอาวุธปืน
เนื้อหาภายใน Codex Leicester (ภาพจาก News.Italy-Museum)
แล้วสมุดบันทึกนี้เกี่ยวข้องกับ Bill Gates อย่างไร
ด้วยนิสัยของ Leonardo da Vinci ที่มีความอยากรู้อยากเห็น เมื่อต้องการเข้าใจอะไรสักอย่างหนึ่ง เขาจะสังเกตอย่างใกล้ชิดและพยายามหาคำตอบด้วยการคิดแบบเป็นเหตุเป็นผลพร้อมกับการจดบันทึก
ถือได้ว่าเป็นวิธีคิดที่ล้ำหน้าเกินยุคสมัยมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในสมัยนั้นยังเชื่อในเรื่องต่างๆ ตามคำสอนทางศาสนา
สิ่งเหล่านี้เองที่ดึงดูดให้คนอย่าง Bill Gates ไปประมูลสมุดบันทึกนี้มาครอบครองต่อจาก Armand Hammer เจ้าของเดิม เมื่อปีค.ศ. 1994 ด้วยราคา 30.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท พร้อมกับสร้างสถิติเป็นหนังสือแพงที่สุดในโลก
ถ้าคิดเป็นค่าเงินในปัจจุบันจะมีมูลค่าประมาณ 95.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2,900 ล้านบาท
เมื่อมองในอีกแง่มุมหนึ่ง เนื้อหาของ Codex Leicester เป็นสิ่งที่แสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างศิลปะกับวิทยาศาสตร์ที่ล้ำหน้าเกินยุคสมัยของมันและส่งผลให้ Leonardo da Vinci กลายเป็นจิตรกร นักคิด และนักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่
1
ซึ่ง Bill Gates ชื่นชมกับวิธีคิดของ Leonardo da Vinci อย่างมาก แม้จะเป็นสิ่งที่เกิดมากว่า 500 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ตกยุค
ในวันที่เขารู้สึกว่าตัวเองขาดแรงจูงใจที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้บรรลุเป้าหมาย ก็จะนำวิธีการคิดแบบนี้มาเป็นแรงบันดาลใจเพื่อผลักดันให้มุ่งมั่นทําสิ่งต่างๆ ตามความทะเยอทะยานของตัวเองต่อไป จนกระทั่งประสบความสำเร็จอย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้
ทีนี้มาเราดูตัวอย่างกันสักอย่างหนึ่งที่ Bill Gates ได้แรงบันดาลใจจากสมุดบันทึกนี้
ในปีค.ศ. 1999 Bill Gates ได้เขียนคำทำนายสะท้านโลกไว้ในหนังสือของเขาที่ชื่อ Business @ the Speed of Thought ว่า “วันหนึ่งผู้คนจะพกพาอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ช่วยให้ติดต่อกันและทําธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์จากที่ใดก็ได้ พวกเขาจะสามารถอ่านข่าว จองตั๋วเครื่องบิน ดูข้อมูลตลาดการเงิน และทําทุกอย่างด้วยอุปกรณ์เหล่านี้”
ในตอนนั้นทั่วโลกยังใช้โทรศัพท์มือถือธรรมดาจอขาวดำกันอยู่และคงงุนงงว่ามันจะเป็นไปได้หรือ แต่ตอนนี้เราคงรู้แล้วว่าเจ้าสิ่งนั้นก็คือ “สมาร์ทโฟน”
ในวันนี้แม้ว่า Bill Gates จะวางมือจากบริษัทไมโครซอฟท์ไปแล้วและหันมาจัดตั้งมูลนิธิการกุศลกับภรรยา แต่เขาก็ยังใช้แนวคิดแบบเดิมสานต่อเป้าหมายหลายอย่างให้เป็นจริงเพื่อช่วยเหลือผู้คนทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการคิดค้นวัคซีนกําจัดโรคร้ายแรงภายในปีค.ศ. 2030 รวมทั้งโรคติดเชื้อ HIV ด้วย
ปัจจุบัน Codex Leicester มีการทำสำเนาเสมือนจริงแจกจ่ายไปตามห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ กว่า 963 เล่ม
แต่หนังสือฉบับจริงถูกเก็บไว้ที่ห้องสมุดในคฤหาสน์ขนาด 6,100 ตารางเมตร ของ Bill Gates ที่มีชื่อว่า “Xanadu 2.0” อยู่ในเมืองเมดิน่า รัฐวอชิงตัน
ซึ่งล่ำลือกันว่าปัจจุบันหนังสือเล่มนี้มีมูลค่าสูงกว่าบ้านทั้งหลังซะอีก
คฤหาสน์ "Xanadu 2.0" (ภาพจาก BBD Lifestyle)
โฆษณา