27 ก.พ. 2021 เวลา 23:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
การวัดชิ้นงานที่ดีต้องมีผิวอ้างอิงชิ้นงานที่ดีด้วย ด้วยเหตุนี้โต๊ะระดับจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับวัดชิ้นงานในภาคอุตสาหกรรม โต๊ะระดับส่วนใหญ่จะมีให้เลือก 2 ประเภท คือ โต๊ะระดับเหล็กหล่อ และ โต๊ะระดับหินแกรนิต ซึ่งก็จะมีความแตกต่างตามการใช้งาน ในบทความนี้ 7Block Metrology จะอธิบายความแตกต่างและการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน
1. จุดเด่นที่สำคัญของโต๊ะระดับหินแกรนิต คือเมื่อเกิดการกระแทกที่ผิวหน้าของหิน ผิวหินจะหลุดออกแต่ความเรียบของโต๊ะระดับจะเท่าเดิม แต่ถ้าเป็นโต๊ะระดับเหล็กหล่อเมื่อเกิดการกระแทกที่ผิวหน้า จะเกิดรอยนูนขึ้นที่ผิวโต๊ะระดับทำให้ความเรียบเกิดความเสียหาย และอาจทำให้ชิ้นงานหรือเครื่องมือวัดเกิดรอยจากการใช้งาน
2. โต๊ะระดับหินแกรนิตดูแลรักษาได้ง่ายกว่า เนื่องจากเป็นหินธรรมชาติไม่จำเป็นต้องชโลมน้ำมันกันสนิมเหมือนโต๊ะระดับเหล็กหล่อ การเช็ดทำความสะอาดโต๊ะระดับหินให้ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่ร่วมกับแอลกอฮอล์ 95% เช็ดทำความสะอาดไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อป้องกันรอยจากฝุ่นภายในโรงงาน
3. โต๊ะระดับหินแกรนิตมีสัมประสิทธิ์การขยายตัวต่ำกว่า ส่งผลให้การยืดตัวหรือขยายตัวตามอุณหภูมิได้น้อยกว่าโต๊ะระดับเหล็กหล่อ ดังนั้นค่าความเรียบ (Flatness) ก็จะเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าด้วยเช่นกัน
4. จุดเด่นที่สุดของโต๊ะระดับเหล็กหล่อ คือราคาที่ถูกกว่าโต๊ะระดับหินแกรนิต จึงเหมาะสำหรับงานที่ไม่จำเป็นต้องมีพรีซิชั่นมากนักเพราะจะคุ้มค่ากับการลงทุนมากกว่า
5. เกรดของโต๊ะระดับตามมาตรฐาน JIS แบ่งออกเป็น 3 เกรด ดังนี้
เกรด 0 : เหมาะสำหรับงานในห้องปฎิบัติการสอบเทียบไว้เป็นมาตรฐานอ้างอิง
เกรด 1 : เหมาะสำหรับห้องควบคุมคุณภาพการวัด (QC Room) ภายในโรงงาน
เกรด 2 : เหมาะสำหรับวัดชิ้นงานในไลน์การผลิต ไม่จำเป็นต้องควบคุมอุณหภูมิ
สุดท้ายแล้วการเลือกใช้งานของโต๊ะระดับก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานในการเลือกใช้ บทความนี้เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นเพื่อใช้สำหรับการพิจารณาเท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยประกอบ เช่น ค่าใช้จ่ายในการลงทุน เกณฑ์ของชิ้นงาน ขนาดของโต๊ะ และสถานที่ที่เหมาะสม หวังว่าผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ไม่มากก็ต้องมากที่สุดนะครับ
โฆษณา