🚨การชาร์ตแบตมือถืออย่างถูกต้อง ช่วยป้องกันเเบตเสื่อม🚨
.
.
.
เมื่อก่อนนี้ก็มักจะชาร์ททมือถือตอนที่แบตเหลือ 20% กว่าๆ มาตลอด
และชาร์ทยาวจนเเบตเต็ม 100% ค่ะ บางครั้งก็ชาร์จแบบข้ามคืน 😅 (เชื่อว่าหลายๆคนก็ทำ)
ผลคือ แบตมือถือหมดไว ชาร์จไฟแล้วไม่เก็บแบต ฯ เป็นเหตุให้ต้องเปลี่ยนแบตมือถือตามระเบียบค่ะ 😅
เลยเข้าไปอ่านวิธีการถนอมแบตมือถือ และยืดอายุการใช้งานเเบตมือถือ
วันนี้จึงนำบทความที่เป็นประโยชน์นี้มาฝากค่ะ....
.
🚨วิธีชาร์จแบตเตอรี่มือถือที่ถูกต้อง เพื่อป้องกัน แบตเสื่อม
.
🔸1. ควรชาร์จโทรศัพท์เมื่อใด
เราควรทำให้แบตเตอรี่มีพลังงานเหลืออยู่ระหว่าง 30 – 90% เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพของเเบตเตอรี่
เราจึงควรชาร์จเมื่อมีแบตเริ่มต่ำกว่า 50% (แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 20%) และให้ถอดที่ปลั๊กออกก่อนที่จะถึง 100%
.
ก็คือ ถ้าแบตมีค่าพลังงาน 21-49% ก็เริ่มชาร์ทไฟได้เเล้วค่ะ
และพอชาร์ทไปถึง 90% ก็ถอดปลั๊กเลิกชาร์ทค่ะ ไม่ต้องชาร์ทไปถึง 100% เต็ม
.
วิธีนี้จะเก็บถนอมเเบตได้ดี และยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้นค่ะ
🔸2. ควรชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ให้เต็ม 100% หรือไม่?
คำตอบคือไม่ควรค่ะ
บางร้านอาจแนะนำให้ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ (รอบการชาร์จ) เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการปรับเทียบแบตเตอรี่ใหม่จะเหมือนกับการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
แต่วิธีนี้ไว้ใช้กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในโทรศัพท์เก่า ๆ เท่านั้นค่ะ สตาร์ทโฟนยุคใหม่ๆไม่ต้องทำแบบนี้แล้ว
ดังนั้น เราจึงควรชาร์จที่ละน้อยๆแต่ชาร์จบ่อย ๆ จะดีกว่าการชาร์จเต็มไปทีเดียวเลยค่ะ
🔸3. ควรชาร์จโทรศัพท์ข้ามคืนหรือไม่?
ควรหลีกเลี่ยง แม้ว่ามันจะสะดวกมากๆก็ตาม 😅
🔸4. ทำให้แบตเตอรี่โทรศัพท์เย็นอยู่เสมอ
ความร้อนเป็นศัตรูของแบตเตอรี่
อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่ร้อนหรือเย็นเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชาร์จไฟ
หากโทรศัพท์ร้อนเกินไป แบตเตอรี่จะเสียหายได้ ดังนั้นพยายามทำให้โทรศัพท์เย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้
การเล่นมือถือขณะที่ชาร์จไฟอยู่ ก็ทำให้เครื่องร้อนขึ้นได้ค่ะ ทั้งยังทำให้โปรแกรมในเครื่องต้องทำงานหนักขึ้นด้วย
ช่วงที่เราชาร์จไฟอยู่จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้งานมือถือค่ะ
นี่เป็นตัวอย่าง 4 วิธีที่จะช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่มือถือให้ใช้งานได้นานขึ้นค่ะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย
ขอขอบคุณที่ติดตามค่ะ 🙏
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
