1 มี.ค. 2021 เวลา 08:44 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
หนังทำเงินอเมริกาเหนือสุดสัปดาห์ 28 กุมภาฯ Tom and Jerry เปิดตัวเซอร์ไพรส์ 13.7 ล้านเหรียญ ทำให้โรงหนังมีหวัง
จากรายงานของวาไรตี Tom and Jerry แอนิเมชันครอบครัวของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส เปิดตัวด้วยรายได้ 13.7 ล้านเหรียญในอเมริกาเหนือ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวที่เป็นกอบเป็นกำสำหรับช่วงโคโรนาไวรัสระบาด และน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า คนดูอาจจะกลับมาเข้าโรงภาพยนตร์อีกครั้ง แม้จะต้องอาศัยเวลาอีกไม่น้อย ในการไต่ระดับรายได้ไปถึงในช่วงก่อนที่จะมีการระบาด โดยหนังเปิดตัวเป็นรองแค่ Wonder Woman 1984 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคมด้วยรายได้ 16.7 ล้านเหรียญ และทำตัวเลขรายได้สามวันได้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่โรงหนังกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อกลางปีที่แล้ว ซึ่งไม่มีหนังเรื่องไหนในรอบสิบเดือนที่ผ่านมาที่ทำรายได้เปิดตัวผ่าน 10 ล้านเหรียญ โดยที่ใกล้เคียงที่สุดก็คือ The Croods: A New Age เปิดตัวที่ 9.7 ล้านเหรียญ ส่วน Tenet เปิดตัวที่ 9.35 ล้านเหรียญ​
Tom and Jerry กำกับโดยทิม สตอรี และนำแสดงโดยโคลอี เกรซ มอเร็ทซ์, ไมเคิล พีญา และโคลิน จอสท์ เปิดฉายรวม 2,475 จอในอเมริกาเหนือ ซึ่งตอนนี้มีโรงภาพยนตร์กลับมาเปิดให้บริการราวๆ 42% หนังยังเปิดตัวทางเอชบีโอแม็กซ์พร้อมๆ กันด้วย โดยจะมีให้ชมในระบบนาน 1 เดือน ก่อนจะถอดออก เหมือนๆ กับ Wonder Woman 1984 และหนังรวม 18 เรื่องที่วอร์เนอร์ฯ จะใช้กลยุทธนี้ในการเปิดตัว เนื่องจากผลกระทบจากโรคระบาด
ในตลาดต่างประเทศ หนังทำเงินไป 25 ล้านเหรียญจาก 33 ประเทศ ทำให้รายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 38.8 ล้านเหรียญ ด้วยสถานการณ์ที่เป็นไปในปัจจบัน ถือว่าหนังเปิดตัวได้แข็งแรง สำหรับการเป็นงานทุนสร้าง 79 ล้านเหรียญ ซึ่งนักวิเคราะห์บ็อกซ์ออฟฟิศก็มองตัวเลขที่หนังทำได้ ด้วยมุมมองในแง่ดี “กับการที่โรงอีกครึ่งหนึ่งปิดให้บริการ และโรคระบาดยังไม่หยุด แถมยังชม Tom & Jerry ได้จากที่บ้าน นี่ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี” เดวิด เอ.กรอสส์ ผู้บริหารของที่บริษัทปรึกษาเกี่ยวกับภาพยนตร์ Franchise Entertainment Research กล่าว “ถือเป็นสัญญานที่ดีสำหรับธุรกิจนี้และสำหรับโรงภาพยนตร์ ที่ถูกโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ดึงความสนใจอยู่”
สำหรับหนังที่ปล่อยมาในช่วงโรคระบาด ซึ่งเป็นเบี้ยหัวแตกเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ มักจะพุ่งเป้าไปที่คนดูวัยรุ่นเพื่อหวังผลตอบแทนก้อนโต แต่กับ Tom and Jerry วอร์เนอร์ฯ บอกว่า ยอดขายตั๋วมีกลุ่มผู้ชมครอบครัว ที่ซื้อตั๋วชมเป็นส่วนตัว เป็นแรงส่งหลัก
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มีความกลัวเรื่องการติดเชื้อในสถานที่จำกัด ในกลุ่มผู้ปกครองและเด็กๆ ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของหนังครอบครัวในช่วงโรคระบาด แต่ผมมองไปถึงว่า นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสใหญ่” ชอว์น ร็อบบินส์ หัวหน้านักวิเคราะห์ที่ Box Office Pro กล่าว “ขณะที่ผู้ป่วยลดลง วัคซีนถูกฉีดมากขึ้น และหนังทั่วๆ ไปเริ่มมีการปล่อยฉายมากกว่าเดิม กลุ่มผู้ชมครอบครัวจะรู้สึกสบายใจกับความคิดในการกลับไปชมภาพยนตร์ในโรงมากขึ้น โดยทำตามมาตรการทางสุขภาพ อย่างสวมหน้ากาก หรือรักษาระยะห่าง” ร็อบบินส์ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า งานของดิสนีย์ Raya and the Last Dragon ที่จะเปิดตัวในโรงและทางดิสนีย์พลัสก็จะทำได้ดีด้วย “แม้จะมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่ Tom and Jerry ก็สามารถทำได้ดีเหนือความคาดหมาย ต่อให้เปิดตัวพร้อมๆ กับสตรีมิง แล้วก็ไม่มีการทำตลาดจิงๆ จังๆ ซึ่งแสดงให้เห็นอนาคตในแง่บวกสำหรับอุตสาหกรรมโดยรวม”
นอกจากนี้ยังมีข่าวดีสำหรับบ็อกซ์ออฟฟิศอีกเรื่อง เมื่อนายกเทศมนตรีของนิวยอร์ค แอนดรูว์ คูโอโม ได้อนุญาตให้โรงหนังในห้าเขตกลับมาเปิดทำการได้โดยต้องมีการจำกัดความจุ เริ่มตั้งแต่ 5 มีนาคม หลังจากที่โรงภาพยนตร์ในนิวยอร์คต้องปิดทำการกันยาวนานเกือบปี ซึ่งส่งผลให้บรรดาสตูดิโอต่างๆ ต้องเลื่อนฉายหนังยักษ์ๆ ของตัวเอง โดยโรงหนังที่กลับมาเปิดให้บริการในพื้นที่ดังกล่าว จะจำหน่ายตั๋วได้แค่ 25% ของความจุ ซึ่งยากที่จะทำกำไร แต่บรรดาโรงภาพยนตร์ก็มองว่า ถือเป็นก้าวที่ดีในการฟื้นฟูและกระตุ้นอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์
“การเปิดโรงหนัง บวกกับการมีภาพยนตร์ใหม่ๆ เป็นสูตรที่สามารถทำให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์กลับมามีชีวิต” พอล เดอร์การาบีเดียน นักวิเคราะห์อาวุโสของคอมสกอร์กล่าว “นี่เป็นกำลังใจที่ดีที่สุด สำหรับที่การท้าทายสิ่งที่น่าหวาดกลัวและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในปีที่ผ่านมา”
สำหรับในอันดับอื่นๆ หนัง The Croods: A New Age อยู่ในอันดับสอง ด้วยรายได้ 1.2 ล้านเหรียญ จาก 1,912 จอ ตอนนี้แอนิเมชันจองยูนิเวอร์แซล, ดรีมเวิร์คส์ กลายเป็นงานฮิตเหลือเชื่อในช่วงโรคระบาด และทำเงินในอเมริกาเหนือไปแล้ว 52 ล้านเหรียญ
สำหรับหนังในอันดับอื่นๆ ไม่มีเรื่องไหนที่ทำรายได้เกิน 1 ล้านเหรียญ หนัง The Little Things ที่ฉายมาเป็นสัปดาห์ที่ห้าทำเงินอีก 925,000 เหรียญจาก 1,853 จอ หนังทำรายได้ในอเมริกาเหนือ 12.9 ล้านเหรียญ และ 10.3 ล้านเหรียญในตลาดนอกอเมริกาเหนือ รายรับทั่วโลกอยู่ที่ 23.2 ล้านเหรียญ
Wonder Woman 1984 มาเป็นอันดับ 4 ได้เงินอีก 710,000 เหรียญจาก 1,538 จอ นับตั้งแต่เปิดตัวมาได้สองเดือนกว่าๆ หนังทำเงินไปแล้ว 43.6 ล้านเหรียญ ซึ่งในตลาดต่างประเทศ หนังทำได้ดีกว่า เมื่อทำรายได้ถึง 117.4 ล้านเหรียญ ส่วนหนังเลียม นีสัน The Marksman อยู่อันดับห้า รายได้ 700,000 เหรียญ รายได้รวม 12.345 ล้านเหรียญ
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา