บทความที่ 76 “อย่าแต่งงานกับคนที่คุณรักหรือคนที่รักคุณ” แต่จงแต่งงานกับคนที่ขาดคุณไม่ได้ “
1. “Marry not to whom you love or love you.” ครับคุณอ่านไม่ผิดและ ปู่ IOU ก็ตั้งใจเขียนเช่นนั้น “อย่าแต่งงานกับคนที่คุณรักหรือคนที่รักคุณ” แต่จงแต่งงานกับคนที่ขาดคุณไม่ได้ “But marry to whom cannot live without you.”
2. สมัยที่ปู่ยังเป็นหนุ่มได้เรียนรู้ถึงวัฒนะธรรมและขนบธรรมเนียมการหาคู่ครองของแต่ละครอบครัวหรือต่างชาติค่อนข้างต่างจากคนยุคใหม่ กล่าวคือสมัยนี้เราไม่มีการคลุมถุงชน พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องมีแม่สื่อแม่ชักเพื่อเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างสองครอบครัวหรือหนุ่มสาวที่รักกัน บางคู่อาจจะไม่รู้จักกันมาก่อน เพียงพ่อแม่ของชายหญิงสนิทสนมชอบพอกันก็เกี่ยวก้อยเป็นดองกันถึงกับหมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่ยังไม่ตั้งครรภ์
3. ทั้งสองจะครองรักกัน ซื่อสัตย์ต่อกันและช่วยกันสร้างครอบครัวใหม่ (เรื่อร่มในหนองทองจะไปไหน) เมื่อเป็นการตัดสินใจของพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย โดยมีการหมั้นหมายกันไว้ก่อนระยะหนึ่งเพื่อชายและหญิงศึกษานิสัยของกันและกันก่อนแต่งงานอยู่กินด้วยกัน (คนจีนแต่งงานกันไม่มีการจดทะเบียนสมรส) แต่ไม่เคยมีการอย่าร้างกันเลย สมัยนี้ชายหญิงแต่งงานนิยมการจดทะเบียนสมรสสมรักกันให้ญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายเป็นสักขีพยานในพิธีหมั้นแต่งงานในวันเดียวกัน ที่ฝ่ายชายต้องมีเงินสินสอดตามที่ตกลงกันไว้ ยังต้องจัดงานฉลองเลี้ยงใหญ่โตอย่างสมเกียรติเพื่อหน้าตาและให้สมศักดิ์ศรีของทั้งสองฝ่าย (บางรายก็อัดยายขนมยาย)
4. แปลกแต่จริงสมัยนี้ชายหญิงแต่งงานกันหม้อข้าวยังไม่ทันดำก็ต้องหย่าร้างกันแล้ว (ชายหญิงอาจแค่ไต่เต้าเพื่อชื่อเสียง เงินทองรสนิยมอาจ ...ไม่ตรงกัน (Love isn’t Lust.) เกิดรักสามเศร้า หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความชอบไม่ตรงกันจึงร่วมหัวจมท้ายกันไม่ได้
5. สามีภรรยาบางคู่อาจจำต้องแต่งงานกันเพราะล่วงเกินประเพณีของท้องถิ่นที่ถือเป็นประเพณีมาแต่โบราณ (ผิดผี) เมื่อไปจับมือถือแขนฝ่ายหญิงก็ต้องยอมรับเป็นคู่ครองกันโดยปริยายเหมือนตกกระใดพลอยโจน
6. ปู่ IOU ไม่ขอวิจารณ์การจับคู่ของชาวอเมริกันและยุโรปที่เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงหรืออาจแค่ไม่กี่วันพอออกเดทกันก็จับมือจูงกันเข้าโบสถ์ให้พระฝรั่งทำพิธีแต่งงานกันก็ครองรักกันจริงอยู่กินกันจนแก่เฒ่า บางคู่กลับถูก Ugly ฝรั่งมิจฉาชีพ หลอกใช้เป็นเครื่องมือหากิน “ค้ามนุษย์”
7. ปู่ IOU ขอยกนิ้วโป้งให้ประเพณีของชาวอินเดียสมัยที่ปู่ยังหนุ่มแน่น (ถ้ายังไม่เปลี่ยนแปลง) ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายไปสู่ขอฝ่ายชาย แต่ไม่มีใครอธิบายว่าทำไม? ปู IOU ขออนุญาตวิเคราะห์ว่า เมื่อฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายสู่ขอฝ่ายชายเพื่อขอแต่งงาน จะเป็นข้อพิสูจน์ให้ผู้ชายมั่นใจว่าฝ่ายหญิงรักชายที่ตนรักจริงจึงยอมร่วมหัวจมท้ายด้วย (ถ้าปู่ IOU วิ เคราะห์ผิด ขอท่าน guru ช่วยให้ความกระจ่างด้วย และปู่ IOU ต้องขออภัยและขอบคุณขอรับ)
8. ในมุมกลับกันถ้าฝ่ายชายเป็นคนสู่ขอฝ่ายหญิงแต่งงาน ฝ่ายหญิงอาจจะมีคำถามคาใจว่าฝ่ายชายไม่รักฝ่ายหญิงจริงแต่รักเพียงรูปโฉมคือลุ่มหลงไปชั่วขณะอาจรักเพื่อหวังครอบครองสมบัติของนาง (Love or Lust) ฝ่ายชายได้เชยชมเธอแล้วก็อาจเป็นอื่นเพราะเห็นหญิงอื่นที่ถูกในกว่าในที่สุด...
9. ปู่ IOU ชื่นชมขนบธรรมเนียมของคนภาคอีสานบางจังหวัดที่เมื่อผู้ชายแต่งงานต้องอยู่กินกับภรรยาที่บ้านพ่อตาแม่ยาย เงินทองหามาได้ต้องมอบให้พ่อตาแม่ยายเก็บรักษาเพื่อจะควบคุมความประพฤติฝ่ายชายตลอดระยะสามปี ฝ่ายชายต้องช่วยทำมาหากินทำไร่ไถนา เมื่อพ่อตาแม่ยายเห็นว่าเป็นคนขยันรักลูกรักเมียก็จะคืนเงินทองให้ทั้งหมด หลังจากนั้นจะแยกครอบครัวออกไปอยู่ต่างหากหรือจะอยู่กับพ่อตาแม่ยายพร้อมลูกเมียตลอดไปก็ได้...
แฟนเพจคิดว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตคู่ในอนาคตและคู่พระพรที่พ่อแม่จัดเตรียมและหรือที่ชายหญิงต่างเลือกคู่ครองที่ตนรักและเลือกทางเดินของเขาเองทางใดเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ?
ถ้าบทความนี้โดนใจท่านโปรดกด Like กด share และ Comment จักเป็นพระคุณยิ่งขอรับ...
#ปู่IOU #ถอดใจเขียน #อย่าแต่งงานกับคนที่คุณรักหรือคนที่รักคุณ
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
