Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Pha'PHEEM
•
ติดตาม
1 มี.ค. 2021 เวลา 19:14 • ครอบครัว & เด็ก
แชร์ประสบการณ์ และ วิธีสังเกตลูกหัวโต
"ไฮโดรเซฟฟารัส" (หัวแตงโม) มันรวดเร็วและน่ากลัวกว่าที่คิด
.. เป็นอีกโรคที่น้องภีมเป็น และมีประสบการณ์ขนหัวลุกมากับตัวค่ะ อยากให้เป็นวิทยาทาน เพราะคิดว่ามันก็อาจเป็นโรคสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็ได้
"ไฮโดรเซฟฟาลัส" คือมีภาวะน้ำคั่งในสมองเยอะเกินไป เรียกแบบที่เข้าใจง่ายๆก็คือ #โรคหัวบาตรหรือหัวแตงโมนั่นแหละค่ะ พอได้มารู้จักกับโรคนี้ มีโอกาสได้เจอเด็กโรคเดียวกันหลายคน ถึงรู้ว่ามันใกล้ตัวมาก ซึ่งบางคนเป็นโดยที่ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ มารู้อีกทีคือหัวโตแล้ว บางคนก็รู้ตอนที่น้ำท่วมทับเส้นประสาทตาจนตาบอดแล้วก็มีนะคะ
หนูจะมาเล่าเรื่องของตัวเองเป็นวิทยาทานค่ะ 🙏
เพราะโรคนี้มันสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น คลอดก่อนกำหนดมีเลือดออกในสมองเยอะ,มีถุงน้ำในสมอง, หรือเกิดจากโครโมโซมXกลายพันธ์ุ, หรือบางคนก็เป็นเพราะโรคพันธุกรรมที่เขาเรียกว่าแดนดีวอร์คเกอร์
👉 แต่ของน้องภีมเกิดจากความบกพร่องของกระดูกสันหลังที่เขาเป็นมาตั้งแต่กำเนิดค่ะ นี่ก็เป็นเรื่องที่หนูพยายามมองให้เป็นความโชคดีของลูก เพราะอย่างน้อยๆเขาเป็นตั้งแต่เกิด ได้มีโอกาสเห็นและผ่าตัดใส่สายระบายน้ำได้ทันก่อนที่หัวจะโต หรือตาบอดไป
แต่ถึงแม้น้องจะได้ผ่าตัดใส่สายระบายน้ำแล้วตั้งแต่แรกเกิด ก็ใช่ว่าจะวางใจได้เสมอไปนะคะแม่ ข้อดีจากการที่บ้านนี้เลี้ยงลูกใกล้ชิดทุกเวลา ทำให้สังเกตลูกได้
เราเริ่มเห็นว่าลูกดูแปลกๆไปในสายตา แต่ก็ยังไม่ได้คิดหรือเอะใจอะไรมาก จนเขาอายุประมาณ 2 เดือนกว่า หลังจากฉีดวัคซีนรอบแรก มันเริ่มชัดขึ้นค่ะ เราก็เลยปรึกษายายของเขา ว่าหัวน้องภีมดูแปลกๆไหม เหมือนหัวเขาโตขึ้นไหม ยายเขาก็บอกว่าเราคิดมาก ลูกโตขึ้นหัวมันก็โตขึ้นตามตัว
แต่สัญชาตญาณความเป็นแม่ มันกังวลสุดๆเลย ถ้าโตแล้วรูปทรงปรกติจะไม่คิดมาก แต่นี่มองยังไงมันก็สูงขึ้นพุ่งชันไปด้านบน เหมือนหัวบาตร
เลยเริ่มวัดขนาดหัวลูกและจดบันทึกไว้ตั้งแต่วันนั้น ตอนวัดครั้งแรกได้ 42 ซม. ใจอีแม่นี่หล่นวูบเลยค่ะ เพราะเด็กอายุน้อยกว่า 3 เดือน ขนาดหัวปรกติควรจะไม่เกิน 40 ซม.
ก็เลยโทรไปปรึกษากับหมอที่ รพ.เด็กฯ เขาก็แนะนำให้ลองสังเกตและจดขนาดไว้เรื่อยๆ ว่าหัวเขาจะโตขึ้นเร็วช้าแค่ไหน
แม่ยอมรับว่าวัดถี่มาก 2-3 วันที โตขึ้นที่ละ 1-2 ซม. (คือโตแบบเร็วมาก)
👉 แล้วไม่นานดวงตาน้องเริ่มเปลี่ยนไป จากเด็กที่ตากลมโต เริ่มเรียว หางตาเหมือนถูกดึง ช่วงหนังตาบนตึงจนขยับไม่ได้เลยค่ะ
หัวเขาก็ดูตึงและเงามากกว่าเดิม หนูมั่นใจเลยว่่าลูกผิดปรกติแน่ๆเลยรีบพาไปหาหมอค่ะ
(สรุปว่าสายระบายน้ำของน้องมีปัญหาจริงๆ คือมีผังผืดเกาะทำให้น้ำระบายออกได้ไม่เต็มที่)
น้องได้ถูกผ่าตัดเปลี่ยนสายระบายน้ำครั้งที่ 2 ตอนอายุประมาณ5เดือน
สิ่งที่อยากจะขอย้ำบอกไว้เป็นประสบการณ์คือ
"โรคนี้ถ้าหัวโตแล้วมันไม่สามารถหดได้"
ถ้าโชคร้ายไม่ทันสังเกตคืออันตรายมากเลยแหละค่ะ มันเป็นไปอย่างเร็วมากจริงๆ
.. วันที่น้องภีมผ่าตัดครั้งที่2 มีโอกาสคุยกับยายของน้องเตียงข้างๆ มีภาวะน้ำคั่งในสมองเหมือนกัน เขาบอกว่าหลานเล่นอยู่ปรกติดีๆแล้วเป็นไข้ลุกไม่ขึ้น เขาไม่รู้ว่าหลานมีน้ำคั่งในสมอง ก็ให้นอนรักษาอยู่บ้านหลายวันกว่าจะได้พาไปหาหมอ สรุปคือช้าไปแล้วค่ะ เพียงเวลาแค่15วันหัวของน้องเขาโตขึ้นจนเป็นหัวบาตร และน้ำทับเส้นประสาทตาจนตาเขาบอดสนิททั้งสองข้าง
ภีมเองเกือบช้าไป โชคดีที่เราเลี้ยงลูกทั้งวันจนสังเกตลูกได้ เพราะตอนนั้นตาเขาก็ตึงสุดๆแล้ว ถ้าเรารุ้ตัวช้ากว่านี้อีกนิด บางทีอาจไม่มีสิทธิได้ผ่าตัดทันแบบนี้
และนี่คือสิ่งที่คิดว่าเป็นโชคดี ถึงแม้หัวของเขาจะไม่กลับมากลมแบบเดิม, ถึงแม้ดวงตาเขาจะเปลี่ยนทรงไปแล้ว แต่มันก็ยังดีกว่าที่หัวเขาจะไม่หยุดโตนะคะ
จากประสบการณ์ จึงกล้าเล่าได้ว่า โรคนี้ค่อนข้างใกล้ตัวและมาได้จากหลายสาเหตุ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นมาตั้งแต่กำเนิดด้วยซ้ำ
จึงอยากแชร์เรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์อีกหนึ่งเรื่องของมนุษย์แม่ทุกคน
สมัยนี้โรคเยอะ อะไรมันก็ชะล่าใจไม่ได้แล้วจริงๆ พอเป็นแม่คนแล้วถึงเข้าใจทุกอย่างค่ะ
ฝากไว้ให้คิดนะคะ ขอบคุณแม่ๆที่อ่านจนจบ 🙏
บันทึก
8
10
10
8
10
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย