2 มี.ค. 2021 เวลา 12:52 • ไลฟ์สไตล์
คุณเคยคุยกับตัวเองไหมครับ?
ทราบไหมครับ เขามีการสอนคุยกับตัวเองกัน
"ทำไมแค่นี้ทำไม่ได้วะ?"
ผมได้ยินเสียงเพื่อนที่อยู่ท้ายรถพูดขึ้นมา เพื่อนๆในรถก็งงกันว่ามันถามใคร
"กูพูดกับตัวกูเอง" มันตอบ
เพื่อนๆได้แต่แอบขำ รอให้รถหยุดแวะ ถึงได้วิ่งลงไปสนทนาหารือแบบมีอารมณ์ร่วมขั้นสูง หรือที่เรียกว่า "เมาธ์"กัน นั่นเอง
ที่ต้องแอบพูดคุยลับหลังเจ้าของเรื่อง เป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้าประโยคดังกล่าวนั้น พอจะทำให้เราคาดเดาสถานการณ์กันได้ว่า ไม่ควรขบขันต่อหน้าเขาคนนั้น เรื่องเริ่มจากเพื่อนๆลากกันไปเที่ยวต่างจังหวัด พอผ่านมาได้ไม่กี่จังหวัด อารมณ์ที่กำลังสนุกสนานก็เปลี่ยนผันไปในทันทีที่เขาได้รับโทรศัพท์ และโทรศัพท์สายนั้นก็ลากยาวมาอีกหลายจังหวัดต่อเนื่อง แบบอยากขอทราบยี่ห้อแบตมือถือมาก จนใกล่้ถึงที่หมาย สายจึงวางลง และเป็นที่มาของประโยคข้างต้น
ตอนนั้นที่เราขำกัน อาจเป็นเพราะไม่เคยทราบว่า การพูดกับตนเองในสภาวการณ์ที่ต้องการพินิจพิเคราะห์อะไรสักอย่าง มันเป็นศาสตร์ที่มีประโยชน์ และมีผู้ประสบความสำเร็จมากมาย ที่ใช้การพูดกับตัวเองเข้ามาเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจสำคัญๆในชีวิต
ในศาสตร์การสื่อสารนั้น กระบวนการสื่อสารจะเริ่มต้นด้วยจำนวนคนน้อยสุดกี่คนทราบไหมครับ?
คำตอบคือ ... 1 ครับ
แปลว่าเราพูดกับตัวเราเองก็นับเป็นการสื่อสารละนะครับ
มนุษย์เรา(จริงๆน่าจะรวมสัตว์ต่างๆด้วยเช่นกัน) มีอวัยวะที่คอยสั่งการอวัยวะอื่นๆอยู่ หรือเรียกว่าเป็นนายใหญ่แห่งร่างกายเราเลยก็ได้ อวัยวะก็นั้นคือ "สมอง" ครับ
สมองแบ่งเป็น 2 ซีก เรียกตรงตามตัวเลยครับว่า "สมองซีกซ้าย" (Left Cerebral Hemisphere) และ "สมองซีกขวา" (Right Cerebral Hemisphere) แต่การทำงาน ดันตรงข้ามกับชื่อครับ สมองซีกซ้ายควบคุมการทำงานของร่างกายซีกขวา สมองซีกขวาควบคุมการทำงานของร่างกายซีกซ้าย ซึ่งสมองซีกขวาจะเริ่มพัฒนาก่อนสมองซีกซ้ายนะครับ ลองสังเกตว่าเด็กเล็กๆก่อน 2 ขวบ มักจะถนัดใช้มือซ้ายหยิบจับมากกว่ามือขวาครับ
แต่ที่เราจะมาคุยกัน ไม่ได้เป็นประเด็นเรื่องจะถนัดร่างกายข้างไหนกว่ากันครับ มันเป็นอีกเรื่องที่สมองทั้ง 2 ซีกนี้ทำหน้าที่ต่างกัน
ก่อนที่จะอ่านต่อ โปรดวางมือถือในที่ที่มั่นคง แล้วนำมือทั้งสองข้างมาประสานกัน แบบนิ้วขวาสลับนิ้วซ้ายนะครับ แล้วสังเกตว่านิ้วโป้งข้างไหนที่อยู่บนสุดครับ ซ้ายหรือขวา?
ตามทฤษฎีที่กล่าวไปข้างต้น ถ้านิ้วโป้งขวาอยู่บน คุณเป็นคนที่ใช้สมองซีกซ้ายเป็นหลักครับ ถ้านิ้วโป้งซ้ายอยู่ด้านบน คุณก็จะเป็นผู้ใช้สมองซีกขวาเป็นหลักครับ
แล้วหลักที่ว่านี้คือ หลักอะไร?
หลักที่ว่าก็คือ สมองซีกซ้ายจะใช้ตรรกะ และเหตุผล มีผลต่อการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ หรือก็คือ"ศาสตร์" (Science) ส่วนสมองซีกขวา จะใช้ด้านจินตนาการ ความทรงจำ มีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ หรือก็คือเรื่อง"ศิลป์" (Art)
ตอนนี้คุณพอจะได้คำตอบหรือยังครับ ว่าทำไมเหตุการณ์เดียวกัน คนแต่ละคน ถึงเลือกคำตอบที่ต่างกัน นั่นเป็นเพราะคนซีกซ้ายมักจะนำเหตุและผลมาชั่งตวงในการหาคำตอบให้ชีวิต ส่วนคนซีกขวามักจะใช้ความรู้สึกในการเลือกคำตอบแม้จะขัดต่อเหตุผลที่มีก็ตาม
อย่างไรก็ดี สมองทั้งสองข้างใช่จะกลืนกินอีกข้างไปเสียหมด ในทางตรงกันข้ามทั้งสองซีกยังทำงานร่วมกันตลอดเวลา รวมไปถึงทดแทนกัน ยามที่อีกซีกไม่สามารถปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้ (คล้ายๆนางงามนะครับ) เหมือนในชีวิตจริง ที่คนข้างกายคุณ อาจใช้คนละซีกสมองในการตรองเรื่องเดียวกัน ไม่ว่าคำตอบจะต่างกันขนาดไหน เราก็ควรให้มันเป็นการประสานงานกัน มากกว่าประสานงา เพื่อนำพาชีวิตเราไปสู่ความสงบสุขกันนะครับ
ผมมีเพื่อนที่ไม่เคยเลือกซื้อของที่มีคาแรคเตอร์การ์ตูนต่างๆเลย เพราะไม่จำเป็นต่อการใช้งาน แต่กลับมีราคาที่สูงขึ้น
ตัวผมเอง ยังหาเหตุผล(ตอบตัวเองและคนรอบข้าง)อยู่เสมอ ทำไมเราต้องซื้อรองเท้าใหม่อีก ในเมื่อมีเท้าแค่สองข้าง ใส่ได้ทีละคู่
ถ้าวันนั้น โรมิโอและจูเลียต ใช้สมองซีกซ้ายมากกว่านี้ เราคงไม่มีโศกนาฏกรรมบันลือโลก
ถ้าวันนี้ ผู้มีอำนาจจะใช้หลักรัฐศาสตร์ควบคู่ไปกับหลักนิติศาสตร์ โลกเราคงเข้าใจกันมากกว่านี้
ครั้งหนึ่ง คุณอาที่นับถือเพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกา ที่ไปทำงานอยู่หลายสิบปี ผมได้มีโอการสนทนาเรื่องงานบ้าง ท่านได้แนะนำให้คุยกับตัวเองทุกวัน วันนี้เราทำอะไรพลาดไป ถ้ากลับไปแก้ได้ เราจะแก้มันอย่างไร ท่านว่าได้แนวคิดนี้ ขณะศึกษาและทำงานที่อเมริกา ให้สมองสองด้านมันโต้วาทีกันไป เราเป็นกรรมการคอยให้คะแนนในท้ายสุด
ส่วนตัวผมเชื่อว่า เราต้องคิดด้วยสมอง (ซีกซ้าย) แล้วตรองด้วยหัวใจ (อันนี้แม้คนจะเรียกใจ แต่ผมว่ามันน่าจะหมายถึงสมองซีกขวานะครับ) นำข้อมูลที่ได้ มาวิเคราะห์หาข้อดี ข้อด้อย ของแต่ละทางเลือก ตัดตัวเลือกที่ผิดแน่ๆออกไป แต่ชีวิตบางครั้งมันอาจไม่ได้มีคำตอบเดียวที่ถูกต้อง ผมจึงนำสิ่งที่น่าจะ "ถูกต้อง" มาเลือกให้ "ถูกใจ" อีก ให้สมองทั้งสองข้างเราถกกันให้พอ จนกว่าเราจะได้คำตอบที่แม้จะไม่ถูกสำหรับคนทั้งโลก แต่อย่างน้อยมันก็ถูกสำหรับคุณ และสมองทั้งสองซีก
ป.ล. ไม่แนะนำให้ตอนถกกันมีเสียงออกมานะครับ ไม่อย่างนั้นใครๆเค้าจะมองเราว่าบ้าได้...
Left and Right
โฆษณา