Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Superwins
•
ติดตาม
3 มี.ค. 2021 เวลา 06:36 • ปรัชญา
ลูกบอลบอบบางสีฟ้าที่แขวนไว้ในห้วงจักรวาล
ประสบการณ์ที่กบตัวหนึ่งได้ขึ้นไปอยู่บนบกหลังจากที่เคยอยู่ในบึงน้ำมาทั้งชีวิต หลังจากกลับมาในบึงอีกครั้งกลายเป็นว่ามองบึงที่เดิมในแบบที่ต่างจากเก่า เหมือนการที่เมื่อก่อนลุ้นว่าสักวันเราจะแล่นเรือจนตกขอบโลกไปหรือไม่ แต่เมื่อได้ประจักษ์ในสมัยปัจจุบันแล้วว่าผืนทะเลเชื่อมหากันตามลักษณะทรงกลมของโลก การลุ้นว่าจะแล่นเรือตกขอบโลกจึงไม่เหลือในสารบบความคิดอีกต่อไป ไม่สามารถกลับมาโลกให้แบนได้อีก คำว่า “ตาสว่าง” ก็น่าจะพออธิบายปรากฎการณ์นี้ได้
ลองจินตนาการเล่นๆว่าหากเราเป็นนักบินอวกาศ ขึ้นจรวดและกระสวยวิ่งหนีแรงโน้มถ่วงที่เสมือนเป็นกำแพงขวางกั้นระหว่างดินแดนสวรรค์กับมนุษย์ ผ่านชั้นเมฆขึ้นพบว่าวิมานบนนี้ไม่มีอยู่จริง ไม่มีซุส ไม่มีเง็กเซียน ยังดีที่พระเจ้าของบางคนย้ายไปสถิตอยู่ในทุกสรรพสิ่งถึงขั้นดำรงตนเป็นกฎธรรมชาติของจักรวาล จึงไม่มีปัญหาเมื่อถูกวิทยาศาสตร์นำกองทัพความอยากรู้ของมนุษย์มาไล่รุกที่เหนือผืนเมฆขึ้นไป พระเจ้าจากไปตั้งแต่รอยต่อระหว่างยุคมืดและยุครู้แจ้งแล้ว ทิ้งไว้แค่ชั้นบรรยากาศเบาบางที่สิ่งมีชีวิตธรรมดายากจะดำรงอยู่ได้ แต่เมื่อเราทะยานขึ้นไปเหนือชั้นบรรยากาศทั้งมวลแล้วสัมผัสกับความเคว้งคว้างของมวลเนื้อสุญญากาศที่ไร้ตัวตน เราแหวกว่ายในมันเหมือนอยู่ในน้ำหรืออากาศได้หรือไม่ จะไขข้อสงสัยนี้ได้กระจ่างใจอาจจะต้องสัมภาษณ์คนที่เคยไปมา หรือลองไปเองสักครั้งในชีวิต
แต่จุดสำคัญคือตอนที่มองย้อนกลับมายังดาวโลกที่จากมา ในระยะที่ไกลพอเราจะมองเห็นโลกแสนกว้างใหญ่ที่ยัดคำว่า “ทั้งชีวิต” ไว้จำนวนหลายพันล้านกลับถูกย่อขนาดเหลือแค่ประมาณลูกบอลลูกหนึ่ง เพียงแค่แรงอะไรบางอย่างพัดพาชั้นบรรยากาศหลุดไป สิ่งมีชีวิตบนนั้นก็คงไม่อาจดำรงอยู่ได้ ตามทฤษฎีที่เชื่อกันตอนนี้ อุกกาบาตขนาดพอเหมาะเคยร่วงลงมาบนผืนโลกเพื่อล้างเผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์มาก่อน แล้วหลายล้านปีหลังจากนั้นที่โลกแขวนไว้บนวงโคจรของสุริยะจักรวาลตลอดมา มีโอกาสอีกหรือไม่ที่อุกกาบาตลูกใหญ่กว่าเดิมจะเข้ามาล้างโลกอีกระลอก หรือซัดให้ลูกบอลสีฟ้าลูกนี้กระจัดกระจายกลายเป็นเศษขยะอวกาศ หรือกลายเป็นดาวหาง อุกกาบาตพุ่งไปสู่งดาวเคราะห์ดวงอื่นต่อไป มนุษย์พัฒนาอารยธรรมตัวเองและย้ายจากบริษัทศาสนามาทำประกันโลกไว้กับบริษัทวิทยาศาสตร์มากขึ้น แล้วสมัยนั้นไดโนเสาร์มีศาสนา มีพระเจ้าของตัวเองหรือไม่ เผ่าพันธุ์มันอาจจะพลาดที่ไม่มีไดโนเสาร์โนอาห์สร้างเรือบินขนาดยักษ์ลอยเหนือชั้นบรรยากาศหลังจากอุกกาบาตลง วันที่อุกกาบาตพิฆาตโลกอาจจะเป็นวัน แร็คนาร็อค ตามแบบฉบับของพวกมัน แล้ววันแบบนั้นอาจจะมาถึงเผ่าพันธุ์ของเราได้เช่นกัน เพียงแต่เราพยายามเร่งฝีมือย้ายถิ่นฐานตัวเองไปโลกใบใหม่อย่างดาวอังคารให้ไวกว่าการลงมือของพระเจ้า
โลกบอบบางและเล็กกว่าที่เราคิดตอนอาศัยอยู่ข้างในนั้นมาก ทำให้ยิ่งดูน่าขันที่สิ่งมีชีวิตที่อายุยืนไม่ถึงร้อยปีอย่างเราจะคร่ำครวญและมองเรื่องบางอย่างในชีวิตตัวเองเสียใหญ่โต ความตายของเราหรือคนที่รักสำคัญแค่ไหนเชียวกับจักรวาล ในห้วงอวกาศแห่งจักรวาลอื่นอาจจะมีเผ่าพันธุ์ยักษ์ใหญ่ทรงปัญญาที่มองเราเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายมด ถึงตอนนั้นเขาจะอ้างว่าเราเล็กเกินไปที่จะมีชีวิตจิตใจแล้วลงมือบดขยี้เราเพื่อผลประโยชน์ของเขาโดยไม่รู้สึกระคายมโนธรรมหรือไม่ ยิ่งเราค้นพบความจริงเกี่ยวกับธรรมชาติมากขึ้นเท่าไหร่ความสำคัญของเผ่าพันธุ์เรากลับยิ่งน้อยลง
เป็นเหมือนภาพเหตุการณ์ซ้อนกันอย่างประหลาด แนวคิดที่ยิ่งใหญ่อย่างเรื่องของจักรวาลกลับเป็นกลายเป็นเรื่องที่ไม่สลักสำคัญเมื่อมันไม่สามารถหาเงินให้กับเราได้ คนส่วนใหญ่ยังคงมองว่าภาวะตกงานหรือการโดนแฟนทิ้งเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่า เรื่องธรรมชาติของจักรวาลเป็นเหมือนมดในระดับความสนใจของคนส่วนใหญ่ที่มองว่าปากท้องเป็นเรื่องระดับช้าง หรือว่าธรรมชาติตั้งใจสร้างปลาให้ทำหน้าที่ของตัวเองอยู่แค่ในน้ำ ไม่จำเป็นต้องใช้ความอยากรู้พาตัวเองทะยานขึ้นไปบนบกหรืออวกาศ จะได้ไม่ต้องเกิดเหตุการณ์วิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน ผู้ที่ย้อนกลับมาทำลายธรรมชาติในภายหลัง ยุคศตวรรษที่ 20 เป็นยุคของฟิสิกส์ที่คนใช้ความรู้ตักตวงสิ่งต่างๆจากธรรมชาติไม่หยุด พอมาศตวรรษที่ 21 บางคนก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการทูตมากขึ้น โดยเริ่มประนีประนอมกับธรรมชาติที่เริ่มย้อนมากลับมาลงโทษเพื่อปะทังให้ลูกบอลสีฟ้าอันแสนบอบบางใบนี้แขวนบนวงโคจรสุริยะจักรวาลต่อไปได้อย่างผาสุกอีกสักพักหนึ่ง
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย