shutdown Bangkok ตอนที่ 28 การแพ้ภัยตัวเอง ของเหล่าม็อบ 3 นิ้ว จุดจบใกล้เข้ามา
จากการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการชุมนุมประท้วงของเหล่าม็อบ 3 นิ้วมาเรื่อย ๆ พบว่า แม้จะพยายามปลุกปั่นแค่ไหน กระแสก็เริ่มลดลงเรื่อย ๆ จากผู้ชุมนุมหลักหลายหมื่นคน ปัจจุบันก็หลักร้อยคน
ภาพข่าวจากเดลินิวส์ออนไลน์ แกนนำเริ่มถูกจับ และไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากกระทำผิดซ้ำซาก
กระแสที่ตกลงมาก ๆ ที่ชัดเจนเลยคือช่วงที่ออกแนวคิดว่าจะเปลี่ยนการปกครองให้เป็นคอมมิวนิสต์นี่แหละ ทำให้คนส่วนมากที่เห็นด้วยต้องหนีห่างกันเป็นแถบ ๆ
หลังจากนั้นก็พยายามปลุกปั่น อย่างต่อเนื่อง เริ่มมีการยกระดับความรุนแรง แต่สุดท้าย เหล่าแกนนำก็ถูกจับกุมตัวไปจนเกือบหมด และไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากกระทำผิดซ้ำซาก จุดจบของม็อบนี้ก็คือ เหล่าแกนนำม็อบต้องติดคุกทั้งหมด จากทั้งมาตรา 112 และ 116 แบบเดียวกับม็อบที่ฮ่องกง
ล่าสุดก็มีกรณีที่นายแอมมี่ บลูบอททอม พยายามจะเผาพระบรมรูปของรัชกาลที่ 10 หน้าศาลอาญาคลองเปรม ซึ่งตัวนายแอมมี่ก็ตกลงมาจนบาดเจ็บ หลังจากขึ้นไปเผา หลักฐานจากกล้องวงจรปิดชัดเจน จำนนด้วยหลักฐาน
และกรณีการบุกปล้นรถตำรวจ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ขนนักโทษ ซึ่งทำให้ผู้ไปร่วมก่อเหตุ มีความผิดอย่างชัดเจนและมีหลักฐานเป็นคลิป จากกล้องวงจรปิดที่ติดในรถตำรวจ และกล้องจราจรที่อยู่แถวนั้น
นักโทษก็มีความผิดเพิ่มฐานพยายามหลบหนี คดีเพิ่ม ศาลก็มีสิทธิ์ไม่ให้ประกันตัว ส่วนพวกการ์ดที่ปล้นนักโทษ ข้อหาค่อนข้างร้ายแรง คงต้องติดคุกอีกนาน
ภาพการแย่งชิงตัวผู้ต้องหา
การทหารไม่หน่ายอุบาย เท่าที่ดูแล้ว ฝ่ายม็อบ 3 นิ้วตกหลุมพรางของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างชัดเจน และทำให้เห็นว่า ฝ่ายม็อบใช้แต่อารมณ์ ไม่มีการใช้สมอง และต้องเดินเข้าคุกไปแบบข้อหาที่รุนแรง หมดอนาคต
เท่าที่ดูตั้งแต่ม็อบนี้ก่อกำเนิดมา ก็รู้สึกว่าทำในแต่สิ่งที่สร้างความหายนะให้ตัวเอง มีแต่สร้างคดีความให้ตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ใครเข้าร่วม อนาคตก็แทบจะไม่เหลือ นับวันก็เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ อายุน้อยร้อยคดี แทบจะเอาชีวิตไปทิ้งในคุกเลย
ความคิดและการกระทำแบบนี้ อย่าว่าแต่จะปกครองบ้านเมืองเลย แต่เอาชีวิตตัวเองให้รอดปลอดภัย เป็นปกติสุข ยังทำไม่ได้เลย
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นพระที่ผู้เขียนเคารพสูงสุด ท่านยังเคยพูดถึงเรื่องนี้ว่า
ข้อความจากหนังสือ ฤาษีทัศนาจร เล่ม 1
ตอนที่อ่านครั้งแรก ประมาณ 10 ปีที่แล้ว ยังคิดว่าคอมมิวนิสต์นี้เลิกกันไปแล้วเสียอีก ไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีคนมี่มีแนวคิดไดโนเสาร์แบบนี้ หลงเหลือมาถึงยุคนี้ และน่าตลกตรงที่อ้างตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ หัวคิดก้าวหน้าซะด้วย
ตอนนี้ก็กำลังจะแพ้ภัยตัวเอง ไปแบบที่หลวงพ่อท่านว่าไว้จริง ๆ กำลังเดินทางเข้าสู่ความหายนะจากการกระทำของตัวเอง คงไม่เห็นแสงเดือนแสนตะวันอีกหลายปี
เอาเข้าจริงแล้ว การออกมาวิพากษ์วิจารณ์ด่าว่ากษัตริย์หรือประมุขของประเทศไหนก็ตามในโลก เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเลย คนที่ทำแบบนั้นถือว่าไร้มารยาทมาก ๆ ไม่ควรเรียกว่าปัญญาชน พวกนี้มืดบอดมาก
สมมุติเราไปอยู่ประเทศญี่ปุ่น แล้วเรานั่งด่าว่าจักรพรรดิญี่ปุ่น มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไร้มารยาทมาก ๆ ถ้าทำแบบนั้น ถ้าไม่โดนคนญี่ปุ่นรุมกระทืบตาย เค้าก็ต้องไล่คนพวกนั้นออกไปนอกประเทศ
คนเราต้องให้เกียรติเคารพซึ่งกันและกัน มีมารยาทที่ดี มีความเกรงใจ โดยเฉพาะกษัตริย์ ต้องให้ความเคารพ รู้จักอยู่ให้สงบปากสงบคำ เรื่องแบบนี้ไม่ควรเอามาพูดในที่สาธารณะ เราจึงจะอยู่ในแผ่นดินนั้นๆ ได้อย่างมีความสุข
ขนาดกษัตริย์ของประเทศตัวเอง พวกม็อบ 3 นิ้วยังเอามาล้อเลียน เอามาด่าว่า วิพากษ์วิจารณ์ บอกได้เลยว่า คนจำพวกนี้ไม่ควรอยู่ในแผ่นดินไทย ถ้าไม่ติดคุกจนตาย ก็ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศตลอดชีวิต เพราะเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ คนที่สนับสนุนก็ไม่มีทางอยู่ได้เป็นสุขอย่างแน่นอน
จุดจบของพวกม็อบ 3 นิ้วอีกไม่นานเกินรอ ยิ่งพยายามดิ้นรน ก็ยิ่งไม่รอด เราลองมาติดตามสถานการณ์ต่อไป
ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืมกดไลค์กดแชร์กดติดตามเพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆต่อไป
อ้างอิง
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
