Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Napitchaya คอไวน์
•
ติดตาม
3 มี.ค. 2021 เวลา 16:03 • ไลฟ์สไตล์
คำว่า “Old Vines” บนฉลากไวน์มีความหมายว่าอะไร และทำไมไวน์ที่มีคำนี้ระบุบนฉลากไวน์ถึงดี?
เพื่อนๆอาจจะเห็นคำ Old Vines บนฉลากไวน์โลกใหม่ เช่น ประเทศอเมริกา และออสเตรเลีย หรือคำว่า Vielles Vignes บนฉลากไวน์โลกเก่า เช่น ไวน์จาก Côte du Rhône (แคว้นโรน ประเทศฝรั่งเศส) ซึ่งทั้งสองคำนี้แปลตรงตัวว่า “ไวน์แก่ หรือ ไวน์ที่มีอายุมาก”
ต้นองุ่นพันธุ์ Grenache อายุ 90 ปี ในแคว้น Languedoc ประเทศฝรั่งเศส
ต้นองุ่นมีอายุยืนมากค่ะ สามารถให้ผลผลิตได้เมื่อปลูกไปแล้วอย่างน้อย 3 ปี และจะให้ผลผลิตหรือพวงองุ่นน้อยลงเรื่อยๆเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ซึ่งต้นองุ่นเมื่อมีอายุ 7 หรือ 8 ปีจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ (adulthood) และจะโตเต็มที่ (mature) เมื่อมีอายุอยู่ในช่วง 12-25 ปี ซึ่งต้นองุ่นที่มีอายุมากกว่า 25 ปี ก็นับว่าเป็น Old Vines แล้วค่ะ แต่ winemaker หรือกูรูไวน์บางท่านจะบอกว่าองุ่นที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ยิ่งแจ๋ว! ทำไวน์ได้อร่อยเข้มข้นมาก 🥴 ลองจินตนาการดูถึงต้นองุ่น “Stara Trta” ที่มีอายุมากที่สุดในโลกปลูกอยู่ที่อยู่ในเมือง Maribor ประเทศ Slovenia (wine region สำคัญในประเทศสโลวีเนีย) เจ้าของสถิติที่ถูกลงบันทึกในกินเนสบุ๊คดูสิคะ เป็นองุ่นที่มีอายุยืนถึง 400+ ปี และยังให้ผลผลิตทำไวน์แดงได้อยู่จนถึงปัจจุบันจะทำไวน์ออกมาแบบไหนกัน
ต้นองุ่นที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ณ เมือง Maribor ประเทศสโลเวเนีย
ปกติแล้วต้นองุ่นจะให้ผลผลิตหรือพวงองุ่นน้อยลงเรื่อยๆ (low yield) เมื่อมีอายุมากกว่า 20 ปี แต่! สิ่งที่น่าสนใจ คือ รสชาติของน้ำองุ่นจากต้นที่มีอายุมากๆจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีปัญหาเรื่องของแทนนินจากองุ่นที่ไม่สุกดี เนื่องจากต้นองุ่นที่มีอายุมากนั้นจะให้พวงองุ่นที่เล็กลง ดังนั้นยิ่งลูกเล็กลงหมายความว่าองุ่นสุกง่ายและสุกทั่วถึงอย่างสม่ำเสมอค่ะ คุณภาพของน้ำองุ่นที่ได้ก็นับว่าดีเยี่ยมด้วย เพราะว่ารากของ Old Vines หยั่งลงในดินลึกมาก ทำให้ได้รับสารอาหารจากแร่ธาตุต่างๆและน้ำแร่บริสุทธิ์ที่อยู่ในชั้นดินที่ลึกกว่าต้นองุ่นอายุน้อย น้ำองุ่นที่เข้มข้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุส่งผลต่อกลิ่นของไวน์ในขั้นตอนการหมักบ่มเช่นกันค่ะ
ปัญหาของ Old Vines ที่ชัดเจนมากที่สุด คือ การที่ให้ผลผลิตน้อย ซึ่งแน่นอนค่ะว่าผู้ปลูกองุ่น (Grape grower) ก็ทำกำไรได้น้อยลงด้วย เท่าที่ค้นคว้าข้อมูลเรื่องด้านการดูแลก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะตราบเท่าที่ต้นองุ่นยังแข็งแรงดี ไม่ติดโรค แค่อย่าไปทำอะไรรุนแรงกับเค้าจนทำให้เกิดความเสียหายก็เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่า การที่ระบุคำว่า Old Vines หรือ Vielles Vignes เป็นเรื่องของการตลาดเพื่ออัพราคาของไวน์ให้สูงขึ้นหรือเปล่า คุณ Madeline จาก Wine Folly ได้เขียนเล่าไว้ว่า Grape grower ไม่สามารถขึ้นราคาองุ่นที่ได้จากองุ่นวัยเก๋าแต่อย่างใด แต่ก็มีบางแบรนด์ที่ตั้งราคาไวน์ที่ทำจาก Old Vines สูงเพราะให้เหตุผลว่ามันหายากและคุณภาพของน้ำไวน์ที่ดีกว่า
สรุปว่า ไวน์ที่มีคำว่า Old Vines เป็นไวน์ที่มีคุณภาพดี รสชาติเข้มข้นกว่า เนื่องจากเป็นองุ่นที่มีอายุมาก ซึ่งให้องุ่นผลและพวงเล็ก น้ำองุ่นที่ได้จึง concentrated มากกว่า ในประเทศอเมริกาส่วนใหญ่จะเห็น Old Vine Zinfandel (เคยเทสแล้วมัน juicy มากจริงๆ) ซึ่งเป็นต้นองุ่น Zinfandel ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี
ปุ้ยขอแนะนำให้หาข้อมูลเกี่ยวกับไวน์ขวดที่ระบุคำนี้ก่อนว่าองุ่นที่ใช้ทำไวน์มีอายุมากจริงๆหรือเปล่า เพราะแต่ละประเทศไม่ได้มีกฎหมายมาบังคับเรื่องอายุของต้นองุ่นที่ใช้ผลิตไวน์แบบนี้ แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าเห็นคำว่า “Old Vines” มักจะเป็นไวน์ที่ทำจากน้ำองุ่นจากต้นที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปแบบ 100% ค่ะ นอกจากจะหาข้อมูลแล้ว ควรลองเทสดูเองด้วยเพื่อพิสูจน์ว่ามันดีกว่าไวน์ปกติหรือไม่ เพราะรสนิยม ความชอบ มาตรฐานของคนเราไม่เหมือนกันค่ะ
เพิ่มเติม: Old Vines ทั่วโลกจะเรียกแตกต่างกัน และเขียนโดยใช้ภาษาของตัวเอง ดังตัวอย่างต่อไปนี้ค่ะ
- Vieilles Vignes ในประเทศฝรั่งเศส
- Alte Reben ในประเทศเยอรมันนี
- Vinhas Velhas ในประเทศโปรตุเกส
- Viñas Viejas ในประเทศสเปน
(ข้อมูลจาก WineFrog)
ตัวอย่างฉลากไวน์ที่มีคำว่า “Old Vine” จากประเทศอเมริกา
ตัวอย่างฉลากไวน์จากประเทศฝรั่งเศส
Credit รูปภาพจาก Google images ค่ะ
บันทึก
2
3
2
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย