เรื่องพระสูตรคำสอน
.... อย่าลืมแก้หนี้ให้เบาด้วยนะะะ
ที่ทรงมีบัญญัติไว้ในสุตตันตะนั้นเราควรศึกษาโดยละเอียดครอบคลุม ถ้าเห็นอันใหนที่เสริมเข้ามามันไปขัดแย้งกับข้อความในพระสูตรแล้วก็ไม่ควรนำมาพิจารณา เพราะมันเป็นเหตุให้พระสัทธรรมปฏิรูป. เหตุก็มาจากพวกเราที่เป็นสาวกเนี่ยแหละครับที่ทำให้คำสอนเปลี่ยนไป ไม่ยึดเอาที่คำสอน แต่ไปยึดถือเชื่อที่ตัวบุคคล มันไม่น่าจะเกี่ยวกับสภาวะจิตที่สะอาด หรือไม่สะอาดหลอกครับ แต่มันเป็นเรื่องของการรักษาคำสอนไม่ให้เสื่อมสูญไปในยุคเรา
การคงไว้ เวลาผ่านมาเนิน นาน บางสิ่ง บางอย่างมีขาดมีเพิ่ม โดย อรรถาจารย์ อย่าง ตอนที่พระพุทธเจ้าจะดับขันข์ เข้าสุ่ปรินิพพาน นาย จุลทะ ได้เอาเนื้อสุกรอ่อนมาถวาย พอพระพุทธเจ้าฉันเส็จ ก็เอาไปฝังที่บ่อ ตามพระสูตรบอกพอโยนลงไป น้ำพุ่งสูงลอยไปในท้องฟ้าถึง7ลำตาล ท่านผู้รู้ได้ให้เกร็ดความรู้ไว้ ไม่ขนาดนั้น คุณลองนึก7ลำตาล แต่ละต้นมันสูงแค่ไหน ท่านทำมือไห้ดู ประมาณคืบเดียว น้ำเอ่อเลยปากบ่อมา เหมือนน้ำพุร้อน (สรุป พระไตรปิฏก ปริญัติยังอยุ่เหมือนเดิมครับ) พุทธประสงค์จริงๆคือต้องการให้ เหล่าเวไนยสัตว์พ้นทุกข์ ข้ามพ้นฝั่งแม่น้ำเวียนเกิดเวียนตายไม่จบสิ้น ได้ข้ามฝั่งเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน...
ในพระสูตร ท่านกล่าวถึงการเสื่อมไปของอายุคนที่ทำผิดศีลในยุคนั้น แต่ไม่ใช่ว่าพระศรีฯ จะมาเกิดตอนคนอายุ40000ปี........ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการดังพรรณนามานี้ เมื่อพระมหากษัตริย์ไม่พระราชทานทรัพย์ให้แก่คนที่ไม่มีทรัพย์ ความขัดสนก็ได้ถึงความแพร่ หลาย เมื่อความขัดสนถึงความแพร่หลาย อทินนาทานก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่ออทินนาทานถึงความแพร่หลาย ศัสตรา
ก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อศัสตราถึงความแพร่หลาย ปาณาติบาตก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อปาณาติบาตถึงความแพร่ หลาย มุสาวาทก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อมุสาวาทถึงความแพร่หลาย
แม้อายุ ของสัตว์เหล่านั้นก็เสื่อมถอย แม้วรรณะก็เสื่อมถอย เมื่อพวกเขาเสื่อมถอยจาก อายุบ้าง. เสื่อมถอยจากวรรณบ้าง บุตรของมนุษย์ที่มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี ก็มีอายุถอยลง เหลือ ๔๐,๐๐๐ ปี
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๔๐,๐๐๐ ปี บุรุษคนหนึ่งขโมยเอาทรัพย์ของคนอื่นไป. เขาช่วยกันจับบุรุษนั้นได้แล้ว จึงแสดง แก่พระราชาผู้กษัตริย์ ......................พระไตรปิฎก ฉบับหลวง (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๑
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี พระผู้มีพระภาคทรง พระนามว่า
เมตไตรย์ จักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระองค์เป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อม
ด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถี ฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่น ยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม เหมือนตถาคตอุบัติขึ้นแล้วในโลกในบัดนี้ เป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ไปดีแล้ว รู้แจ้ง โลก ..........พระไตรปิฎก ฉบับหลวง (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๑
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
การฆ่าตัวตายถ้ามองในมุมที่เรายังเป็นมนุษย์เนี่ยเชื่อว่าเกือบ100%ลงอบายภูมิ เพราะส่วนใหญ่แล้วมนุษย์ฆ่าตัวตายเพราะมีผัสสะมาเหนี่ยวทำให้เกิดการปรุงแต่ง จิตที่ฆ่าตัวตายนั้น หนีไม่พ้น ความ ทุกข์ใจเสียใจ ไม่ยินดี โกรธ เคียดแค้น อาฆาต ช่วงสิ้นใจมีการสร้างภพที่โน้มไปในด้านล่างอย่างชัดเจน ต่างจากพระสงฆ์ที่บรรลุธรรมเป็นอรหันต์อันนี้คนละเรื่องกันน่ะ พระอรหันต์ไม่ได้มีจิตที่ถูกโน้มเอียงโดยผัสสะ ไม่มีการปรุงแต่งจิตที่เกิดโดยผัสสะ ไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ ไม่มีความยินดี ไม่มีความยินร้าย แม้กระทั้งเฉยๆ ร่างกายไม่ใช่ของท่านแม่จิตใจก็ไม่ใช่ของท่าน การฆ่าตัวตายจึงเป็นการแค่ย้นเวลาไปสู่นิพพานโดยไว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่า เป็นโทษของรูปทั้งหลาย? ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลพึงเห็นนางสาวคนนั้นแหละในโลกนี้ โดยสมัยอื่น มีอายุ ๘๐-๙๐ หรือ ๑๐๐ ปี โดยกำเนิดเป็นยายแก่ มีซี่โครงคดดังกลอนเรือนร่างขดงอ ถือไม้เท้ากระงกกระเงิ่น เดินสั่นระทวยกระสับกระส่าย ผ่านวัยเยาว์ไปแล้วมีฟันหลุด ผมหงอก ผมโกร๋น ศีรษะล้าน เนื้อเหี่ยว มีตัวตกกระ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจะสำคัญข้อนั้นอย่างไร ความงดงาม ความเปล่งปลั่ง ที่มี
ในครั้งก่อนนั้นหายไปแล้ว โทษปรากฏแล้วมิใช่หรือ?
ภิ. เป็นเช่นนั้น พระเจ้าข้า.
พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นโทษของรูปทั้งหลาย.
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๒ สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
หลายๆครั้ง..คนเราก็ทุกข์เกินจากสิ่งที่ต้องทุกข์..เช่น..ทุกข์เพราะมีไม่พอกิน..มีไม่พอใช้..นี้มันทุกข์อยู่แล้ว...แล้วยังจะเอาทุกข์มาเพิ่มอีกว่า.เช่นว่า...เมื่อไรจะพ้นจากทุกข์นี้ซะที..เกิดทุกข์ซ้อนทุกข์.เข้ามาอีก..การมีสติมีสัมปชัญญะระลึกธรรมะอะไรสักอย่าง...จะช่วยลดไม่ให้เกิดทุกข์ซ้อนทุกข์..ทุกข์ซ้ำทุกข์ซาก...ลดบ่อยๆเข้า..จะเหลือแค่ทุกข์ต้นเหตุอันเดียว..ทำบ่อยๆเข้าแม้ทุกข์ต้นเหตุก็จางลงได้
การรับกรรมอย่างมีสติ...พยายามทำเท่าที่ทำได้แต่อย่าคาดหวังว่าจะหลุดพ้นไปได้ง่ายๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..อย่าทำบุญหวังให้หลุดพ้นกรรมช่วงนี้ง่ายๆ..ให้ทำบุญเพื่อสะสมกรรมดีดีเพราะเห็นโทษของกรรมไม่ดี(ดั่งที่กำลังรับอยู่ขณะนี้) ระลึกใว้นะครับว่า..ความทุกข์ทั้งหลายที่เกิดกับเรา เกิดจากบาปกรรมไม่ดีจากอดีตเป็นเหตุทั้งนั้น...ให้ตั้งใจว่า.."เราจะไม่ทำกรรมไม่ดีอีก" หลังจากนี้ก็ให้มีสติระลึกถึงความตั้งใจอันนี้เสมอๆในยามที่จิตคิดจะทำอะไรที่ผิดศีลผิดธรรมผิดจารีตผิดกฏหมาย...
เศร้าได้ ทุกข์ได้ แต่ให้รีบวาง แล้วลุกขึ้นมาจัดการใหม่หมด ที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไปค่ะ เขียนวิธีการใช้เงินใหม่ วิธีการเคลียร์หนี้ วางแผนใหม่เลยค่ะ ยึดหลักมีน้อยใช้น้อย มีมากใช้น้อย แป๊ปเดียวเดี๋ยวก็สบายแล้วค่ะ ส่วนบ้านถ้าไม่สบายใจก็ทำบุญบ้านขอให้คนที่อยู่มีแต่ความสุขความเจริญ ทำทุกปีไปเลยค่ะ ให้พระพรมน้ำมนต์ให้ทั่ว แล้วทำบ้านให้ดีมีแต่สิ่งดี ๆ ทำความสะอาดอยู่เสมอ ให้บ้านหอม ๆ มีดอกไม้สวย ๆ ไหว้พระสวดมนต์ และคนในบ้านปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีสิ่งที่ชอบ แค่นี้ก็มีความสุข อย่าไปให้ค่ากับคำสาปแช่ง
พอถึงเวลาบางอย่างก็ต้องตัดทิ้งไปบ้าง อะไรที่เคยคิดว่าเป็นของเรา ก็ต้องปล่อยให้เป็นของคนอื่นไป ถ้าตัดเรื่องตัวกูของกูได้ทุกข์ก็จะไม่เกิด ที่เหลือก็อยู่ที่ใจคุณแล้วว่าจะเอายังไงต่อจะหมดอะไรตายอยากกับสิ่งที่ไม่เคยเป็นของเราจริงๆ หรือจะลุกขึ้นมาทำมาหากินอยู่กับตัวเอง ต่อไป
บางท่านผ่านร้อนผ่านหนาวมามากยังให้ปล่อยวาง เช่นท่านนี้
ขอพูดในถานะที่เคยผ่านสิ่งแย่ๆมาแล้วไม่ว่าจะเกิดมาอาภัพไม่มีมรดกไว้ทำกินเลยเรียนไม่จบโดนคนรังแกให้ปล่อยวางไปก็ได้ครับเรื่องอะไรๆก็ตามเช่นผมจะต้องขึ้นศาลพรุ่งนี้ก็ขอให้วางทำใจให้สบายนอนให้เต็มตื่นชั่งแม่งมันสุดท้ายมันดีขึ้นเองจริงๆครับอย่าไปยึดมันไว้
บางท่านที่เป็นผู้รู้กฏหมายก็แนะนำเตือนสติ เอาตรงๆ *ทางลัด* ไม่มีจริง ตั้งสติก่อน แก้ไปทีละปัญหา เริ่มจากตัวเราเองก่อน
อย่าลืมไหว้พระ สวดมนต์ ศีล ทาน ภาวนา ระลึกถึง คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ อยู่ในศีลธรรม ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ... จิตใจจะลดการฟุ้งไม่คิดเยอะ. มีปัญญาเกิด แก้ไขที่ละเรื่อง เดี่ยวทุกข์ก็เบา
แต่อย่าลืมแก้หนี้ให้เบาด้วยนะ เฮอออ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
