4 มี.ค. 2021 เวลา 12:00 • ความคิดเห็น
ความแตกต่างระหว่าง INFJ กับ INFP
แอดมิน : สวัสดีค่า พี่พลอย หนูตามฟังคลิปของพี่ทาง Youtube ตลอด เป็น FC คนนึงของพี่ พอดีตอนนี้เพจ INFJ Thailand เพิ่งเปิดแบบเป็นทางการเมื่อไม่กี่วันมานี้
เลยอยากจะรบกวนขอสัมภาษณ์พี่พลอย ในหัวข้อ ความต่างระหว่าง INFJ และ INFP เพราะเป็นคำถามคลาสสิกของการค้นหาตัวตน
มีหลายๆคนอาจจะได้คะแนนจากแบบทดสอบไม่ต่างกันมาก จนไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นไทป์ไหน อ่าน Cognitive function แล้วก็ยังงงๆอยู่ วันนี้เลยอยากจะมาขอความกระจ่างเรื่องนี้จากพี่พลอยค่ะ
1
แต่ก่อนจะเข้าเนื้อหาขออนุญาตให้พี่พลอยแนะนำตัวอีกครั้งหนึ่งนะคะ เผื่อบางคนที่ยังไม่รู้จักพี่พลอยมากเท่าไหร่
พี่พลอย : สวัสดีค่ะ พลอย ปาจรียา สุริวงค์ นะคะ
เป็น MBTI Subject Matter Expert, Consultant และ Facilitator ค่ะ Type INFP EG 4 w 5
แอดมิน : พี่พลอยเรียนเรื่อง MBTI ด้วยวิธีการไหน จากที่ไหนบ้าง และศึกษามากี่ปีแล้วคะ
พี่พลอย : เริ่มจากการไปอบรมคอร์ส MBTI Certification Program กับบริษัท Potentia (Thailand) แล้วก็เข้าไปทำงานที่บริษัท ศึกษาหาอ่านจากหนังสือทุกเล่มที่มีอยู่ในบริษัท รวมไปถึงหนังสือเล่มอื่นๆ ที่มีขายตามร้านหนังสือและลงเรียนคอร์สออนไลน์ต่างๆ ของคาร์ล ยุง (Carl Jung) ด้วย ศึกษามาเป็นเวลาประมาณ 7 ปีกว่าแล้วค่ะ
แอดมิน : ทำไมพี่พลอยถึงสนใจเรื่อง MBTI คะ
พี่พลอย : ตอนแรกเริ่ม ตัดสินใจไปเข้าคอร์สอบรมการใช้เครื่องมือ MBTI ด้วยเหตุผลง่ายๆ เพียงแค่ว่าเราอยากรู้จักตัวเอง เข้าใจตัวเองให้ลึกซึ้งขึ้น เพราะคิดว่างานด้านสถาปัตย์และดีไซน์ทุกประเภทที่เรียนมาไม่ใช่เราเสียทีเดียว เราเพียงแต่ชอบวาดรูป น่าจะอยู่ในข่ายศิลปินมากกว่าดีไซเนอร์ พอได้ไปอบรมแล้วเข้าไปทำงานจริงๆ ทางด้านนี้ก็รู้สึกเลยว่าชอบมาก เป็น Passion ของเรา จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังศึกษาต่อเนื่อง ไม่ได้หยุดเลยค่ะ
แอดมิน : เอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เป็นความแตกต่างระหว่างไทป์ INFP ของพี่พลอย กับไทป์ INFJ คืออะไรบ้างคะ
พี่พลอย : ความเหมือนระหว่าง INFJ และ INFP
1) ความสามารถในการอ่านคน
2) ความเชื่อในศักยภาพของมนุษย์ ความสนใจในมนุษย์
3) ความต้องการในการเข้าใจสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องคนอย่างลึกซึ้ง
ความต่างระหว่าง INFJ และ INFP
1) บรรยากาศรอบตัวและการแสดงความรู้สึก
สำหรับพี่รู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวของ INFJ และ INFP ไม่เหมือนกัน ถ้าเปรียบ INFJ เป็นความอบอุ่น INFP คงเป็นความสบายใจ
ด้วยความเป็น Fe พี่รู้สึกว่า INFJ พร้อมที่จะแสดงความเห็นอกเห็นใจและความห่วงใยต่อผู้อื่น โดยเฉพาะกับคนพิเศษหรือคนที่มีความสำคัญสำหรับเขา เขาจะแสดงความอบอุ่นออกมา เวลาอยู่กับ INFJ จะสัมผัสได้ว่าเขาสื่อสารความรู้สึกออกมาผ่านสีหน้าท่าทางและน้ำเสียง
สายตาของ INFJ เหมือนจะมองทะลุทุกความรู้สึกของคนตรงหน้า บางครั้งจับความรู้สึกได้ไวมากๆ ไวกว่าเจ้าตัวเองด้วยซ้ำ ซึ่งจากประสบการณ์จำได้ว่าสิ่งนี้เป็นทั้งความพิเศษของ INFJ และ Pain Point ของเขาด้วย
เพราะคนที่อยู่ใกล้ๆ บางคนที่ไม่เท่าทันความรู้สึกตัวเองอาจรู้สึกอึดอัดได้ ประมาณว่ารู้สึกโดนจับจ้อง บางคนกลัวความรู้สึกของตัวเองที่ INFJ เห็น เพราะเขารู้สึกว่าเก็บซ่อนมันไว้ดีแล้ว แต่ก็ยังไม่พ้นสายตาของ INFJ คิดว่าถ้าคนชอบก็ชอบไปเลย ถ้าบางคนกลัวก็อาจถอยหนี
1
ส่วน INFP พี่รู้สึกว่า Type นี้ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมา ความเป็น Fi ทำให้ความรู้สึกมันม้วนเข้าตัว และมีความดำดิ่ง การแสดงความรู้สึกจริงๆ แล้ว คิดว่าเป็นเรื่องยากและท้าทายสำหรับคนที่เป็น INFP มาก
เพราะฟังก์ชันนี้ถูกใช้ในโลกภายใน (Fi) บางคนต้องใช้พลังงานและกำลังใจทั้งหมดที่มีในการพยายามสื่อสารสิ่งที่ตัวเองรู้สึก ในบางครั้งเลยถูกมองว่าเป็นคนหยิ่งหรือไม่ใส่ใจได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าคนเหล่านั้นได้รู้จัก INFP จริงๆ หลายคนมักจะรู้สึกสบายๆ และปลอดภัยกับการที่ INFP มีท่าทีไม่ตัดสินและคอยรับฟังอย่างเข้าใจ
2) การโน้มน้าวใจ
2
จากประสบการณ์ พี่รู้สึกว่า INFJ เป็นนักโน้มน้าวใจชั้นยอด ด้วยความเฉียบคมในการอ่านคนผสมกับความสามารถในการสื่อสารค่านิยมต่างๆ ของตัวเองออกมาอย่างศรัทธา คนฟังมักรู้สึกคล้อยตามไปกับ INFJ เช่น การพูดถึงความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้า เป็นต้น
ในขณะที่ถ้าเป็น INFP พี่คิดว่าพวกเขาไม่ได้สื่อสารค่านิยมของตัวเองอย่างเด่นชัดขนาดนั้น พวกเขาต้องมั่นใจจริงๆ ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าจะไม่ตัดสินค่านิยมของเขา จึงสามารถพูดถึงมันออกมาได้
ด้วยเหตุนี้ พี่รู้สึกว่า INFP ทำความรู้จักด้วยได้ยากกว่า INFJ และสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีในเชิงการสื่อสารน่าจะเป็นการนำเสนอไอเดียที่หลากหลายมากกว่า (Ne) ส่วนในเชิงความรู้สึก พี่คิดว่า INFP ไตร่ตรองสะท้อนคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เข้ามากระทบความรู้สึกของตัวเองได้ดีมากกว่าการสื่อสารมันออกมา
3) การอยู่กับความขัดแย้ง
พี่รู้สึกว่า INFJ อยู่กับความขัดแย้งได้ยากกว่า INFP เพราะ INFJ รับความรู้สึกได้ไวและต้องการความปรองดองกันของสิ่งแวดล้อมภายนอก ใครที่ไม่โอเค รู้สึกไม่เห็นด้วย รู้สึกลำบากใจกับใครสักคนหนึ่ง INFJ เหมือนจะมองเห็นมันและรับความรู้สึกเอาไว้หมด
นอกจากนี้ยังเหมือนพวกเขาต้องการให้ทุกคนเห็นพ้องกัน จับมือกันเดินไปข้างหน้าสู่จุดหมายเดียวกัน การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทุกคนมีความเชื่อเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันน่าจะเป็นอุดมคติของ INFJ
1
ส่วน INFP พี่คิดว่าพวกเขาไม่ได้ชอบความขัดแย้งเช่นเดียวกัน แต่จะเปิดพื้นที่ความเห็นต่างได้มากกว่า ซึ่งมีข้อแม้ว่าต่างคนต้องต่างเคารพค่านิยมของกันและกัน ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันก็ได้ แต่ห้ามมายุ่งห้ามมาบอกว่าเขาต้องคิดเห็นอย่างไร
INFP มีความแข็งในเรื่องค่านิยมมากกว่าในความเห็นของพี่ เพราะการต่อรองกับค่านิยมของตัวเอง ทำให้ INFP มีอาการป่วยทางกายหรือจิตได้ ในขณะที่ถ้าเป็น INFJ ถ้ามัน Make sense กว่าที่จะต่อรองค่านิยมให้ทุกคนมาเจอกันตรงกลางได้ INFJ มีแนวโน้มที่จะยอม
1
อย่างไรก็ตาม ถ้าทั้งสอง Type อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องปกป้องค่านิยมของตัวเอง พี่จะใช้คำว่า เชื่อในค่านิยมของตัวเองอย่างหนักแน่นกับ INFJ ในขณะที่ถ้าเป็น INFP จะใช้คำว่า ภักดีต่อค่านิยมของตัวเอง
เวลาเราพูดถึงคำว่าหนักแน่น เราสัมผัสได้ถึงความกล้าที่จะลุกขึ้นมาปกป้องและสื่อสารสิ่งที่ตัวเองเชื่อ พร้อมตบด้วยฝีปากและการแสดงให้เห็นว่าสิ่งๆ นั้นที่เชื่อดีกว่าอย่างไร ส่วนคำว่าภักดี มี Sense ของความเก็บตัว เชื่อมันอย่างเงียบๆ และมีความหัวดื้อมากกว่า และยอมแลกทั้งชีวิตเพื่อรักษามันไว้
4) ความชัดเจนในเป้าหมายและการวางแผน
INFJ เป็นคนที่มีความชัดเจนในเป้าหมายที่จะไปมาก และวางแผนอย่างแน่วแน่ว่าจะไปให้ถึงจุดนั้นอย่างไร พูดให้เห็นภาพคล้ายว่า INFJ จะมุ่งไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง ในขณะที่ INFP เลี้ยวไปเลี้ยวมาตลอดทาง บางทีก็ไปไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ ไปแวะหยุดอยู่บางที่ที่รู้สึกว่า ‘มันเป็นเราอย่างแท้จริง’ หรือ ‘เราพอใจกับการยืนอยู่ตรงนี้’ ได้ง่ายกว่า
แอดมิน : อะไรคือจุดชี้ขาดว่าเป็นไทป์ไหน หรือไม่ใช่ไทป์ไหน สามารถบ่งบอกได้ไหมคะ
พี่พลอย : สำหรับความเหมือน คือคนสอง Type นี้อยู่ในกลุ่ม The Idealist (NF) เหมือนกัน
โดยธรรมชาติแล้ว คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับการเข้าใจตนเองและผู้อื่น ชอบอ่านคน ต้องการความจริงแท้ (authenticity)
อย่างไรก็ตาม หากดูเผินๆ หลายคนอาจเข้าใจผิดได้ว่า Type สอง Type นี้คล้ายกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วแตกต่างกันมาก ซึ่งต้องศึกษาที่ Cognitive functions จึงจะเข้าใจ ความแตกต่างหลักๆ เลยก็คือ
1) INFJ ใช้ Ni ในขณะที่ INFP ใช้ Ne
ฟังก์ชัน Ni (ฟังก์ชันเด่นของ INFJ)
ความสามารถพิเศษ...
• ตระหนักรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น
• ใช้สัญลักษณ์ที่เป็นนามธรรมในการอธิบาย
• รู้สึกตื่นเต้นเมื่อเจอสิ่งที่ไม่รู้
การใช้ฟังก์ชัน Introverted Intuition ในระดับจิตสำนึก (Consciousness) ให้ความหมายเบื้องหลังของสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน อดีต และอนาคต
ฟังก์ชันนี้ทำให้การสังเคราะห์ไอเดียในระดับจิตไร้สำนึก(Unconscious) โผล่ขึ้นมาในระดับจิตสำนึก Ni ไม่ถูกจำกัดคำนิยามอยู่ในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต แต่คือกระแสธารการรับรู้จากจิตไร้สำนึกที่ไหลไปสู่ระดับจิตสำนึก ข้อมูลที่ได้จะมาในลักษณะของการหยั่งรู้อย่างปิ๊งแว้บจากจิตไร้สำนึก
นอกจากนี้ เมื่อใช้ฟังก์ชัน Introverted Intuition เรามักจะอ่านความหมายซ่อนระหว่างประโยคต่างๆ และค้นหาความหมายที่ลึกลงไปกว่าที่เห็น บุคคลที่ใช้ฟังก์ชันนี้มักโฟกัสไปที่สัญลักษณ์ สัญญาณ และความหมายต่างๆ มากกว่าข้อมูลที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้
ฟังก์ชัน Ne (ฟังก์ชันรองของ INFP)
ความสามารถพิเศษ...
• ตระหนักรู้ถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้น
• จินตนาการถึงความเป็นไปได้ต่างๆ
• มองเห็นรูปแบบ(แพทเทิร์น) และจุดเชื่อมโยง
• รู้สึกตื่นเต้นเมื่อพบเจอสิ่งใหม่ๆ
การใช้ฟังก์ชัน Extraverted Intuition ในระดับจิตสำนึก (Consciousness) ทำให้เราตระหนักรู้ถึงสิ่งที่อาจเป็นไปได้ และสร้างทางเลือกต่างๆเพื่อเพิ่มโอกาสในการไปให้ถึงความเป็นไปได้นั้นๆ
ฟังก์ชันนี้โฟกัสในสิ่งที่เป็นนามธรรม และความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ เหตุการณ์ หรือแนวคิด ที่หาได้จากโลกภายนอก นอกจากนี้ฟังก์ชันนี้มักจะทำให้ผู้ใช้ฟังก์ชันเชื่อมโยงข้อมูลจากปัจจุบันไปสู่อนาคตอย่างรวดเร็ว และรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มความเปลี่ยนเเปลง
2) INFP ใช้ Fi ในขณะที่ INFJ ใช้ Fe
ฟังก์ชัน Fi (ฟังก์ชันเด่นของ INFP)
ความสามารถพิเศษ...
• ใช้ชีวิตตามค่านิยมของตนเอง
• ให้คุณค่ากับสิ่งที่ได้รับการยอมรับในสากล
• ประยุกต์ใช้ความเชื่อของตนในการตัดสินใจ
เมื่อฟังก์ชัน Introverted Feeling ทำงานในระดับจิตสำนึก (Consciousness) เราจะสามารถตระหนักรู้ได้ถึงค่านิยม หลักจรรยาบรรณ และความเชื่อต่างๆ ของตนเอง ฟังก์ชันนี้เป็นกระบวนการการตัดสินใจส่วนบุคคลที่เน้นหนักหรือเชื่อในระบบค่านิยมภายในอันมีความเป็นเอกลักษณ์
ซึ่งประกอบไปด้วยความเชื่อต่างๆ ของเราที่ไม่สามารถต่อรองได้ คล้ายกับว่า หากต้องยอมผ่อนปรนให้กับความเชื่อเหล่านี้ เราจะรู้สึกว่าแก่นกลางของตนกำลังถูกทำลาย ใครก็ตามที่เพิ่งได้เห็นด้านนี้ของเรา เขาอาจคิดว่าจริงๆ แล้วเราเป็นคนที่แข็งกร้าว ไม่ยอมใคร
ฟังก์ชัน Fe (ฟังก์ชันรองของ INFJ)
ความสามารถพิเศษ...
• ให้ความสำคัญกับสิ่งที่สังคมให้การยอมรับ
• ให้คุณค่ากับความปรองดองในความสัมพันธ์
• “การอ่านคน” และ การใส่ใจคนอื่น
ฟังก์ชัน Extraverted Feeling เมื่อถูกใช้งานในระดับจิตสำนึก (Consciousness) เป็นฟังก์ชันที่ใช้ประเมินไอเดียและเหตุการณ์ต่างๆ ในโลกภายนอก
โดยฟังก์ชันจะช่วยตัดสินใจว่าค่านิยมใดมีความเกี่ยวข้องบ้างและค่านิยมเหล่านั้นมีความสอดคล้องกับขนบธรรมเนียมหรือมาตรฐานที่กำหนดไว้ของคนส่วนมากหรือไม่
หากค่านิยมเหล่านั้นมีความสอดคล้องกับค่านิยมที่สังคมกำหนดไว้ คนที่ใช้ฟังก์ชันนี้ มักจะให้ผลตอบรับเชิงบวก หรือยอมรับว่าไอเดียนั้นๆ เป็นไอเดียที่ดี
แต่เมื่อเห็นว่ามาตรฐานของสังคมไม่สนับสนุนค่านิยมนั้นๆ ปฏิกิริยาตอบสนองที่ตรงกันข้ามกันมักจะเกิดขึ้น สำหรับฟังก์ชัน Extraverted Feeling ค่านิยมส่วนใหญ่มีหัวใจสำคัญอยู่ที่การรักษาความสัมพันธ์ให้มีความปรองดองกับผู้อื่น ใส่ใจซึ่งกันและกัน และเป็นไปในทิศทางบวก
ช่องทางติดตามพี่พลอยสำหรับเพื่อนๆที่สนใจ
Facebook: Ploy Suriwong
Youtube: Caduceus
เป็นยังไงกันบ้างคะ จากบทสัมภาษณ์ของแอดโก้และพี่พลอย ทำให้เพื่อนๆมีความเข้าใจเกี่ยวกับทั้งสองไทป์ และสามารถแยกแยะความต่างได้มากขึ้นไหมคะ แอดมินหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะช่วยให้เพื่อนๆมีความกระจ่างเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยค่ะ และในนามของเพจ INFJ Thailand ขอขอบคุณพี่พลอยอีกครั้งมา ณ ที่นี้ เพื่อนๆสามารถติดตามพี่พลอยได้ตามช่องทางที่เขียนไว้ และสามารถเข้าไปร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับพวกเราได้ในกลุ่ม INFJ Thailand ชื่อเดียวกันกับเพจนี้ได้เลยค่ะ
โฆษณา