คุณเป็นคนโกหกแบบไหน?
รู้จักคนโกหก 4 ประเภทที่อาจอยู่ในตัวเรา
.
.
เราแทบทุกคนล้วนเคยโกหกใครสักคนหนึ่งในชีวิต อย่างน้อยที่สุดคือโกหกตัวเอง หรือคนใกล้ตัว ไม่ว่าเพื่อน คนรัก กระทั่งคนในครอบครัว แม้จะรู้ว่าไม่ถูกต้อง แต่หลายคนยังคงโกหกต่อไป เพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง เพื่อผลประโยชน์ หรือเพื่อความสบายใจของตน
.
มนุษย์มักโกหกสองเรื่องหลักๆ คือ โกหกเกี่ยวกับข้อเท็จจริง (facts) และคุณค่า (values) ของพวกเขา ซึ่ง ‘Russ Harris’ ผู้เขียนหนังสือ ‘The Happiness Trap’ อธิบายความหมายของ คุณค่า ไว้ว่าเป็น “สิ่งที่พวกเราอยากเป็น สิ่งที่พวกเรายึดมั่น และสิ่งที่พวกเราอยากมีส่วนร่วมกับผู้คนรอบตัวเรา” หรือสรุปได้ว่า คุณค่าคือ คุณลักษณะบางอย่างที่เราอยากได้หรืออยากเป็น
.
ลองมาดูว่า การโกหกนั้นมีประเภทไหนบ้าง และตัวเราเองเป็นคนโกหกแบบไหนอยู่หรือเปล่า
.
1. คนโกหกเพราะหวังดี ในทุกวันที่เราทักทายใครต่อใคร เมื่อเขาถามว่าวันนี้สบายดีไหม เราตอบไปว่าโอเค ทั้งที่ความจริงเหนื่อยจนทนไม่ไหว แต่กลัวว่าบอกตรงๆ ไปแล้วจะฟังดูไม่ดี โกหกไปนี่แหละสบายใจที่สุด การโกหกด้วยความหวังดี หรือคำโกหกสีขาว (White Llies) เป็นข้ออ้างที่หลายคนมักใช้เพื่ออธิบายว่าทำไมต้องโกหกเพื่อให้คนอื่นสบายใจ ซึ่งช่วยได้ในบางครั้ง แต่ระยะยาวนั้นส่งผลเสียกับความรู้สึกและความสัมพันธ์ เพราะต่างฝ่ายต่างเอาแต่บอกว่า ไม่เป็นไร ไม่รู้สึกอะไร ท้ายที่สุดก็จะไม่เข้าใจกัน
.
2. คนที่มีโลกสองใบ มักสร้างโลกต่อหน้าคนอื่นว่าฉันนั้นแสนเพอร์เฟกต์ มีความสามารถหลากหลาย เพื่อเพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง และซุกซ่อนโลกที่ไม่ดี หรือนิสัยแย่ๆ ไว้ใต้พรม แต่คนประเภทนี้มักโกหกได้ไม่นาน เมื่อไหร่ที่คุณทำงานร่วมกับเขา คุณจะพบความจริงว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้ตามเป้าหมายได้เลย แถมพาลพาให้งานล่มโดยใช่เหตุอีก
.
3. คนหลอกตัวเอง ในบางครั้งการบอกตัวเองว่าไม่เป็นไรหรอก หรือฉันทำได้อยู่แล้ว สามารถช่วยให้เราสบายใจและฝ่าอุปสรรคบางอย่างได้ แต่หากเราเสพติดมันเมื่อไหร่ ตัวเราอาจเชื่ออย่างสนิทใจโดยไม่ตั้งคำถามหรือมองความเป็นจริง อาจเกิดภาวะ “การรับรู้ไม่ลงรอย” (Cognitive Dissonace) แม้รู้ว่าสิ่งนี้ไม่จริง ก็ไม่สามารถยอมรับได้ เพราะการยอมรับว่าตัวเองคิดผิดจะรู้สึกว่าความมั่นใจของตนถูกทำลายลงไป ฉะนั้น พยายามมองโลกในความเป็นจริง มองแง่บวกได้ แต่อย่าโกหกตัวเอง
.
4. คนดีจอมปลอม คนจำพวกนี้มักยกตนให้สูงกว่าใครๆ คอยพร่ำบอกเสมอว่าฉันนั้นซื่อสัตย์ ปากหนัก ไว้ใจได้ แต่นิสัยแท้จริงนั้นตรงกันข้าม การทำแบบนี้ไม่ได้ยกคุณค่าใดๆ กลับกันมันทำลายคุณค่าของคนๆ นั้นเสียด้วยซ้ำ เพราะเมื่อใดที่คนรอบข้างค้นพบความจริง พวกเขาจะไม่อยากคบกับคุณอีกต่อไป เพราะคุณยังไม่เคารพคุณค่าของคุณเอง แล้วคุณจะเคารพคนอื่นได้อย่างไร
.
ความไว้เนื้อเชื่อใจนั้นสร้างยากแต่พังง่าย อย่าทำลายคุณค่าของตนและความสัมพันธ์กับคนรอบข้างด้วยคำโกหก เพราะอะไรที่เสียไป ไม่สามารถเรียกกลับมาได้ทุกอย่าง ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไรหรือเกิดอะไรขึ้น การพูดและยอมรับความจริงจะทำให้เราแก้ปัญหาและเดินหน้าไปด้วยกันได้ดีกว่าทำเป็นไม่เห็นอะไรเลย
.
.
แปลและเรียบเรียงจาก: