หลวงพ่อปราโมทย์ - ทำดีกับผู้ที่ควรทำดี ไม่ปรามาสกับผู้ที่ไม่ควรปรามาส
.
ทันทีที่ท่าน (หลวงพ่อหมายถึงพระพุทธเจ้า – ผู้ถอดคำ) ออกบวชนะ
สิ่งแรกที่ท่านคิดก็คือต้องไปหาฤาษี นั่งสมาธิแล้ว เหมือนพวกเรา
คิดถึงการปฏิบัติธรรมเมื่อไร ก็ต้องไปนั่งสมาธิแบบฤาษีไว้ก่อน
คิดว่านั่งไปเรื่อยๆ แล้วบรรลุ
นี่เจ้าชายสิทธัตถะไปนั่งสมาธิไม่กี่วัน ได้ถึงฌานที่ 8
จบหลักสูตรของฤาษี
.
ท่านก็ถามฤาษีว่า มีความรู้ที่ยิ่งกว่านี้มั้ย?
อุทกดาบสบอกว่าหมดแล้วหล่ะ ไม่มีความรู้มากกว่านี้แล้ว
ท่านก็เลยรู้ขึ้นมาว่า โอ้ สมาธิฤาษีหาสาระอะไรไม่ได้ ไม่พ้นทุกข์หรอก
พ้นทุกข์เฉพาะตอนเข้าฌาน ออกจากฌานมาก็ทุกข์อย่างเดิม
กิเลสกลับมาอีก ตัณหากลับมาอีก ไม่ใช่ทาง
.
ท่านก็มาค้นหาทางของตัวเอง ก็เหมือนพวกเราทำแหละ
จะมาบังคับกายบังคับใจนะ
นี่พวกเรา จะเดินจงกรม ก็บังคับกายบังคับใจ
นั่งสมาธิก็บังคับกายบังคับใจ
แต่ว่าอ่อนๆ หน่อยๆ ไม่รุนแรงเท่าที่เจ้าชายสิทธัตถะทำมา
.
อย่างท่านอดข้าวหลายวัน อดจนเป็นลมสลบไปที่พื้นเลย
เด็กเลี้ยงแพะมาเห็นนะ สงสาร นอนอยู่กับพื้น อ้าปาก ผอมแห้ง
เด็กนั้น มันเป็นวรรณะต่ำ ไม่กล้าถูกตัวท่าน
จะไปอุ้มมาป้อนนมอะไรก็ไม่ได้
มันก็ฉลาด มันลากแพะไป ลากแม่แพะไป ไปบีบน้ำนมเข้าปากท่าน
.
ต้องโมทนาบุญเด็กนี้นะ
เราอ่านธรรมะ อ่านประวัติ ถึงตอนนี้เราก็เฉยๆ เหมือนไอ้เด็กคนนึง
***ไม่รู้หรอกว่า บารมีมันขนาดไหน***
***บุญมันขนาดไหนนะ ช่วยพระโพธิสัตว์ไว้***
.
รอดตายมาได้ ท่านก็นึกได้ว่านี่มันรุนแรงเกินไป
ทรมานตัวเอง ไม่เห็นจะพ้นทุกข์ตรงไหนเลย
อยากพ้นกิเลส อยากพ้นทุกข์
กิเลสอยู่ที่จิต ทุกข์อยู่ที่จิต มาทรมานที่กาย มันจะได้อะไร
กว่าท่านจะฉลาดนะ ใช้เวลาตั้งหลายปี ตั้ง 5 ปี 6 ปี
ไม่ถึง 6 ดี หักเวลาไปเป็นฤาษีอยู่ช่วงนึง … 5 ปีกว่า
.
ทำไมต้องลำบากนานแค่นี้?
เพราะว่ากรรมของท่านนะ ***ท่านเคยปรามาสพระปัจเจกฯ องค์นึง***
ปรามาสพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์นึง ว่า
อยู่ในป่า อดข้าวอดปลาละมั้ง? เลยได้ธรรมะมา
บาป ... ทำให้ท่านต้องทรมานตัวเองตั้ง 5 ปี กว่า ... บาป
ระวังนะพวกเราอ่ะ ***ไปปรามาสสิ่งที่ปรามาสไม่ได้เข้า*** ลำบาก
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช
วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา
19 ก.ค. 2557