เกิดเพศภัย... เพราะเข้าใจไม่ตรงกัน?
เคยได้ยินเค้าพูดกันว่า...
ผู้ชาย... love for sex
ผู้หญิง... sex for love
ถามว่า... คือไร
อธิบายว่า ผู้ชายมักจะเริ่มต้นด้วย... รักน้า... แต่ลงท้ายด้วยการมีเพศสัมพันธุ์
แต่ผู้หญิง ยอมเรื่องการถูกเนื้อต้องตัวกัน เพื่อหวังความรักที่ยืนยาว...
ดูเหมือนว่า... ผู้ชายจะนิสัยไม่ดี คิดแต่เรื่องอย่างว่า?
ก็ถ้าผู้ชายอืดๆ เซื่องๆ แบบตัว 'สลอธ (Sloths)' แล้วมนุษย์จะสูญพันธุ์มั้ยเนี่ย...
เคยอ่านหนังสือเล่มนึงอธิบายไว้ว่า วิวัฒนาการอันยาวนานที่ผ่านมาทำให้เรื่องการสืบเผ่าพันธุ์ฝังเข้าไปในสัญชาติญาณของมนุษย์จนเราไม่รู้ตัว... (อยู่ในจิตใต้สำนึก)
อย่างผู้ชายที่ชอบผู้หญิงสวย ก็เพราะคนจะสวยก็ต้องมีความสมดุลและลักษณะที่ดีของใบหน้าและ/หรือรูปร่าง ซึ่งสะท้อนถึงการมีพันธุกรรมที่ดี... ผู้ชายได้วิวัฒนาการมาให้เลือกคู่ที่มีความสมบรูณ์ปกติของพันธุกรรม... หรือ การที่ผู้ชายถูกดึงดูดด้วยสาวที่มีทรวงอวบอั๋น ก็เพื่อการันตีว่า ลูกจะมีน้ำนมอย่างเพียงพอ (เค้าว่า...)
สาวสวยทรงดีจึงเป็นที่ล่อตาล่อใจของชายโดยเจ้าตัวก็ไม่รู้ตัวว่าทำไมต้องเหลียวมองทุกที... ธรรมชาติได้สร้างสัญชาติญาณเพื่อการอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ไว้ค่อนข้างแรง! อย่างเวลามีอะไรกัน พอถึงพีคก็จะรู้สึกพึงพอใจอย่างสุดๆ เหมือนแผ่นดินไหว... อันนี้เป็นกุศโลบายของการดำรงเผ่าพันธุ์รึเปล่าที่จะให้รางวัลที่ทำให้อยากกลับมาได้ความรู้สึกแบบนี้เรื่อยๆ...?
ในส่วนผู้หญิงเอง กลับไม่ได้ถูกดึงดูดจากชายในลักษณะเดียวกัน... อย่างเวลาหญิงสาวนุ่งกระโจมอกจะไปเข้าห้องน้ำ ถ้าทำท่ากระโจมจะหลุด เหล่าชายที่แอบมองคงทำตาโตอ้าปากค้าง... ในทางตรงข้าม ถ้าเป็นกระทาชายนุ่งผ้าขาวม้าแล้วทำผ้าหลุด... หญิงสาวที่เห็นคงมองเป็นเรื่องอุดจาดหรือตลกซะมากกว่าเกิดอารมณ์...
ผู้หญิงมักมองหาชายที่จะมีความสัมพันธ์กันในระยะยาว ก็ด้วยสัญชาติญาณหรือจิตใต้สำนึกที่เป็นเพศแม่ที่จะมีบุตร และต้องการชายที่เก่ง ฉลาด และมีความมั่นคงที่จะปกป้องดูแลไปในระยะยาวเพื่อให้สามารถดูแลบุตรได้จนเติบใหญ่... หญิงจึงมักเลือกชายที่นิสัย บุคลิก ความสามารถ ความมั่นคงทางอารมณ์ ได้เรื่องได้ราว รักแท้ รักจริง... ในทางสังคม ชายที่ใส่สูทจึงดูดีน่าเชื่อถือ ภูมิฐาน... แต่หญิงนุ่งน้อยห่มน้อย กลับเป็นที่ดึงดูดความสนใจของทั้งหนุ่มและแก่...
สำหรับหนุ่มสาว... ความเข้าใจกันก็มักไม่ค่อยตรงกัน แต่ละฝ่ายมักคิดว่า อีกฝ่ายคิดเหมือนตัวเอง...
เมื่อฝ่ายชายต้องใจหญิงสาว ก็มักอยากใกล้ชิดสนิทสนม... แต่เมื่อใกล้ชิดมากเข้าจนได้กลิ่นกาย ได้เห็นอย่างใกล้ชิด ได้ยิน ได้สัมผัส... ก็จะ spark ให้เกิดโดมิโนจนนำไปสู่การมีความสัมพันธ์ทางเพศที่เป็นจุดสุดท้ายปลายทางของความพึงพอใจ...
ในขณะที่หญิงสาว ต้องการความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน จึงอยากสร้างความพึงพอใจให้ฝ่ายชายด้วยการสร้างเสน่ห์ดึงดูดให้เข้ามาใกล้และมีโอกาสปฏิสัมพันธ์กัน และสร้างความพึงพอใจติดใจให้ฝ่ายชายเพื่อผูกมัดไว้นานๆ จนบางครั้งก็ยอมให้ล่วงล้ำเข้ามาในดินแดนต้องห้ามเพื่อสร้างความผูกพันธ์...
เมื่อชาย love and end up with sex... แต่หญิง have sex for love... จึงนำไปสู่ปัญหาการตั้งครรภ์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือ ความไม่พร้อมไม่เหมาะแก่เวลานานัปการในวัยรุ่น เพียงเพราะความรู้สึกที่สวนทางกัน...
ตรงนี้จึงน่าจะเป็นประเด็นของเพศศึกษาโดยตรงที่ควรทำให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจอีกฝ่ายตามความเป็นจริง ซึ่งผู้ที่จะให้ความรู้ที่ดีในเรื่องนี้ก็คงเป็นพ่อแม่คนใกล้ตัว (ครู โรงเรียน ก็เป็นส่วนหนึ่ง...) แต่วัยรุ่นก็มักถามกันเอง ก็ไม่รู้จะเหมือนเตี้ยอุ้มค่อมหรือเปล่า...
ในโลกยุคปัจจุบันกับคน generation ใหม่... วิธีคิดอาจเปลี่ยนไป อาจเน้นเรื่องอิสระเสรีส่วนบุคคล จนมีกฎหมายรับรองให้ทำแท้งได้ภายในอายุครรภ์ 12 สัปดาห์...
การติดอาวุธทางปัญญาให้คนรุ่นใหม่จึงเป็นเรื่องสำคัญ ทำอย่างไรให้เข้าใจและเล็งเห็นปัญหาที่จะตามมา ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของคนคนนึงไปอีกทาง...
แต่คงเป็นเรื่องยากที่คนรุ่นเก่าจะไปพร่ำสอน... เพราะคนรุ่นใหม่มักไม่เชื่อเพราะพูดกันคนละมิติ แนวคิด ภาษา คนละยุคสมัย...
คงต้องให้ idol ของเค้าที่มีอิทธิพลทางความคิด ที่จะสื่อสารกันเองได้อย่างเข้าใจและยอมรับ...
การ modernization without development จึงเป็นเรื่องอันตราย... เหมือนให้รถยนต์ไปใช้กับสังคมที่ยังไม่ได้พัฒนาอย่างแท้จริง... ก็รังแต่จะเกิดอุบัติเหตุอันตราย...
แต่ถ้าเป็นสังคมที่ได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนาน ผ่านความเจ็บปวด ล้มตาย เรียนรู้... ก็จะใช้ความทันสมัยได้อย่างเหมาะสม...
การเข้ามาของ digital technology และ social media เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงควรเตรียมพร้อมเด็กของเราให้มีพัฒนาการทางอารมณ์และเติบโตทางปัญญาให้เท่าทันกับความเร็วของเทคโนโลยีและโลกาภิวัฒน์...
ในระหว่างที่ยังรอภาครัฐและสังคมในการพัฒนา security net ทางอารมณ์และจิตใจให้เด็กของเรา ให้พร้อมให้รู้เท่าทันตนเองและผู้อื่น... พ่อแม่และคนใกล้ตัวจึงเป็นสูตร quick fix...ที่จะช่วยได้ในขณะที่ระบบทางสังคมยังไม่พร้อมจะรองรับ... เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้และปรับทัศนคติของตนเองให้เข้ากับยุคสมัยและความรู้สึกนึกคิดของคนรุ่นใหม่เสียก่อน จึงจะช่วยเขาได้ ให้สามารถเติบโตทางความรู้สึกนึกคิดได้ทันเวลา...
#ChillChatAtWork
อย่าลืมกด Like & กด Follow (และตั้งค่าเป็น see first) เพื่อจะไม่พลาดเรื่องราวดีๆที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
