6 มี.ค. 2021 เวลา 01:28 • การตลาด
ไปถอดรหัสสมองเงินล้านที่สิงคโปร์
บทความนี้เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร Go Training ในพ.ศ. 2554
งานสัมมนาหัวข้อหนึ่งที่ผมอยากไปมากที่สุดคือ งานสัมมนาเรื่อง Millionaire Mind Intensive (MMI) เกี่ยวกับการสร้างทัศนคติด้านความมั่งคั่ง เทคนิคการบริหารการจัดการเงิน โดยนักเขียนและวิทยากรชื่อดังระดับโลกชื่อคุณ ที ฮาร์ฟ เอคเคอร์ ( T. Harv Eker)
คุณที ฮาร์ฟเป็นผู้เขียนหนังสือดังระดับเบสต์ เซลเลอร์คือ ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน (Secrets of the Millionaire Mind)
ประมาณต้นปีพ.ศ. 2554 ผมทราบข่าวว่า คุณที ฮาร์ฟจะจัด MMI ที่สิงคโปร์ ก็รีบติดต่อเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งที่เคยเรียนหลักสูตรชั้นสูงของคุณที ฮาร์ฟ และได้สิทธิในการรับบัตรเข้าฟังสัมมนาฟรี
ในที่สุด ผมก็ได้รับบัตรฟรีระดับวีไอพี ซึ่งเป็นบัตรราคาแพงที่สุด และได้รับดีวีดีและหนังสือประกอบการเรียนครบถ้วน รวมทั้งได้นั่งแถวหน้าในงาน
ในงานสัมมนานี้ยังมีบัตรพรีเมียม ซึ่งราคาถูกกว่าบัตรวีไอพี และบัตรทั่วไป ซึ่งเป็นบัตรฟรี โดยลงทะเบียนล่วงหน้าจากเว็บไซต์
ผมไปงานสัมมนา MMI ที่สิงคโปร์ ระหว่างวันศุกร์ที่ 9 ถึง วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554
งานเริ่มเวลา 9 นาฬิกาที่ Singapore Expo Hall (ใกล้สนามบิน Changi) โดยมีผู้เข้าฟังประมาณ 3,500 คน
ผมได้นั่งแถวที่ 4 ซึ่งใกล้เวทีมาก และเห็นวิทยากรคือ คุณที ฮาร์ฟ บนเวทีได้อย่างชัดเจน ในห้องจะมีจอฉายภาพขนาดใหญ่ 2 จอ ซึ่งทำให้คนที่นั่งแถวหลังก็มองเห็น
สไตล์การสอนของวิทยากร
คุณที ฮาร์ฟ ไม่ใช้พาวเวอร์พอยต์เลย ใช้แค่ฟลิปชาร์ตเท่านั้น มีการออกท่าออกทางตลอดเวลา และเน้นเรื่องการมีส่วนร่วมของผู้ฟังมาก เช่น ให้ผู้ฟังพูดข้อความออกเสียง เพื่อให้จำได้ มีการจับคู่ทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกัน มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำตลอดเวลา
แต่ข้อแตกต่างของคุณที ฮาร์ฟ จากวิทยากรต่างประเทศทุกคนที่ผมเคยเรียนคือ เป็นคนที่ดุดันและเอาจริงเอาจังมาก เช่น ดุคนเรียนที่มาสายตรง ๆ แบบไม่อ้อมค้อม แม้แต่คนที่ออกจากห้องสัมมนาระหว่างที่คุณที ฮาร์ฟ กำลังโฆษณาหลักสูตรของเขา ก็สั่งอาสาสมัครเลยว่า ห้ามเข้าห้องอีก
มีการขายหลักสูตรอื่นแบบฮาร์ด เซลล์ตรง ๆ และพยายามกระตุ้นให้ผู้ฟังสมัครเรียนหลักสูตรอื่นของเขา แต่ก็ยอมรับว่าวิธีการขายหลักสูตรของเขาประสบความสำเร็จ
บางครั้ง เขายังพูดไม่ทันจบ ก็มีคนวิ่งรีบไปสมัครเรียนที่โต๊ะแล้ว เพราะเขาใช้วิธีลดราคาหลักสูตรและมีของแถมมากมาย แต่ค่าคอร์สก็ยังสูงอยู่ดี
เวลาเรียน
หลักสูตรนี้เรียน 3 วัน โดยเริ่ม 9 โมงเช้า เลิกเรียน 5 ทุ่ม ยกเว้นวันสุดท้าย ซึ่งเลิกเรียน 2 ทุ่ม ทุกวันจะหยุดพัก 4 ครั้ง คือ พัก 15 นาที ในช่วงเช้าและบ่าย พักทานอาหารกลางวันและอาหารเย็น 1 ชั่วโมง
ในช่วงพัก คุณที ฮาร์ฟ ประกาศว่า ผู้ที่เข้ามาตรงเวลา จะได้รับบัตรเพื่อลุ้นจับฉลากรับไอแพด ซึ่งสามารถดึงดูดคนฟังได้ถึง 80 % ให้เข้าห้องตรงเวลา
แต่ปัญหาของวันแรกคือ ช่วงพักทานอาหารกลางวัน ซึ่งร้านอาหารใน Expo Hall มีจำกัด และมีผู้เข้าฟังจำนวนมาก ทำให้ผมต้องคอยในคิวเกือบ 40 นาทีกว่าจะได้รับประทานอาหาร แต่วันที่สอง ก็ใช้เวลาน้อยลง (เพราะผู้ฟังน้อยลง) โดยเฉพาะวันสุดท้าย แทบจะไม่ต้องรอเลยครับ
ทุกครั้งหลังจากพักเสร็จแล้ว ก่อนจะเริ่มการสอน จะมีผู้ช่วยพิธีกรมาชักชวนให้ผู้ฟังขึ้นบนเวที เพื่อเต้นตามเพลง เพื่อให้เกิดความตื่นตัว ผมก็ขึ้นบนเวทีไปเต้นกับเขาบ้างครับ โอกาสอย่างนี้หาได้ง่ายสักเมื่อไร !
ชนะความกลัวด้วยการหักธนูด้วยคอ
กิจกรรมที่โด่งดังที่สุดในงานสัมมนา MMI คือ การหักธนูด้วยคอ (break the arrow)
กิจกรรมนี้จัดขึ้นในวันสุดท้ายตอนบ่าย โดยให้แบ่งกลุ่ม ๆ ละ 10 คน จากนั้นแจกธนู (ไม่ใช่ธนูจริง ๆ แต่คล้ายธนู เป็นไม้ยาว ตรงปลายมีโลหะ) โดยทุกคนต้องใส่แว่นเพื่อป้องกันเศษไม้เข้าตา
การหักธนูด้วยคอคือ คนหนึ่งใส่ถุงมือ ใช้กลางฝ่ามือยึดปลายธนู อีกคนหันหัวธนูเข้าหาคอตนเอง จากนั้นเดินเข้าไปที่ธนู เพื่อหักให้ธนูหัก
ตอนที่ผมเห็นคุณที ฮาร์ฟสาธิตให้ดูบนเวที ก็เสียว ๆ ว่า จะทำได้หรือเปล่า แต่เมื่อจับกลุ่ม และเห็นคนอื่นทำได้ ผมก็ทำบ้าง และพบว่า ไม่ยากอย่างที่คิด !
ห้องสัมมนาในช่วงกิจกรรมหักธนูด้วยคอ จะได้ยินแต่เสียงหัวเราะ เสียงตะโกนดังลั่น โอบกอดกันเวลาที่มีใครหักธนูได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผม ซึ่งเป็นคนไทยเกือบทั้งหมด
มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งทำหลายครั้ง แต่ยังไม่สำเร็จ ทุกคนในกลุ่มจะเชียร์เต็มที่ พอเธอทำได้ ก็แทบจะร้องไห้ออกมาเลย
บทเรียนของการหักธนู คือ ธนูเปรียบเสมือนสิ่งที่เราต้องฝ่าฝัน หรือความกลัวที่เราต้องก้าวข้ามไปให้ได้
การจะหักธนูได้นั้น ต้องมีวิธีที่ถูกต้อง (การจับปลายธนู การวางธนูในตำแหน่งลำคอที่ถูกต้อง) และความเชื่อมั่นในตนเองว่าจะทำได้ คล้ายการตัดตะเกียบด้วยกระดาษ หรือเดินลุยไฟในงานสัมมนาของโทนี รอบบินส์ ที่ต้องมีทั้งเทคนิคที่ถูกต้องและความเชื่อมั่นในตนเอง
ผมได้เรียนรู้มากมายจากงานสัมมนาครั้งนี้ ทั้งในด้านเนื้อหาและเทคนิคการสอนของคุณที ฮาร์ฟ ก็ขอฝากข้อคิดที่ได้จากงานสัมมนานี้ครับว่า
Act In Spite of Fear (ลงมือทำทั้ง ๆ ที่กลัว)
เชิญสมัครเป็นสมาชิกจดหมายข่าว “ไฟฉาย” ของผมที่จะส่องไอเดียน่าสนใจทุกวันที่ 1 และวันที่ 15 ของทุกเดือน เช่น แอป คอร์สออนไลน์ หนังสือ วิดีโอ บทความ เพจ ไฮไลท์จากหนังสือ เป็นต้น
สมัครเพื่ออ่านทางอีเมลได้อย่างสะดวกสบายได้ที่
โฆษณา