Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ไว้อ่านตอนเข้าส้วม
•
ติดตาม
6 มี.ค. 2021 เวลา 03:18 • ไลฟ์สไตล์
ถ้าเอาสายไฟ สายโทรศัพท์ สายนานาสาย ย้ายลงไปใต้ดินทั้งหมด
คุณคิดว่า ใครจะเป็นผู้เดือดร้อนมากที่สุดครับ?
วันหนึ่งขณะรถติด นานขนาดลวกบะหมี่ทานยังทันเลย สายตาผมก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งเคลื่อนไหวอยู่บนสายไฟ (จริงๆน่าจะเป็นสายระบบสื่อสารมากกว่านะครับ)
"กระรอก" ครับ ผมนั่งมองดูมันวิ่งไปวิ่งมาบนสายที่ระโยงระยาง ยุ่งเหยิง ยุ่บยั่บ ช่วยสร้างความตื่นตา และฆ่าเวลาขณะรอคอยสัญญาณไฟได้เป็นอย่างดี
กระรอก เป็นสัตว์ที่เรารู้จักกันมานาน เกือบทุกคนเอ็นดูมัน เพราะความเพียบพร้อมทางรูปลักษณ์ ตาโตกลม หน้าสั้น หางเป็นพวง เป็นสูตรสำเร็จของพลังดึงดูด กระรอกจริงๆเป็นสัตว์ป่านะครับ บางสายพันธุ์ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองแล้ว แม้หลายคนจะนำมันมาเลี้ยง แต่กระรอกก็ยังคงไม่เรียกว่าสัตว์เลี้ยง แบบหมา แบบแมวครับ อาจจะด้วยสัญชาตญาณที่เป็น "ผู้ถูกล่า" จะนำพาซึ่งความระมัดระวังตัวมากกว่า "นักล่า" อย่างหมา หรือแมว
กระรอกเป็นสัตว์ฟันแทะ ทานผลไม้เป็นอาหารหลัก มีแมลงเล็กๆเป็นอาหารเสริมบ้าง การที่มันค่อยๆย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในเมือง น่าจะเป็นเพราะอาหารการกินที่สมบูรณ์ และความปลอดภัยที่มากกว่าบ้านป่าถิ่นเดิมของมัน ในป่ามีนักล่าหลากหลายที่จะคอยจับกระรอกมาเป็นมื้ออร่อย แต่ในเมือง ศัตรูหลักของมันมีเพียงแค่สองสิ่ง คือ "แมว" และ "ไฟฟ้า" ยังไม่เคยมีใครทำการการวิจัยที่ชัดเจนว่า ในแต่ละปี มีกระรอกเสียชีวิตจากคมเขี้ยวแมวเหมียว หรือจากกระแสไฟฟ้ามากกว่ากัน แต่ผมวัดจากหลักฐานที่เห็นด้วยตนเอง ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก มักมีเสียงระเบิดของหม้อแปลงบนเสาไฟ เป็นสัญญาณให้รู้กันว่า เริ่มงานฌาปนกิจสัตว์โลกทั้งหลายที่ฝ่าอันตรายเข้าไปตายที่หม้อแปลงไฟแรงสูง นกพิราบ(นกอื่นไม่ค่อยเห็นนะครับ ไม่ทราบทำไม) งู และกระรอก ตัวเอกของเราในวันนี้
รู้ว่าเสี่ยง ยังไงก็ขอขอลอง... อาจจะเป็นเพลงที่ใช้ประกอบชีวิตกระรอกได้ดี เพราะไม่ว่าสายไฟที่โยงใยไปทั่วเมือง ปลายทางหนึ่งจะพามันไปสู่นรกแรงดันสูงได้ แต่อีกทางหนึ่ง สายไฟทั้งหลายจะนำพามันไปสู่สวนสวรรค์แห่งอาหารของเผ่าพันธุ์กระรอก
สายไฟที่โยงไปโยงมา จากเสาสู่เสา ผ่านบ้านสู่บ้าน กลายเป็นเส้นทางซูเปอร์ไฮเวย์ที่นำพาเหล่ากระรอกเดินทางได้อย่างปลอดภัย แม้ไม่ได้โดยสารไปกับวอลโว่ เพราะ "แมว" ศัตรูร้ายตามธรรมชาติ ที่กลายร่างจากสัตว์ป่ามาเป็นสัตว์บ้าน แต่ก็มิไม่ละทิ้งสัญชาตญาณในการล่าไป กลับใจไม่ด้านพอจะปีนป่ายตามสายไฟแห่งความตายไปตามจับพวกมัน จึงเป็นทางสะดวกที่ปลอดภัย และไปได้ทุกที่ในเมือง ด้วยความที่บ้านเราชาวเมือง แม้จะไม่ได้ปลูกผลไม้ไว้เพื่อรับประทานเป็นเหตุผลหลัก แต่ก็ยังนิยมปลูกผลไม้ไว้ในบ้านกันอยู่ดี เมื่อมีนก มีกระรอกมาจิก มาแทะผลที่ออกมาคาต้น เจ้าของส่วนใหญ่ กลับไม่ได้มองเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องจัดการใดใด ต่างจากสวน ไร่ที่ใช้ผลของไม้ไว้เป็นสินค้า ต้องมีมาตรการป้องกันที่เข็มงวด เพื่อป้องกันผลผลิตไม่ให้โดนชิงสุกก่อนขายไปเสีย บ่อยครั้งเสียอีกที่เราจะเอ็นดูเมื่อมีกระรอกมาแทะทานผลไม้ในบ้านเรา ยังไม่รวมไปถึงตามสวนสาธารณะที่มีการวางอาหารไว้ให้เป็นกิจลักษณะ จึงไม่แปลกใจเลย ที่จำนวนสมาชิกกระรอกจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งที่อพยพถิ่นฐานมา หรือได้สัญชาติเมืองแต่กำเนิด เราเริ่มไม่ตื่นเต้นเมื่อเห็นกระรอกในเมือง เหมือนสมัยก่อนเสียแล้ว
ทุกวันนี้ ผมได้ยินเสียงหม้อแปลงระเบิดน้อยลง คงเป็นเพราะความฉลาดส่งต่อกันในสายพันธุ์ได้จริง สิ่งที่เรียนรู้ วิธีการปรับตัวและวิถีชีวิต ให้เข้ากับสวรรค์ในเมืองของเหล่ากระรอกน้อย ได้ถูกกระจายไปทั่วชุมชนกระรอกเมือง แต่องค์ความรู้นี้คงต้องปรับเปลี่ยนอีกครั้งใหญ่ เมื่อเส้นทางสวรรค์กำลังจะถูกโยกย้ายลงไปฝังใต้ดินทั้งเมือง ไม่รู้ว่าบทต่อไปของกระรอกไทยจะต้องเจอกับอะไร แต่ผมปลอบใจน้องๆกระรอกได้อย่างหนึ่งว่า กว่าวันนั้นจะมาถึง วันที่เมืองไทยไร้สายไฟ... น่าจะอีกหลายเจนเนอเรชั่นกระรอกอยู่ครับ
New Kid in Town
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย