บิตคอยน์ คืออะไร
7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ “บิตคอยน์”
1.บิตคอยน์ (bitcoin) คือ เงินดิจิทัล
เงินบิตคอยน์ (bitcoin) ชื่อย่อ BTC เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งมีหลายแบรนด์บนโลกนี้แต่ที่ดังกว่าใครเขาเพราะว่าเป็นพี่ใหญ่ในวงการ เกิดก่อน ต่อสู้กับระบบการเงินแบบดั้งเดิมมาก่อน เกิดในปี 2552
ปัจจุบันมีอายุ 10 ปี และถูกขนานนามว่า “ราชาแห่งวงการคริปโต”
แต่ถึงกระนั้น บิตคอยน์ ก็ยังไม่ได้ถูกรับรองว่าเป็นเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายโดยธนาคารกลางแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ก็มีประเทศอื่นอย่างเช่น ญี่ปุ่น ที่บิตคอยน์ใช้ชำระค่าสินค้าและบริการได้อย่างถูกกฎหมาย
ภาพ อินเตอร์เน็ต
2.บิตคอยน์ (bitcoin) คือ ต้นกำเนิดของเทคโนโลยีบล็อกเชน
บิตคอยน์ คือ ต้นกำเนิดของเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งรายการธุรกรรมต่างๆ ของบิตคอยน์จะถูกรวมอยู่ในกล่อง หรือ เรียกว่า Block เมื่อธุรกรรมได้รับการยืนยันความถูกต้องแล้ว กล่องนั้นจะถูกนำไปเรียงต่อจาก Block ก่อนหน้าเป็นสายโซ่ (Chain) ต่อๆ กันไปแบบนี้เรื่อยๆ ตามลำดับเรียกว่า Blockchain
ภายหลังการกำเนิดของ บิตคอยน์ ต่อมาก็มีสินทรัพย์ดิจิทัลอีกหลายสายพันธุ์เกิดขึ้น ซึ่งต่างก็ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นพื้นฐาน ยกตัวอย่างเช่น อีเธอเรียม (Ethereum) ไลต์คอยน์ (Litecoin) โมเนโร (Monero) ซีแคช (Zcash) และ ซีคอยน์ (Zcoin) เป็นต้น
3.ผู้ให้กำเนิดคือบุคคลนิรนามที่ใช้ชื่อว่า “ซาโตชิ นากาโมโต”
ซาโตชิ ได้ออก white paper เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ปี 2008 (2551) ก่อนจะเริ่มใช้งานจริงปี 2009 (2552) จนถึงวันนี้ และตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่า ซาโตชิ คือใคร ชาย หญิง หรือกลุ่มบุคคล...!!?
ใครรู้จัก รบกวนบอกเลดี้ฯ พร้อมเบอร์โทร จะขอคิวนัดสัมภาษณ์พิเศษ
4.บิตคอยน์ ยังเหลือให้ขุดอีกประมาณ 4 ล้าน BTC
บิตคอยน์ ถูกจำกัดไว้ที่ 21 ล้าน BTC บนโลกนี้ ณ เดือน ม.ค.62 มีจำนวนบิตคอยน์ หมุนเวียนอยู่ในระบบราว 17 ล้าน BTC โดยซาโตชิ กำหนดให้การขุดนั้นยากขึ้นเรื่อยๆ จากที่ปีแรกขุดได้ง่าย จึงมีเงินบิตคอยน์ออกสู่ตลาด 50 บิตคอยน์ทุก 10 นาที หรือ 300 บิตคอยน์ต่อชั่วโมง คิดเป็น 7,200 บิตคอยน์ต่อวัน หรือ 2.6 ล้านบิตคอยน์ต่อปี
บิตคอยน์ถูกออกแบบให้ออกสู่ตลาดลดลงครึ่งหนึ่งทุก 4 ปี ดังนั้น มันจะถูกขุดจนครบ 21 ล้านเหรียญ ในปี ค.ศ.2140 หรือปี พ.ศ.2683 หรือเหลือให้ขุดอีกประมาณ 4 ล้าน BTC
ภาพ อินเตอร์เน็ต
5.สถิติสูงสุดของบิตคอยน์อยู่ที่ 650,000 บาท/BTC
ราคาบิตคอยน์เคยขึ้นไปทำ All Time High ในเดือน ธ.ค.2560 เกือบ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อบิตคอยน์ หรือราว 650,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น 32.54 บ./ดอลลาร์) ก่อนจะหัวทิ่มลงมาตลอดปี 2561 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2562 ณ ขณะที่เขียนบทความนี้อยู่ที่ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 100,000 กว่าบาทเท่านั้น (ซึ่งราคาจะผันผวนและเปลี่ยนแปลงเร็วมากในรอบ 24 ชั่วโมง)
จะเห็นได้ว่าราคาบิตคอยน์ผันผวนสูงมากขึ้นแรง-ลงแรง ไม่มีซิลลิ่ง-ไม่มีฟลอร์ เหมือนกับตลาดหุ้นที่จำกัดไว้ไม่เกิน 30% ของราคาปิดในวันก่อนหน้า ซึ่งช่วยลดความผันผวนได้ในระดับหนึ่ง
6.มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ เกินครึ่งของทั้งตลาดรวม
ณ เดือน ม.ค.62 บิตคอยน์ มี Market Cap อยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญฯ หรือคิดเป็น 53% ของ Market Cap รวมทั้งตลาด Crypto ที่ 1.12 แสนล้านเหรียญฯ รองลงมาจากบิตคอยน์ คือ XRP และ Ethereum ซึ่งมีมาร์เก็ตแคป 1.19 หมื่นล้านเหรียญฯ และ 1.10 หมื่นล้านเหรียญฯ ตามลำดับ
ดังนั้น การขึ้นหรือลงแรงๆ ของบิตคอยน์ ย่อมส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อมูลค่าตลาดคริปโต แถมมันส่งยังผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายของเหรียญดิจิทัลอื่นๆ (Altcoins)ให้แย่ตามไปด้วย
ถาพอินเตอร์เน็ต
7.บิตคอยน์ เป็น “สินทรัพย์” ประเภทที่ “เสี่ยงสูงมากที่สุด”
แค่หุ้นนี่ก็เสี่ยงมากแล้ว แต่บิตคอยน์ นี่หนักกว่าเพราะประเมินมูลค่าที่เหมาะสมไม่ได้เลยต่างจากหุ้นที่จะมีหลายวิธีประเมินมูลค่า ไม่ว่าจะเป็น P/E ,DCA หรือ SOTP เป็นต้น ส่วนบิตคอยน์ ไม่มีค่า P/E แถมยังไม่มีปัจจัยพื้นฐานให้ประเมิน ดูได้แค่กราฟสัญญาณทางเทคนิคเพื่อหาจุดซื้อจุดขาย
บิตคอยน์ ในไทยเองยังไม่มีหน่วยงานไหนรองรับ และราคาซื้อขายในตลาดก็ผันผวนหนักมากราวกับรถไฟเหาะ หลายคนเคยรวยด้วยบิตคอยน์ราวกับ “ราชา” ก็พลิกผันมาเป็นอย่าง “ยาจก” เพียงแค่ชั่วข้ามปี แถมการใช้งานในฐานะเงินตราดิจิทัล ก็ขึ้นอยู่กับการยอมรับกันเองระหว่างผู้ซื้อสินค้ากับผู้ขายสินค้า
แต่บนความเสี่ยงเหล่านี้...
นักลงทุนบางกลุ่มมองว่ามันคือ “สินทรัพย์ทางเลือก”ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในศตวรรษที่ 21 ขณะที่คนทั่วไปมองว่า มันก็ยังใช้ซื้อข้าวแกงไม่ได้อยู่ดี
และอีกหลายคนมองว่า บิตคอยน์ กำลังจะตาย...
- 113
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
