9 มี.ค. 2021 เวลา 02:00 • กีฬา
ความลับของ 4-2-3-1 ยาแก้ฝืดของลิเวอร์พูล
.
ฟอร์เมชั่น 4-3-3 ได้นำพาลิเวอร์พูล ผงาดคว้าไป 4 ถ้วย ในระยะเวลาแค่ 2 ปี นายใหญ่อย่าง เจอร์เก้น คล็อป ได้รังสรรค์ทีม ที่ปราศจากเพลย์เมกเกอร์ เบอร์ 10 แต่พวกเขาทดแทนมาด้วย ฟูลแบ็คจอมแอสซิส และ กองกลางที่เปรียบเสมือนผึ้งงาน จนสามารถรับมือได้กับทุกแทคติก ในโลกฟุตบอลสมัยใหม่และตัวเขาเอง ยังเป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้ แทคติกในโลกฟุตบอลนั้นเปลี่ยนไป
คู่ต่อสู้ที่ที่น่ากลัวที่สุดของลิเวอร์พูล คือตัว ลิเวอร์พูลเอง
และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ ทีมที่ยิ่งใหญ่กำลังจะล่มสลายไปอย่างรวดเร็ว อาการบาดเจ็บ นักเตะ เกือบทั้งทีม ปัญหากองหน้าฝืดกองหลังเหม่อมีมาให้เห็นเรื่อยๆ ซึ่ง ณ ตอนนี้พวกเขาต้องหาแนวทางที่กลับมาเป็น พญาหงส์อีกครั้ง
ด้วยสถานการณ์ โลกที่มีการระบาดของโควิด เศรษฐกิจโลกทั้งใบกำลังฝืดเคืองไปหมด ทางบอร์ดคงจะไม่มีวันให้เงินไป สอยนักเตะตัวเป้งๆมาเป็นอันแน่ ส่วนแนวทาง การปั้นนักเตะอันเป็นจุดเด่นของทีม ก็ ไม่เร็วพอที่จะหาตัวแทนได้
การต่อเติมสนาม การต่อสัญญา คีย์แมน และค่านู่นนี่นั่น จนเป็นวุ่นเป็นวายไปหมด เมื่อไม่สามารถเสริมได้ ก็ต้องเข้าไปปรับกันข้างในแผนแทนเลยละกัน
Ball recovery คีย์หลักของแผน
กล่าวคือการนำบอลกลับมาที่ตัวให้ได้นั่นเอง แค่ คล็อป ใช้มันในอีกพื้นที่หนึ่ง นั่นคือครึ่งบนในสนาม นั่นเอง การทำเช่นนี้ ไม่ว่าคู่แข่ง จะตั้งกำแพงสักกี่ครั้ง พวกเขาก็จะล้มมันลงได้ เพราะพวกเขาโจมตีตอนที่ อีกฝั่งยังไม่ทันได้สร้างกำแพงด้วยซ้ำ
การแย่งบอลได้ตั้งแต่แดนคู่แข่ง และการสวนกลับ ด้วย กองหน้าความเร็วปานจรวดคือจุดขายของพวกเขา
ส่วนแนวรับต้องดันสูง และ มีการอ่านเกมที่ดี ต้องเก็บลูกกลางอากาศได้ชัวร์ มีความเร็ว เล่นบอลับเท้าได้ดีวางบอลได้แม่น ใช่ครับที่กล่าวไปทั้งหมดมีในตัว ชายที่ชื่อว่า เวอร์จิล ฟานไดจ์ แต่การเสียกองหลัง เรียกได้ว่าเสียผู้เล่นที่ เสมือนกระดูสันหลังของทีมไปทุกอย่างก็ ค่อยๆแย่ลงเรื่อยๆ
กองหลังตัวหลักเจ็บระนาว ส่วนคนที่เหลือก็ไม่ใช่กองหลัง ในแบบที่ทีมต้องการ ซึ่งกองหลังในรูปแบบที่ลิวเวอร์พูลใช้ มีชื่อเรียกว่า Ball playing defender กองหลังที่เล่นบอลกับเท้าได้ดี ทำให้คล็อปต้องจำยอมถอยกองกลาง อย่าง ฟาบินโญ่ และ กัปตันเฮนโด้ ลงไปยืนแก้ขัดแทน
4-2-3-1 แผนที่ คล็ปคุ้นเคย
หากใครได้มีโอกาสช่วงที่เขาได้ คุมทีมอย่าง โบรอสเซียร์ ดอร์ทมุน จะเห็นได้ชัดว่าจริงๆแล้วตัวเขาใช้แผนนี้มาก่อนแล้ว
แต่
กับทีมนี้ไม่ใช่เมื่อขาด ฟานไดจ์ กองกลางไม่คุ้นเคยที่จะเล่นในระบบ 2 คน และการขาด เพลย์เมกเกอร์ เบอร์ 10 ธรรมชาติ ทำให้สิ่งนี้ทุกคนพูดได้เต็มปากว่ามันไม่ใช่!!!
เพราะ 4-2-3-1 จะแก้ปัญหาที่ มิติในแดนกลางที่มากขึ้น
ธิอาโก้ อัลกันตารา กองกลางจอม แอสซิส ที่เจ้าตัวมีจุดขายที่การจ่ายบอล แต่ในเวที่ พรีเมียร์ลีก เขายังไม่สามารถที่จะรับผิดชอบหน้าที่ทั้งรุกและรับได้ ตามแบบ ฉบับ 4-3-3 ของทีม การเล่นในบทบาทเบอร์ 8 ของเขา จะแจ่มมากๆ โดยการให้พื้นทีกับเขามากขึ้น และมีพาร์ทเนอร์ ที่เป็นผึ้งงาน คอยแบ่งเบาภาระและปัดกวาด ให้ตัวเขา
เคอร์ติดส์ โจนส์ จากช่วงแรกตัวเขาได้รับโอกาสมากจากนายใหญ่ แต่แฟนบอลกับพูดกันหนาหูว่าเขาไม่ใช่ เขาไม่ใช่กองกลางในแบบที่ทีมต้องการ เขาเก็บบอล ไว้กับตัว เขา เล่นยาก แต่ในช่วงหลังมานี้เขาเป็นดั่ง เดอะแบกด้านการสร้างสรรค์ เกมจาก หน้าสามประสานของ ลิเวอร์เลยก็ว่าได้ การรับบทบาทของเขาอาจได้ทั้ง เบอร์ 8 และ เบอร์ 10 ในเวลาเดียวกัน แต่เขาเองไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งไหน ก็จะสามารถทะลุทะลวงเกมรับอีกฝ่ายได้ดี และการเล่นที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ตัวเขาเก็บบอลไว้กับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีพลังขับเคลื่อนมากเลยทีเดียว
ส่วน สามแดนหน้า มาเน่จะยังสามารถประจำที่ตำแหน่งถนัดได้และตัวเขาเองก็จะได้เล่นในแบบของตัวเอง พร้อมกับ มิติ การพักบอลและการจ่ายบอลที่มากขึ้นหลากหลายขึ้น เฟอร์มิโน่ เล่นได้ถังในฐานะ False 9 ในกรณีที่ใช้ โจต้าลงสนาม เพราะ เฟอร์มิโน่สามารถ สร้างพื้นที่ได้ดี ประกอบกับ โจต้าเป็นคนที่เล่นกับช่องว่างและรูโหว่ของคู่ต่อสู้ได้ดี แต่ถ้า ซาลาห์ ได้ลง ตอนนี้เขาคือความหวังเดียวของ ทัพเดอะคล็อปในเรื่องการทำประตู การจับเขาไปเล่นหน้าเป้าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ และลดบทบาทของ เฟร์มิโน่มาแล่น ในตำแหน่งเบอร์ 10 ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร
ด้วยลูกเล่นในแดนกลางที่มีมากขึ้น เริ่มมีการกองกลางหลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่ผึ้งงานเพียงอย่างเดียว ทำให้ แดนกลางของลิเวอร์เอง มีบทบาทมากกว่าแค่ตัวไล่เก็บบอล ส่วนแนวรุกอื่นๆก็จะมีชีวิตชีวาตามขึ้นมาแน่นอนหากห้องเครื่องขอทีมมีความแปลกใหม่ขึ้น การเข้าทำก็จะมากมายขึ้นด้วยเช่นกัน
บทความ By อู๋ FL
โฆษณา