8 มี.ค. 2021 เวลา 13:14 • ท่องเที่ยว
12/10/2563
Low season สุขสันต์วันโสด
เอาจริงๆหนังเรื่อง low season เนี่ยมันเป็นหนัง feel good เรื่องนึงนะ คือดูแล้วชอบ
ด้วยความที่อินกับหนังเรื่องนี้ในระดับนึง
ปลายปีที่แล้วผมก็เลยวางทริปเที่ยวคร่าวๆเพื่อตามรอยสถานที่ในหนังเรื่องสุขสันต์วันโสดนี่หล่ะ
ก็แอบหวังว่าเผื่อได้เจอเรื่องราวฟิลกู๊ดๆ ในชีวิตกะเค้าบ้าง
แต่เรื่องราวแบบนั้นมันก็คงมีแค่ในหนังเท่านั้นหล่ะ
พอเริ่มทริปที่เชียงใหม่พวกเรา(4 พี่น้อง หรือ 4 ยอดกุมารแล้วแต่เรียก)ก็ต้องเฟลกันหนักมากๆ
ทันทีที่ถึงเชียงใหม่ พวกเราไม่ได้จองอะไรไว้เลย ไม่ว่าจะเป็นที่พักหรือการเช่ารถ
พวกเรามี mind set ที่แปลกประหลาดที่ว่าทุกอย่างมันต้องหาได้สิวะ หากรถเช่าเชียงใหม่เต็ม ก็เช่ารถข้ามจังหวัดไปสิ จะลำพูน ลำปางหรืออะไรก็ได้
คือให้เค้าขับมาให้ คือยังไงมันก็ต้องมีอ่ะ
ยังไงก็ต้องหาได้
แต่ๆ หน้างานคือแบบ เฮ้ยมันไม่มีจริงๆ
ไม่มีที่พัก(ที่ๆต้องการไป) ส่วนรถเช่าก็หาไม่ได้เลย
คือครั้งนี้ได้บทเรียนหล่ะ จำไปจนตาย 55555555+
เรา plan เที่ยวกันไว้ 3 วัน
โดยที่ 2 วันแรกผิดแผนทั้งหมด
ทำให้พวกเราต้องอยู่เที่ยวที่ตัวเมื่องเชียงใหม่ทั้ง 2 วัน
แต่ก็นั่นหล่ะ ด้วยความที่เป็นเชียงใหม่ อยู่ที่ไหนก็สนุก
เนี่ยๆไม่อยากจะเม้า 55555+
แต่ท้ายที่สุดดูเหมือฟ้ายังเข้าข้างคนดีๆอย่างพวกเราอยู่บ้าง หลังจากพยายามโทรติดต่อที่พักกันอยู่นานสองนาน
โทรทุกวัน
สุดท้ายก็จองที่พักกันได้สำเร็จ
โดยจองได้ที่นาขั้นบันได หมู่บ้านป่าปงเปียง
ในวันสุดท้ายก่อนกลับระยองนั่นเอง เย๊ๆๆๆๆ
จำได้ว่าดีใจกันมาก เพราะเบื่อแสงสีเสียงในเมืองกันเต็มที อยากขึ้นไปหนาวบนดอยกัน
พวกเราเก็บกระเป๋า จัดข้าวของกันแต่เช้าตรู่
แวะเช่ากีตาร์ในเมือง เตรียมเสบียง เตรียมอาหาร
เตรียมเครื่องดื่ม(เต็มรถมากๆ 5555+) ในการขึ้นดอย
กะจะเอากันให้ดอยแตกไปเล๊ย
โห้ยยยยย ใจนี่มาเลย ดีใจกันสุดๆ วันเดียวก็เอาวะ
ขับกันแป๊บดียวพวกเราก็พาตัวเองกันมาอยู่กันที่หมู่บ้านป่าปงเปียงกันแล้ว โดยมีน้องผญเด็กดอยตัวเล็กๆ พูดแจ้วๆ พาพวกเราเข้าเชคอินที่พักกันตอนบ่ายสามโมงเย็น
แต่อนิจาสิ่งที่พวกเราจองกันไว้คือเต้นท์เพียงสองหลัง
เลือกอะไรไม่ได้แล้ว มันเต็มหมด
ซึ่งตอนบ่ายสามโมง บนดอยนี่ร้อนมาก แดดเปรี้ยงมากๆ
ในเต้นนี่คือไมโครเวฟชัดๆ สิ่งมีชีวิตแบบเราไม่สามารถอาศัยอยู่ในเต้นท์เหล่านั้นได้เลย
จึงขอเข้าไปอาศัยบ้านเช่าข้างๆเต้นท์ก่อน
เพื่อรอให้อากาศเย็นกว่านี้จึงจะออกไปพักที่เต้นท์ของตัวเอง
คือบ้านเช่าหลังนี้ คนเช่าไว้ยังมาไม่ถึง
ระหว่างที่นอนเล่น นั่งเล่นในบ้านเช่าดังกล่าว
ใจผมตั้งจิตคิดอธิฐานอยู่สองอย่าง
1.อย่างแรกขอให้แขกบ้านหลังนี้เค้า cancel ไม่เข้ามาพักซะ ผมจะได้ take over บ้านหลังนี้ คืนนี้พวกเราจะได้นอนพักสบายๆกันหน่อย
2. อย่างที่สอง ถ้ายังมีแขกเข้ามาพัก ก็ขอให้ได้พบเจอกับแก๊งพริตตี้สาวช้ำรักเข้ามาพักสักทีเถอะ 55555555+
คิดไปก็นอนอมยิ้มไป จิตใจผมจดจ่อกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
ขณะกำลังนั่งคิดเพลินๆ เสียงน้อง ผญ แจ้วๆ เด็กดอยคนเดิมก็ดังขึ้นทางหน้าบ้าน พร้อมพาแขก ที่เช่าบ้านหลังดังกล่าวเข้ามาภายในตัวบ้าน
ผมค่อยๆเอี้ยวตัวออกไปมองแขกกลุ่มดังกล่าวแบบสุภาพที่สุด แบบไม่ให้กระโต๊ก กระต๊าก
จังหวะที่ค่อยๆ ยื่นหน้าออกไปมองนั้น ผมนี่ลุ้นสุดๆ
หัวใจผมเต้นโครมคราม กลัวมากๆที่บรรดาสาวพริตตี้ ช้ำรักของผมจะกลายมาเป็นกลุ่มแก้งชายฉกรรน์ทั้งแท่งที่เข้ามาพักแทน
ทะด๊า….ทันที่ที่มองเห็นแขก
ผมก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ไม่ใช่ทั้งแก้งชายฉกรรจ์และไม่ใช่ทั้งแก้งพริตตี้สาวช้ำรัก
แต่เป็นแก้งสาววัยใส สไตล์เด็กดอยสามคนที่เข้าพักบ้านเช่าหลังดังกล่าว
กลุ่มน้องๆเค้าดูเป็นวัยใสจัดๆ แต่งตัวเด็กๆ
เหมือนคนในพื้นที่ขึ้นมาเที่ยว
น่าจะเป็นเด็กมหาลัยผมวิเคราะห์จากสไตลการแต่งตัว
ซึ่งต่างกันราวฟ้ากับเหวกับน้องสาวผม
ซึ่งก็ยังถือว่ายังโชคดีที่โลกใบนี้ก็ไม่ได้โหดร้ายกับผมซะทีเดียว
แก้งสาววัยใสเข้ามาถึงที่พักก็เกือบจะเย็นแล้ว พวกเราเลยย้ายตัวเองกลับมาที่เต้นท์
ซึ่งก็พอจะอยู่ได้แล้ว อากาศเริ่มเย็นตัวลงแล้ว
เดินออกมาอีกทีนี่แบบ
อากาศดีมากกกก สวยมากกกกกกกก
ท้องฟ้าสีคราม นาขั้นบันไดที่มีสีเขียวที่ตัดกับดอกไม้หลากหลายสี รวมทั้งกลิ่นดิน กลิ่นเขา ลงตัวพอดี
พวกเราถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน
รู้ตัวอีกทีท้องฟ้าก็มืดลงเสียแล้ว
เราพากันเดินกลับไปที่เต้นท์และสั่งหมูกระทะมากินแก้หนาว พร้อมทั้งนั่งล้อมวงกันหน้าสลอนอยู่หน้าเต้น
พากันนั่งมองดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า
สวย สุข สงบ คงบรรยายได้แบบนั้น
ขณะที่ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ เราเริ่มจัดแจงอาหาร
เครื่องดื่ม รวมถึงหยิบกีตาร์ขึ้นมาเล่นเพลงสบายๆ คลอไปเบาๆ เพื่อให้เข้ากับอากาศที่เริ่มเย็นตัวลงเช่นกัน
ซักพักแก้งสาววัยใส ที่อยู่บ้านเช่าข้างๆ
คงอดทนต่อบทเพลงอันแสนจะไพเราะของพวกเราไม่ได้
จึงเอ่ยปากขอเข้ามาร่วมแจม
และเนื่องจากน้องๆเค้าเป็น ผญ ผมก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรอยู่แล้ว 5555+
น้องๆเค้ามากันในตรีมชุดบอล เสื้อบอล กางเกงบอล
ออกแนวไพรเวทจัดๆ
โอ้ยยยยยย น่ ใจคอจะไม่แต่งสวยกันหน่อยหรา 55555555555+
หลังจากแซวพอเป็นมารยาท พวกเราก็ได้นั่งล้อมวงกันอยู่นอกเต้นและเริ่มกิจกรรมกลุ่มด้วยการกินหมูกระทะร่วมกัน
ระหว่างรับประทานหมูกระทะก็เริ่มมีการแนะนำตัวกัน เราถามกันเพียงชื่อและอายุเท่านั้น
ไม่มีการถามเรื่องส่วนตัว หรืออาชีพกัน
และด้วย life style ที่แตกกันอย่างมหาศาล
ระหว่างแก้งสาววัยใสต้องมาปะทะกับสี่ยอดกุมารผู้กร้านโลก
บทสนทนาของพวกเราจึงดูไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่นัก
ราวกับว่าพวกเรากับพวกเธออยู่กันคนละมิติ
ซึ่งหากใครเคยมาปาตี้กับที่บ้านผมก็จะทราบกันดีว่าหาก 4 ยอดกุมารรวมตัวกันได้นี่แบบจะ Real ดิบ ถ่อย กักขระ กันขนาดไหน 5555555+
แรกๆตอนพวกเราพูดจาหยาบคาย ผมแอบเห็นน้องๆเค้าหน้าเสียกันนิดนึง เหมือนรับไม่ค่อยได้
แต่ก็นะจะไปคาดหวังอะไรกับคนแปลกหน้าแบบพวกเรา อย่างไรซะพรุ่งนี้ก็คงกลายเป็นคนไม่รู้จักกันยุแล้ว
หลังจากกินหมูกระทะเสร็จผมเริ่มเสริฟเบียให้กับแก้งสาววัยใส ก็นึกว่าจะไม่ดื่ม แต่ดื่มกันแฮะแอบเซอไพร้
ดื่มเก่งซะด้วย 5555+
ค่ำคืนของคนแปลกหน้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว
มันเป็นคืนที่สบายๆไม่ต้องคิดอะไรเยอะ
ไม่จำเป็นต้องโกหก ไม่จำเป็นต้องสร้างภาพ
พวกเรา(4 พี่น้อง) หยาบคายกันตั้งแต่เริ่มรู้จักกับเพื่อนใหม่ยาวกันไปจนเกือบตลอดทาง
พวกเรา(4 พี่น้อง) เล่าทั้งเรื่องเพศ วีรกรรมชั่วที่เคยก่อ ถูกนำมาเล่า นำมาแชร์กันอย่างสนุกปาก
คึกคะนองกันจัดๆ ใส่กันไม่ยั้ง อ่ะเม้ามา 5555555555+
แรกๆสาวดูรับไม่ค่อยได้ แต่หลังๆอาจจะเริ่มชิน+เมาด้วยหล่ะ
หรือไม่ก็ปลงอ่ะ ทำไมมาเที่ยวต้องมาเจอคนพรรนี้
พวกเรานั่งคุยกันสลับร้องเพลงกับร้องเพลงกันอย่างสนุก
มันเป็น moment ที่หาจากที่ระยองไม่ได้
ท้องฟ้าสีดำมืดสนิท ถูกแต้มด้วยจุดขาวเล็กๆของดวงดาวละเอียดเต็มฟ้าไปหมด
ภาพที่อยู่ตรงหน้าคือสวยจริงๆ เหมือนถูกสะกดให้นั่งมอง
มีเสียงกีตาร์คลอๆเบาๆ จิบเบียไปบางๆ
มันทำให้เราอินไปกับบรรยากาศ กับเพลงอย่างประหลาด
ผมนั่งพิงเต้นท์เผลอถอนหายใจเบาๆ ออกมาหลายครั้ง
อยากให้ค่ำคืนนี้ผ่านไปอย่างช้าที่สุด
นี่หล่ะคือการพักผ่อนจริงๆ
แต่เผลอแปบเดียวก็ตีสองแล้ว หันไปมองทางแก้งสาวๆยังนั่งตาใสกันอยู่เลย โอ้แม่เจ้า 555555+
พี่ๆนอนกันก่อนก็ได้นะ หนูยังไหวกันอยู่ เสียงแจ๊วๆของน้อง ผญ คนนึงในกลุ่ม กล่าวสวนออกมา
แต่งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกลา พรุ่งนี้ต้องตื่นกันแต่เช้า
พวกเราสี่ยอดกุมาร กล่าวยอมแพ้
เรา say good bye ต่อกันและแยกย้ายกันเข้านอน
ส่วนผมแอบใจหายนิดหน่อย ที่พรุ่งนี้พวกเราคงกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมรีบตื่นแต่เช้าเพื่อมาถ่ายรูป เก็บแสงยามเช้า เช่นเดียวกันกับแก้งสาวๆเมื่อคืน
 
เราเดินผ่านกันและยิ้มทักทายกันเหมือนคนแปลกหน้า
ซึ่งระหว่างเดินถ่ายรูปสวนกันไป สวนกันมานั้น
ไหนๆก็ไหนๆละ ผมตัดสินใจขอถ่ายรูปน้อง ผญ คนหนึ่งในแก้งนั้นเก็บไว้เป็นที่ระลึกสำหรับค่ำคืนของคนแปลกหน้าที่ผ่านพ้นไปแบบ feel good
เก้าโมงตรงหลังจากทานข้าวเช้าเสร็จพวกเราเก็บของและ check out ออกจากที่พัก
ขณะกำลังเก็บของขึ้นรถ ก็ได้ยินเสียงจากแก้งสาวๆเมื่อคืนเรียก
“พี่ๆอย่าพึ่งไป มาถ่ายรูปหมู่กันเป็นที่ระลึกก่อน”
เราแวะถ่ายรูปกับน้องๆเหล่านั้นเพียงครู่เดียว หลังจากถ่ายรูปเสร็จและกำลังไปที่รถ
“พี่ๆอย่าพึ่งไป มี face book มั้ย? ขอ face book ด้วยค่ะ”
ซึ่งหลังจากแลกเปลี่ยน face book กันเสร็จ พวกเราได้ say good bye ต่อกันอีกครั้งและนี่คงจะเป็นการร่ำลาของจริงแล้ว
จากนั้นพวกเราได้ออกเดินทางจากบ้านป่าปงเปียงไปที่สนามบินเพื่อกลับระยอง
ไอ้มิวนักดนตรีประจำบ้านได้เอ่ยขึ้นขณะอยู่ในรถที่กำลังมุ่งหน้าไปที่สนามบินเชียงใหม่
“พี่น้ำๆ ดู face book ที่น้องเค้าแอดมาหรือยัง”
“ยังอ่ะ ไม่ค่อยมีสัณญานโทรศัพท์ ” ผมตอบไปแบบไม่ได้คิดอะไรมาก
“น้องๆเค้าเป็นหมอกันนะ ใน FB อ่ะ” ไอ้มิวทำเสียงตกใจ
ผมก็ตกใจพร้อมแย่งโทรศัพท์จากมือมันมาเพื่อ confirm ข้อมูล
แทบไม่อยากจะเชื่อ เป็นหมอกันจริงๆด้วย
แมร่งเอ้ยยยยยยยยยย……ผมลากเสียงดังยาวในรถ
เมื่อคืนอย่างถ่อยเลยกู๊ ผมหันไปมองไอ้มิว ไอ้มิวก็หน้าเสีย
หูยเมื่อคืนทำอะไรกันลงไปวะเนี่ย
แล้วหมอที่ไหนเค้าใส่เสื้อบอล เกงบอลมาเที่ยววะเนี่ย จะรู้มั้ย
นึกว่าเด็กดอยอ่ะ 55555555555555+
นี่ก็จัดเต็มไปฉิบหาย คิดแล้วอายมากๆ หน้าผมนี่ร้อนวาบๆ
เลยทักแชทไปหาพวกนางกล่าวขอโทษในความหยาบคาย ความดิบถ่อยเมื่อคืน
ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อคืนจะปาตี้อยู่กับแก้งคุณหมอสาว
พอนึกย้อนไปดู ถึงว่าตอนเวลาพูดจาแรงๆ ดิบๆ เห็นน้องเค้าทำหน้าแบบรับกันไม่ค่อยจะได้
แต่ถึงแม้จะหยาบคายไปบ้าง แต่มันคือฟิลลิ่งสบายๆ ที่เราต่างหยิบยื่นให้ต่อกัน อย่างตรงไปตรงมา โดยที่ไม่ได้ปรุงแต่งอะไร
ท้ายสุดพวกเรา 4 พี่น้องนั่งเม้ากันเรื่องเมื่อคืนทำอะไรกันลงไปบ้างจนกลับถึงระยองด้วยความเพลิดเพลิน 555555+
ก็กะว่าจะไปตามรอยหนังเรื่องสุขสันต์วันโสด
ก็คงไม่เสียเที่ยวซักทีเดียว
เพราะค่ำคืนระหว่างคนแปลกหน้านั้น
ยังคงเป็น feel good ดีๆเมื่อได้นึกถึงอยู่เสมอ
โฆษณา