[ยุคใหม่การตลาดของไทย] อีกไม่นานอาชีพเกษตรกรจะกลายเป็นผู้ที่มีอันจะกิน ทำให้พิมรี่พายคงไม่มีโอกาสได้บริจาคโซล่าเซลล์แล้ว ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาชีพการทำเกษตรของคนไทย เป็นอาชีพที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ แต่คนทำอาชีพนี้น

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

8 มี.ค. 2021 เวลา 13:34 • ธุรกิจ

อีกไม่นานอาชีพเกษตรกรจะกลายเป็นผู้ที่มีอันจะกิน ทำให้พิมรี่พายคงไม่มีโอกาสได้บริจาคโซล่าเซลล์แล้ว

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาชีพการทำเกษตรของคนไทย เป็นอาชีพที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ แต่คนทำอาชีพนี้น้อยคนมากที่จะลืมตาอ้าปาก หรือใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายจริงๆ

นอกจากนี้แล้วยังมีพื้นที่และครัวเรือนอีกจำนวนมากที่ไม่มีโอกาสได้ใช้ไฟฟ้าเลย ล่าสุดก็เป็นข่าวกระแสโด่งดัง กรณีที่พิมรี่พายไปบริจาคแผงโซล่าเซลล์และโทรทัศน์จอยักษ์ เมื่อช่วงวันเด็กที่ผ่านมา ที่ ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่

ที่มา ข่าวสด

พบว่ายังมีอีกหลายพื้นที่ในประเทศไทยที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ สิ่งที่ตามมาก็คือ ทำให้มีโอกาสน้อยหรือไม่มีโอกาสในการรับรู้ข่าวสารวิทยาการสมัยใหม่ ความรู้ในการพัฒนาตนเองและสังคม ส่งผลกระทบต่อความเหลื่อมล้ำของสังคมไทย และเรื่องนี้จะก่อให้เกิดปัญหาที่ใหญ่ขึ้นในอนาคตได้

ทางออกที่จะช่วยให้คนไทยมีไฟฟ้าใช้อย่างทั่วถึง ที่เราเห็นทั่วไปคือการติดตั้งแผงวงจรโซล่าเซลล์ แต่เป็นการลงทุนที่ไม่ได้สร้างงานให้คนในพื้นที่ ในอนาคตอาจจะกลายเป็นปัญหาให้เกิดหนี้สินครัวเรือนมากขึ้น จากความต้องการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ต่างๆที่ไม่ได้สร้างรายได้กลับคืนมา เพียงแต่อำนวยความสะดวกให้มากขึ้นเท่านั้นเอง

ที่มา กระทรวงพลังงาน

ดังนั้นจึงมีโครงการเพื่อที่จะให้คนไทยในพื้นที่ห่างไกลมีไฟฟ้าใช้ จึงเกิดโครงการโรงงานไฟฟ้าชีวมวลขึ้นมา ซึ่งเป็นการใช้วัตถุดิบเหลือใช้จากการเกษตรเป็นหลัก และยังมีการพัฒนาในการปลูกพืชพลังงานเพื่อเป็นวัตถุดิบในการป้อนโรงงานไฟฟ้าชีวมวลด้วย

จากข้อมูลในปัจจุบันพบว่าโรงงานไฟฟ้าชีวมวลแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามชนิดของเชื้อเพลิงหลักๆ คือ ชานอ้อย 61% และแกลบ 12% และส่วนที่เหลือคือการใช้เชื้อเพลิงจากส่วนที่เหลือมาจากทะลายปาล์ม เศษไม้ และเศษวัตถุดิบเหลือใช้อื่น ๆ

การตั้งโรงงานฯก็จะพิจารณาจากแหล่งวัตถุดิบที่มีปริมาณป้อนโรงงานได้อย่างเพียงพอต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีการส่งเสริมในการปลูกพืช 6 ชนิด จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ กระถินณรงค์ กระถินเทพา กระถินยักษ์ ทาลิปตัว ไผ่และหญ้าเนเปียร์ เพื่อนำมาป้อนโรงงานไฟฟ้าชีวมวลโดยเฉพาะ

โรงงานไฟฟ้าชีวมวล มีจุดเด่นก็คือสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้อย่างสม่ำเสมอ ด้วยการวางแผนการจัดหาวัตถุดิบในระยะยาว หากเป็นโรงงานไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากแสงแดดและกระแสลม ต้องขึ้นอยู่กับปริมาณแสงแดดและกำลังลม ที่ต้องพึ่งพาธรรมชาติเป็นหลัก

Credit KPL WORLD TRADING

สิ่งที่ "ยุคใหม่การตลาดของไทย" มองเห็นจากเรื่องนี้ก็คือ

1. ความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทย ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลังงานที่มาจาก Fossil (ก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน)

2. ความมั่นคงของอาชีพเกษตรกรรม เพราะมียอดสั่งซื้อวัตถุดิบล่วงหน้าในระยะยาว อย่างน้อย 20 ปี

3. ปัญหาเรื่องของฝุ่น PM 2.5 ที่จะลดลงไปได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเกษตรกรไม่มีความจำเป็นต้องเผาหญ้าหรือวัสดุเหลือใช้ เพราะสามารถนำไปขายให้กับโรงงานฯได้

ที่มา MGR Online

4. ลดการสร้างขยะที่เกิดจากวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติ

5. การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่จะทำให้ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้

ที่มา https://loadebookstogo.blogspot.com/

6. ลดการเคลื่อนย้ายแรงงานจากต่างจังหวัดสู่เมืองใหญ่ ซึ่งจะส่งผลให้ลดความหนาแน่นของประชากรเมือง

7. สร้างงานให้กับคนในชุมชนได้เพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก

8. ลดต้นทุนในการผลิตสินค้า เพราะมีพลังงานไฟฟ้าต้นทุนต่ำมาใช้ในการผลิต

9. สร้างให้เกิดความมั่นคงของสังคม เพราะเมื่อสังคมมีกินมีใช้แล้ว การเรียกร้องต่างๆรวมถึงการก่ออาชญากรรมก็จะลดลงด้วย

จากการติดตามข้อมูลเรื่องนี้ โครงการนี้ได้เริ่มดำเนินการไปบางส่วนแล้วในพื้นที่ที่มีวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้าเพียงพอ และรัฐบาลตั้งใจที่จะผลักดันนโยบายนี้ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะเป็นนโยบายที่สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจของไทยให้กลับมาได้เร็วและสร้างให้เกิดเม็ดเงินที่เข้ามาในระบบเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย

ที่มา กระทรวงพลังงาน

สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่

Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)

https://www.instagram.com/modernizationmarketing/

Face Book Page: Thailand Modern Marketing

https://www.facebook.com/modernizationmarketing

YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)