Cabenuva ก้าวใหม่ของยาต้าน HIV
ฉีดเดือนละครั้ง แทนการกินยาทุกวัน
นับเป็นก้าวใหม่ในวงการแพทย์และยังเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี เพราะเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2021 ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ประกาศอนุมัติยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ชนิดใหม่ในรูปแบบฉีด 12 ครั้งต่อปี (เดือนละครั้ง) เพื่อทดแทนการทานยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ที่รักษากันอยู่ในทุกวันนี้ โดยทาง FDA ได้เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงการรักษาเชื้อไวรัสเอชไอวีด้วย Cabenuva เพื่อทำให้ผู้ที่ต้องใช้ชีวิตกับเชื้อเอชไอวีได้เข้าถึงการรักษาได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
สำหรับยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีในรูปแบบการฉีดนั้นมีชื่อว่า Cabenuva ที่มีฤทธิ์อยู่ได้นาน 1 เดือนต่อการฉีดหนึ่งครั้ง หรือ 12 ครั้งต่อ 1 ปีนั่นเอง โดย Cabenuva ไม่ใช่ยาใหม่ แต่เป็นชื่อของชุดยาที่ใช้ยา 2 ตัวร่วมกันคือ Rilpivirine และ Cabotegravir
FDA อนุมัติให้ใช้ยาต้านเชื้อ HIV กับผู้ใหญ่ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งผู้ป่วยที่จะได้รับจะต้องเป็นผู้ที่ติดเชื้อประเภท HIV-1 ไม่มีประวัติ virological treatment failure (ปริมาณ HIV RNA ในเลือด (VL) > 200 copies/mL ในขณะที่กินยาต้านไวรัสมานานอย่างน้อย 6 เดือน) และไม่มีประวัติการดื้อยาหรือสงสัยว่าดื้อยา Rilpivirine และ Cabotegravir
ในชุดยา Cabenuva 1 ชุดต่อเดือน ประกอบด้วย
- Ripivirine extended-release injectable suspension ขนาด 300 mg/ml ปริมาณ 3 ml 1 ขวด
- Cabotegravir extended-release injectable suspension ขนาด 200 mg/ml ปริมาณ 3 ml 1 ขวด
- Vial adapter 2 ชิ้น
- Syringe 2 กระบอก
- เข็มฉีดยา 2 อัน
- ฉลากติดกระบอกฉีดยา 2 ชิ้น
- ข้อมูลสำหรับแพทย์
- ข้อมูลสำหรับผู้ป่วย
- คู่มือการฉีด
เรามาทำความรู้จักยา 2 ชนิดที่ใน Cabenuva ให้มากกว่านี้กันดีกว่าครับ
• Rilpivirne เป็นยาในกลุ่ม NNRTIs ออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส ทำให้ไวรัสเพิ่มจำนวนไม่ได้
• Cabotegravir เป็นยาในกลุ่ม PIs ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างส่วนประกอบโปรตีนของไวรัส ทำให้ตัวไวรัสไม่สมบูรณ์
เมื่อผู้ติดเชื้อผ่านการตรวจสอบประเภทของเชื้อ ประวัติ Virological Treatment Failure และประวัติการดื้อยาแล้วจะได้รับยา Rilpivirine และ Cabotegravir ในรูปแบบเม็ดมาทานเป็นระยะเวลา 1 เดือนก่อนรับการรักษาในรูปแบบการฉีด เพื่อให้ร่างกายของผู้ติดเชื้อได้มีการปรับตัว พร้อมรับ Cabenuva และเพื่อให้แน่ใจว่ายาทั้ง 2 ชนิดจะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อผู้ป่วยในอนาคต หลังจากที่เตรียมความพร้อมทางร่างกายของผู้ติดเชื้อด้วยการทาน Rilpvirine และ Cabotegravir เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนแล้ว ผู้ติดเชื้อจะได้รับการรักษาด้วย Cabenuva โดยจะฉีด Rilpvirine และ Cabotegravir แยกกัน
ผลข้างเคียงที่พบในผู้ติดเชื้อบางรายที่ได้รับการรักษาด้วย Cabenuva นั้นจะมีอาการปวดบริเวณที่ฉีด มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ วิงเวียน การนอนหลับผิดปกติ มีผื่นขึ้น
ข้อห้ามใช้
• ห้ามใช้ในผู้ติดเชื้อที่มีประวัติแพ้ยา cabotegravir หรือ rilpivirine
• ห้ามใช้ในผู้ติดเชื้อที่ได้รับยา carbamazepine, oxcarbazepine, phenobarbital, phenytoin, rifabutin, rifampin, rifapentine, dexamethasone แบบฉีด (มากกว่า 1 dose) และ St John’s wort.
เกร็ดความรู้
HIV-1 คือ หนึ่งในประเภทของเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ที่มีในโลก โดยเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) มีทั้งหมด 2 ประเภทดังนี้
• HIV-1 : เป็นเชื้อไวรัสเอชไอวีที่แพร่ระบาดทั่วโลก
• HIV-2 : เป็นเชื้อไวรัสเอชไอวีที่พบในแถบประเทศแอฟริกา
อย่างไรก็ตามวิธีการรักษาด้วย Cabenuva ยังไม่มีในประเทศไทย และการรับประทานยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอยังเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาระดับยาในร่างกายให้เชื้ออยู่ในปริมาณที่ไม่สามารถแพร่ได้ และทำให้ผู้ติดเชื้อใช้ได้อย่างปกติครับ
-DONG-
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
