9 มี.ค. 2021 เวลา 10:21 • ข่าว
EP.3 จอบิ…กราดยิงรถนักเรียน
จอบิ กะเหรี่ยงจากบ้านใจแผ่นดิน
จอบิ ทำแผนสารภาพคดีกราดยิงรถนักเรียนบ้านคา จ.ราชบุรี
------------------------------------------
01 จดหมายของสะโบ …ถึงจอบิ สามีที่ถูกจองจำ
“ด้วยความคิดถึง จะเริ่มต้นด้วยอยากจะบอกกับเธอว่าไม่ต้องคิดมาก พระเจ้าที่มีชีวิตอยู่จะไม่ทอดทิ้งเธอตลอดไป
ขณะนี้ฉันคิดอะไรไม่ออก จะเป็นด้วยความผิดของเธอหรือของฉันก็ไม่รู้
1
ที่รักถ้าเธอต้องคิดคุก 15 ปี แทนคนอื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากที่เราจะต้องอดทน เธอไม่ต้องห่วงฉัน ขอให้เธออยู่ดี ๆ ฉันอยู่ทุกวันนี้ก็เหมือนอยู่กับเธอตลอดเวลา ฉันไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น ผัวฉันก็คือผัวฉัน ถ้าฉันได้ข่าวว่าเธอตาย ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องบอกฉันให้มีผัวใหม่
ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ฉันจะซื่อสัตย์กับเธอจนกว่าเราจะได้เจอกันอีก ถ้าเธอได้อ่านจดหมายฉันเธออย่าได้คิดมาก ลูก ๆ อยากจะเห็นหน้าเธอทุกคน ขอให้เธออยู่ดี”
สะโบภรรยาของจอบิ…ผู้ต้องหาคดียิงรถนักเรียนบ้านคา ในจ.ราชบุรี
นี่คือความคิดถึง และปารถนาดีต่อคนรัก ที่บรรยายผ่านตัวอักษรในจดหมายจากภรรยา ถึงสามีผู้บริสุทธิ์ ที่ต้องตกเป็นแพะ ถูกจับเป็น คนร้ายใจเหี้ยม ยิงถล่มรถนักเรียน จนมีเด็กผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต
02 จอบิ….ผู้ต้องหาคดี กราดยิงรถนักเรียนบ้านคา จ.ราชบุรี
ชายร่างเล็ก ผิวดำกร้านแดด เชื้อสายกะเหรี่ยง ผู้เคยใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางป่าต้นน้ำเพชรบุรีคนนี้ ครั้งหนึ่งเคยตกเป็นจำเลยและต้องทนทุกข์กับชีวิตที่ขาดอิสรภาพในเรือนจำนานกว่า 1 ปี หกเดือน ชื่อของเขาคือ จอบิ ไร้นามสกุล ไร้สัญชาติ
03 เหตุกราดยิงรถนักเรียน จ.ราชบุรี 4 มิ.ย. 2545
คดีที่สะเทือนขวัญ เป็นข่าวหน้าหนึ่งดังไปทั้งประเทศ จนเป็นที่มาของกระบวนการอยุติธรรมจับแพะ คดีนี้ เกิดขึ้นในเช้าตรู่ของวันที่ 4 มิ.ย. 2545 ขณะที่รถรับส่งนักเรียนของโรงเรียนบ้านคาวิทยา จ.ราชบุรี กำลังมุ่งหน้า นำนักเรียนเต็มรถไปส่งที่โรงเรียน
คนร้ายสามคนในชุดพราง พร้อมหมวกปิดหน้า
เข้าปิดขวางทางรถ พร้อมด้วยกระหน่ำยิง กราดกระสุนอาวุธสงคราม เข้าใส่รถนักเรียนไม่ยั้ง
สิ้นเสียงปืน มีเสียงร้องระงมด้วยความเจ็บปวดของนักเรียน 12 คน ที่ได้รับบาดเจ็บ ทุกคนในรถรถต่างตกอยู่ในสภาพหวาดกลัวและตื่นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่ทันที่จะรู้ตัวเลยว่า มีนักเรียนสามคน กลายเป็นร่างที่ไร้ลมหายใจ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจาก กระสุนปืนของโจรใจร้าย
1
04 ควานหามือปืน กราดยิงรถนักเรียน
ผ่านไปสองเดือน เจ้าหน้าที่ก็สามารถรวบตัวผู้ต้องหา เป็นชายชาวกะเหรี่ยงร่างเล็ก พูดไทยไม่ได้ ชื่อว่า จอบิ
จากรายงานการสอบสวน จอบิ ให้การรับสารภาพว่า ร่วมมือกับชายชาวกะเหรี่ยง อีก 2คน ก่อเหตุยิงถล่มรถนักเรียนและกระทำไปเพราะต้องการปล้นชิงทรัพย์
จอบิ ถูกทำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางการเฝ้าจับตามองของ เจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจ ทหาร นักข่าว และชาวบ้านรวมไปถึง ญาติของพ่อแม่ผู้เสียชีวิต
ภาพการทำแผนรับสารภาพของจอบิ ถูกแพร่ภาพไปทั้งประเทศ ในฐานะของอาชญากรใจโหด
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ด้วยคำรับสารภาพของจอบิเอง ทำให้เขาถูกควบคุมตัวไว้ในฐานะจำเลย
หมดสิ้นซึ่งอิสรภาพ และหมดโอกาสที่จะอธิบายให้ใครๆได้รับรู้ถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
ไม่รู้แม้กระทั่งว่า ตัวเอง จะที่ต้องรับโทษรับโทษสูงสุดคือประหารชีวิต
05 จอบิ…คือใคร
จอบิ เป็นชาวกะเหรี่ยงเผ่าปะปากญอ เกิดและเติบโตอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่เขาตะนาวศรี ทั้งในจังหวัดเพชรบุรี และราชบุรี มีอาชีพรับจ้างโดยทั่วๆไป ซึ่งในเวลานั้น งานของจอบิและภรรยาก็คืองานเก็บมะเขือ ในสวนของผู้รับจ้างได้ค่าแรงวันละ 80 บาท
1
จอบิไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การรับสารภาพของเขา
จะทำให้เขาต้องก้าวเข้าไปสู่เส้นทางแห่งความมืดมนไร้อิสรภาพ
จอบิ ต้องฝืนทน ปล่อยทิ้งลูกและเมีย ให้เผชิญชีวิตลำพังกับลูกๆ ภายนอก
ชีวิตในคุกของจอบิ อยู่ในสภาพอึดอัดทั้งร่างกายและจิตใจ เขาพูดไทยไม่ได้ ฟังภาษาไทยไม่ออก
“จอบิบอกว่าจะผูกคอตาย ไม่ได้ไปเยี่ยมที่เรือนจำ เพราะพูดกับใครไม่รู้เรื่องเลย เจอกันก็แค่ที่ศาลก็เท่านั้น
ลำบากมาก” ภรรยาของจอบิกล่าว
1
06 วันพิพากษา
ในวันที่ 31 มีนาคม 2547 ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้องจอบิ เนื่องจากเห็นว่า พยานโจทก์มีพิรุธหลายอย่าง
และแทบไม่น่าเชื่อว่า ทันทีที่ศาลพิพากษา ให้จอบิเป็นผู้บริสุทธ์ จะถูกตอบรับด้วย เสียงโห่ร้องยินดี จากญาติผู้เสียชีวิต
1
เป็นเรื่องแปลกแต่จริง
ที่ญาติผู้ตายสนับสนุนและให้กำลังใจผู้ร้ายที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการกล่าวหาว่าฆ่าลูกหลาน
เกิดอะไรขึ้น กับ ฆาตกรที่ชื่อ จอบิ
ความจริงอะไรหล่นหายไป ในวันที่เขาตกเป็นผู้ต้องหา
07 ย้อนรอย…พิรุธในคดี
พยานในที่เกิดเหตุต่างยืนยันว่า ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าตาคนร้ายชัดเจน แต่ก็จำได้ว่า ไม่มีใครรูปร่างเหมือนกับจอบิ
คนร้ายที่ลงมือมีความสูงประมาณ 160-170 ซม. ขณะที่จอบิ สูงเพียง 140 เซนติเมตร
และจุดที่จอบิทำงานอยู่นั่น คือบริเวณหมู่บ้านห้วยตำหนัก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุบริเวณอ.บ้านคา เป็นระยะทางกว่าร้อยกิโล มีประจักต์พยานยืนยันได้ว่า ระหว่างที่เกิดเหตุ จอบิยังคงทำงานอยู่ในสวนมะเขือแห่งนั้น
08 ความจริงจาก…จอบิ ถูกบีบบังคับให้รับสารภาพ
จอบิให้การภายหลังว่า มีชายฉกรรท์ บังคับให้เขาเดินทางเข้าไปมอบตัวกับตำรวจ มิเช่นนั้นลูกและเมียจะถูกทำร้าย
ขณะมอบตัว ต้องพูดผ่านล่าม และก็ไม่รู้ว่า ล่ามแปลภาษาไปอย่างไร ตัวเขาไม่เคยกลัวตำรวจ แต่กลัวกลุ่มโจรติดอาวุธที่มาจับตัวเขาไปมากกว่า พร้อมกับบังคับให้รับสารภาพว่าเป็นคนยิงรถนักเรียน โจรกลุ่มนั้นก็มีคนที่รู้จักคุ้นเคยและปักใจเชื่อว่า คนที่ยิงรถนักเรียนต้องเป็นโจรกลุ่มนั้นแน่นอน
09 ชะตากรรมจอบิ… แพะไร้สัญชาติ
จอบิ ฝ่าฟันมรสุมชีวิตกลับออกมายืนอยู่ในสังคมได้อย่างสง่าผ่าเผยในฐานะ ผู้บริสุทธิ์ ในคดียิงรถนักเรียนอำเภอบ้านคา นับตั้งแต่ศาลพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2547 พ้นจากพันธนาการแห่งโซ่ตรวน
แต่ศาลยังคงมีคำพิพากษาให้จำคุกเขา ในฐานะบุคคลหลบหนีเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย เป็นบุคคลต่างด้าว
นั่นหมายความว่า เขาไม่ได้เป็นคนไทย และ เมื่อพ้นโทษเขาจะถูกขับออกจากแผ่นดินไทย
จอบิ ยืนยันว่าตัวเอง เกิดและเติบโตอยู่ในผืนแผ่นดินไทยมาตั้งแต่กำเนิด มีศักดิ์และสิทธิ์ที่จะเป็นคนไทยในทุกประการ แต่ทว่าไม่มีหลักฐานใดๆระบุชื่อในเอกสารของราชการว่าเขาคือคนไทย
10 จอบิ…บ้านอยู่ใจแผ่นดิน บางกลอย
จอบิ คือชาวกะเหรี่ยง ชาติพันธุ์ ปะปากญอ ที่อยู่ในประเทศไทย ในพื้นที่ของป่าต้นน้ำเพชรบุรีมาตั้งแต่ดั้งเดิม และอาจจะเป็นชาติพันธุ์ดั้งเดิมเสียยิ่งกว่า คนสัญชาติไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้เสียอีก
ที่ๆจอบิเติบโตและอาศัยอยู่นั้น คือบริเวณที่เรียกว่า
"บ้านใจแผ่นดิน” ซึ่งหมายถึงใจกลางของแผ่นดิน
เป็นบริเวณที่มีความห่างไกลเข้าไปในบริเวณป่าลึก
ยากที่คนทั่วๆไปจะเดินทางเข้าไปได้
2
แต่ถึงแม้จะเดินทางได้ก็ต้องใช้เวลาในการเดินเท้าจากหมู่บ้าน ในใจแผ่นดินออกมาสู่โลกภายนอกเป็นระยะเวลาถึง 3 วัน ด้วยความรู้น้อยและไร้ซึ่งเหตุจำเป็นชาวกะเหรี่ยงเหล่านี้จึงไม่ต้องมาติดต่อกับทางราชการ และเมื่อทางราชการสำรวจบุคคล ก็เข้าไม่ถึงคนเหล่านี้เพราะพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารเมื่อไม่มีเอกสารแสดงตนและไม่มีทะเบียนบ้าน ทำให้เข้าใจว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนไทย กลายเป็น “คนไทยตกหล่น”
1
11. จอบิ…ตกติดคุกข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย
แม้จะถูกยกฟ้องพ้นผิดในข้อหายิงรถนักเรียน แต่เขายังต้องถูกควบคุมตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ของจ.กาญจนบุรี ช่วงเวลาที่ไร้ซึ่งอิสรภาพ ครั้งที่สองในชีวิตของจอบิ
ระหว่างถูกควบคุมตัว จอบิก็ล้มป่วยอย่างหนัก ความทราบถึงสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงทรงรับจอบิเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมถ์ และเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช
3
ข่าวคราวของจอบิกลับมาเป็นที่สนใจของสังคมอีกครั้ง
12. คืนความเป็นไทย…ให้จอบิ
ซึ่งในช่วงเวลานั่นเอง มีความร่วมมือจากหลายฝ่ายๆ ที่จะช่วยเหลือและพิสูจน์ว่า จอบิคือคนไทยติดแผ่นดิน มิใช่คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
ทั้งในภาคส่วนของประชาคมชาวสวนผึ้ง ซึ่งนำโดย อ.วุฒิ บุญเลิศ และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งร่วมกันยื่นเรื่องต่อสภาทนายความ เพื่อให้มีการช่วยเหลือเรื่องสัญชาติของจอบิ
สภาทนายความ ซึ่งนำโดยนายสุรพงษ์ กองจันทึก จึงนำพยานหลักฐาน เข้าร้องเรียนต่อ อ.แก่งกระจาน
เพื่อขอให้มีการรับรองสัญชาติของจอบิ แต่กระบวนการของอ.แก่งกระจานเป็นไปด้วยความเชื่องช้า
ปี2550เวลาผ่านไปเกือบสามปี คดีที่ผู้ฟ้องคือจอบิ ฟ้องร้องต่อ นายอำเภอแก่งกระจานเพื่อให้เขามีชื่อในทะเบียนบ้านเป็นคนไทย ก็ได้บทสรุป
13. TimeLine ชะตากรรมจอบิ
ปี 2545 จอบิ ถูกจับในข้อหายิงรถนักเรียน ที่อ.บ้านคา จ.ราชบุรี
ปี2547 จอบิใช้ชีวิตเกือบสองปีในเรือนจำ ศาลสั่งยกฟ้องจอบิ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของญาติผู้เสียชีวิตแต่ในเวลาเดียวกัน จอบิกลับถูกตั้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
ปี2548 จอบิถูกควบคุมตัวไว้ที่ด่าน ตรวจคนเข้าเมือง จ.กาญจนบุรี อีกเกือบ 4เดือน
ด้วยความร่วมมือจากหลายฝ่าย เพื่อขอรับรองจอบิในฐานะคนไทย
ปี2550 ตามคำสั่งศาล จอบิได้การเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎรของอำเภอแก่งกะจาน
เป็นคนไทยอย่างสมบูรณ์ตามเอกสาร ชื่อว่า นายจอบิ วนาวิวัฒน์กุล
14 นายจอบิ วนาวิวัฒน์กุล
จอบิต้องใช้พยานถึง ๑๔ ปากมายืนยันจนวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๐ จอบิจึงได้เพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนบ้าน และมีบัตรประจำตัวประชาชนในชื่อ "นายจอบิ วนาวิวัฒน์กุล"
กว่าหกปีที่จอบิ ต้องพิสูจน์ตนเองในฐานะผู้บริสุทธิ์ ทั้งการตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอุกฉกรรท์ และในฐานะของคนไทยตกหล่นที่ต้องการสิทธิของความเป็นคนไทยโดยสมบูรณ์
ได้รับชื่อในฐานะคนไทยว่า “จอบิ วนาวิวัฒน์กุล”
สิ่งที่ตามมาคือสภาพชีวิตของความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
2
15. บทสรุป
มองในอีกด้านหนึ่ง ถ้าหากจอบิไม่ได้ตกเป็นจำเลยในคดีที่สังคมทั่วไปสนใจ ในวันนี้เขาอาจจะยังไม่ได้รับสิทธิในฐานะคนไทย
และในอีกมุมมองหนึ่ง เป็นไปได้ว่าการที่จอบิต้องกลายเป็นแพะในคดีอาญา ก็เพราะว่าเขา ไม่มีสิทธิและสถานะที่จะออกมาต่อสู้เรียกร้อง ง่ายดายเหลือเกินที่จะถูกโยนความผิดให้กลายเป็นแพะรับบาป โดยไม่อาจพิสูจน์ตนเองได้เลย
โฆษณา