10 มี.ค. 2021 เวลา 04:51 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Movie : News of The World
กดดูเรื่องนี้ทาง Netflix เพราะพี่ Tom Hank คนเดียวเท่านั้น ไม่สนเลยว่าเรื่องราวจะเป็นเกี่ยวกับอะไร บ้าดาราล้วน ๆ ดูจบมาหาข่าวดูถึงได้รู้ว่า เรื่องนี้มีคิวออกฉายโรงใหญ่ แต่ติดโควิดทาง Netflix เลยซื้อเอาไปฉายแทน ก็ถึงว่า ทำไมโปรดักชั่นมันถึงดีงาม บทเอย ภาพเอย ดีงามไปหมด
1
เล่าเรื่องคร่าว ๆ ก็คือ กัปตันคิดด์ (ยศผู้กองค่ะ แต่ทำไมเรียกกัปตันก็ยังไม่ได้ไปค้นคว้าเรื่องการเรียกขานยศนะคะ) นายทหารปลดประจำการ ปัจจุบันทำงานเป็นคนอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ ที่เร่ร่อนไปตามเมืองต่าง ๆ ในรัฐ Texas เพื่ออ่านข่าวสารในหนังสือพิมพ์แลกเงินสิบเซ็นต์(ต่อคน) ระหว่างที่กำลังเดินทางข้ามเมือง ก็ไปพบกับเด็กหญิงคนหนึ่งที่รอดพ้นจากการถูกทำร้าย กัปตันคิดด์จึงนำตัวไปส่งทางการ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า คนไม่พอ ไม่มีใครดูแล กัปตันคิดด์เลยต้องนำเด็กหญิงไปส่งกับญาติที่เหลืออยู่ของเธอยังเมืองที่อยู่ห่างออกไปหกร้อยกว่ากิโลเมตร
พล็อตเรื่องมีเท่านี้เอง ที่เหลือเป็นปัญหาต่าง ๆ ระหว่างทางที่จะทำให้เราเอาคอยใจช่วยอย่างใจหายใจคว่ำ และก็คอยลุ้นความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นระหว่างคนต่างวัยที่ใช้คนละภาษาและเติบโตมาคนละวัฒนธรรม
และนี่คือ 10 Short Notes หลังจากดูจบ
(เริ่มสงสัยตัวเองแล้วว่าทำไมต้อง 10 ด้วย 5 ได้มั้ย คิดไม่ออก)
1
1. หนังไม่ปูพื้นประวัติศาสตร์อะไรให้ฉันเลยค่ะ คิดว่าฉันจบเอกประวัติศาสตร์ชาติอเมริกันหรือยังไงคะ ตอนดูก็งงไปเรื่อยว่า นี่มันยุคสมัยไหนคะ ทำไมคนถึงเกลียดอินเดียนแดง แล้วต้องมาฆ่ามาแกงถลกหนังอะไรกันทำไม แล้วนี่คือหลังสงครามอะไร ทำไมขี่ม้า โอ๊ย งงไปหมด
1
2. ไปค่ะ ไปสืบค้น ไปชวนพี่กูเกิ้ลคุย จึงได้ความว่า ตัวเนื้อเรื่องเกิดขึ้นในปี 1870 ประมาณ 5 ปี หลังสงครามกลางเมือง (1861-1865) คือ ขัดแย้งกันในหลายสาเหตุ แต่ที่เป็นประเด็นใหญ่คือเรื่องเลิกทาส ทางฝั่งเหนือไม่อยากให้มี ทางใต้อยากให้มี พอปธน.ลินคอล์น ได้รับการเลือกตั้ง ก็มีนโยบายจะเลิกทาส ทำให้รัฐทางใต้ประกาศแยกตัว แล้วก็ต่อสู้กันค่ะ
1
3. เด็กหญิงสาวถูกกัปตันคิดด์เรียกขานว่า “โจแฮนนา” เพราะเธอมีบัตรประจำตัวแจ้งชื่อสกุลด้วย แต่เด็กบอกว่าไม่รู้จักชื่อนี้ เธอถูกเรียกด้วยชื่ออื่น เรื่องค่อย ๆ เผยขึ้นมาว่า พ่อแม่เธอย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากที่อื่น ถูกฆ่าตายโดยชนเผ่า Kiowa แล้วพวกนั้นก็พาเธอมาเลี้ยงตั้งแต่อายุ 4 ขวบ (ปัจจุบัน 10) ทีนี้คนพวกนี้ก็มาโดนฆ่าตายระหว่างการเดินทาง แต่เธอคงหลบหนีซ่อนตัวได้จนกัปตันคิดด์มาพบ
1
4. เด็กพูดภาษาถิ่น กัปตันพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งก็เป็นไปตามพล็อตเดิม ๆ คือ เด็กยังไม่ไว้ใจ ก็จะไม่พูดด้วย เน้นคำราม และวิ่งหนี
1
5. ทั้งสองคนต่างมีบาดแผลทางใจที่ระทมเหมือนกัน ตอนแรกเรายังไม่รู้ว่ากัปตันระทมเรื่องอะไร แต่คิดว่าเรื่องเมียนั่นแหละ เห็นรำพึงอยู่เรื่องเดียว แต่เด็กโจแฮนนานั้นระทมขมขื่นแน่ ๆ เห็นพ่อแม่จริงถูกฆ่าตายตอนเด็ก แล้วก็มาเห็นพ่อแม่ที่เลี้ยงมาถูกฆ่าตอนนี้อีก (อันนี้ไม่ใช่แกนหลักของเรื่องพูดถึงได้คิดว่าไม่สปอยนะ)
1
6. การพาโจแฮนนากลับไปส่งยังญาติที่เหลืออยู่ของเธอยังอีกเมืองที่ห่างไกลโพ้น ใครต่อใครก็บอกว่า ทำไปทำไม๊คุณกัปตัน มิใช่เรื่อง แต่กัปตันก็ไม่สน จะไปอ่ะ นั่นก็พอให้เราได้รู้ว่า ชีวิตแกก็ไม่เหลืออะไรให้เป็นแก่นสารในชีวิตแล้ว เรื่องคุณธรรมอะไรก็เป็นเรื่องรองลงมา
7. Tom Hank ในวัยนี้เล่นบทนี้ได้อบอุ่นมาก ดูเป็นทั้งคนที่ท้อแท้สิ้นหวัง แต่ก็ยังแฝงพลังบางอย่างที่ริบหรี่อยู่ข้างใน ซึ่งหนูโจแฮนนามาเป่าถ่านที่ใกล้มอดไหม้ให้ค่อย ๆ ลุกโชนขึ้น จนอบอุ่นเป็น Daddy ได้ในที่สุด
8. เด็กน้อยโจแฮนนาฉายแสงมากไม่แพ้กัน ไม่โดนรัศมีของ Tom Hank กลบแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่เป็นบทที่ยากมาก เพราะไม่ได้ใช้ภาษาพูด 80% นี่คือแสดงออกด้วยสายตาท่าทางทั้งนั้น ไม่ได้เป็นเด็กที่หน้าตาน่ารักอะไรด้วยนะ แต่ดูจบแล้วไม่หลงรักนางให้เตะเลย
9. ฉากที่ชอบที่สุดก็คือตอนที่ต่างสอนภาษากันและกัน เด็กหญิงชี้ไปที่ดิน ชี้ไปที่ฟ้า ทำมือวาดเป็นวงกลมแล้วกอดตัวเอง แปลว่า แผ่นดินแผ่นฟ้าโอบอุ้มเราไว้ กัปตันพุ่งแขนและมือไปข้างหน้า แล้วบอกว่า ชีวิตต้องไปต่อ ต้องไปข้างหน้า เป็นฉากที่เรารู้แล้วว่า ต่างคนต่างเริ่มเปิดใจให้กันและกัน พร้อมที่จะเข้าใจถึงความต่าง และความผูกพันก็เกิดจากตรงนั้น
10. สรุปว่า พล็อตเรื่องไม่มีอะไรใหม่ ว่าไปหนังในแนวเดียวกันอย่าง True Grit บทดูดีกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่การเล่าเรื่องของตัวบทและผู้กำกับ ผสมกับการแสดงของสองตัวหลัก กลับทำให้เรื่องมันอบอุ่นละมุนละไมในตอนจบทั้ง ๆ ที่รู้แหละว่าต้องจบแบบนี้ การเดินทางของคนต่างวัยต่างวัฒนธรรม ผจญภัยร่วมทุกร่วมสุขกันระหว่างทาง แม้พล็อตไม่มีอะไรใหม่ แต่ในรายละเอียดก็ยังน่าสนใจพอที่จะทำให้เรานั่งดูอย่างสนุกตั้งแต่ต้นจนจบได้ แถมมีน้ำตาคลอ ๆ เสียด้วยล่ะ
1
โฆษณา