10 มี.ค. 2021 เวลา 07:31 • ไลฟ์สไตล์
เราจะ Productive ไปทำไม ?
- จุดเริ่มต้นของผลลัพทธ์ที่ยิ่งใหญ่ คือการมองเห็นและตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งๆนั้น -
‘Productive’ คงเป็นคำที่คุ้นตาหลายๆคนเป็นอย่างดี จากสังคมรอบตัว และสื่อออนไลน์ ผนวกกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ราวกับเป็นการปลุกเร้าให้เรากระหายชัยชนะ ต้องใช้ทุกวินาทีอย่างคุ้มค่า เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน และคว้าความสำเร็จในอนาคตมาครอบครอง
2
แต่เราเคยหยุดถามตัวเองไหมว่า สิ่งที่เรากระหาย และพยายามไขว่คว้ามาอย่างสุดกำลัง มันเป็นความต้องการของใครกันแน่ การที่เรารู้สึกเหนื่อย เพราะทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองดูเป็นคน Productive มันกำลังแสดงถึงความผิดพลาดอะไรบางอย่างกับกระบวนการทำงานของเรารึเปล่า
1
| คุณกำลังแข่งขันกับใครอยู่รึเปล่า ?
3
📍 กับดักความ Productive
2
การแข่งขัน และความกระหายชัยชนะ อาจฝังลึก และทำให้เราพยายามที่จะ Productive ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จนติด “กับดักความ Productive” ที่แอบแฝงมาโดยไม่รู้ตัว และเชื่อมโยง Productivity เข้ากับคุณค่าของตัวเอง จนทำให้เรากลัวว่าจะใช้เวลาไม่คุ้มค่า ต้องการทำงานให้มากที่สุด คาดหวังความสำเร็จกองโต สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อตัวเองและคนรอบข้าง ซึ่งลึกๆแล้วอาจจะเป็นการทำเพื่อปลอบใจตัวเอง
การทำอะไรบางอย่างไม่ได้หมายความว่า การกระทำนั้นคุ้มค่า
3
| สิ่งที่เป็นตัวยืนยันความคุ้มค่าคือผลลัพธ์ต่างหาก
2
📍 ผลลัพธ์ที่คุ้มค้าเป็นยังไง ?
คำว่า Productive เป็นคำที่สื่อความหมายได้ค่อนข้างกว้าง มีรูปแบบการสร้างผลลัพธ์ที่หลากหลาย และนำเสนอในมุมมองที่ต่างกันออกไป แต่ที่สะดุดใจเป็นพิเศษ และอยากจะมานำเสนอในที่นี้เป็นมุมมองของคุณ Ali abdaal ที่บอกไว้ว่า
Productivity = (Useful Output / Time) x Fun factor
7
‘ผลผลิตที่เหมาะสม’ ขึ้นอยู่กับ ประโยชน์ของผลลัพธ์ที่ได้ต่อเวลาที่ใช้ไป ควบคู่ไปกับความสุขระหว่างกระบวนการนั้น
การที่มีความสุขเป็นตัวคูณ จะช่วยทวีผลผลิต และคอยเตือนเราให้หมั่นสำรวจกระบวนการที่ใช้อยู่ ว่าเหมาะสมกับตัวเราหรือไม่ ถ้ากระบวนการนั้นยังไม่เหมาะกับเรา ก็จะตระหนักได้ทัน และปรับเปลี่ยนมันอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอ และส่งผลต่อเป้าหมายในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
📍 Productivity ?
'Productivity' เปรียบเสมือนเครื่องมือส่วนบุลคล ที่ช่วยสร้างผลลัพธ์ของสิ่งต่างๆให้มีประสิทธิภาพ พาเราไปยังเส้นทางที่เราต้องการ และทำให้เราเติบโตขึ้นในแบบที่เราอยากจะเป็น
เพื่อให้เห็นภาพกระบวนคร่าวๆ ที่จะช่วยให้การทำงานของเราเป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพ จะขอแยกย่อยกระบวนการพื้นฐานหลักๆเป็น 4 อย่าง
1. การวางแผน (Task Management) — 15% ของเวลาทั้งหมด
เป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุด เพราะการวางแผนเป็นการฉายภาพรวม และถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในความคิดของเราออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน ช่วยให้ตระหนักถึงขั้นตอน สิ่งที่สำคัญในแต่ละช่วงเวลา และช่วยจัดลำดับความสำคัญได้เป็นอย่างดี เป็นเหมือนป้ายบอกทางที่จะพาเราไปยังเป้าหมายได้อย่างราบรื่น
| Our mind is for having ideas, not for storing them.
4
2. ลงมือทำ (Take Action) — 80% ของเวลาทั้งหมด
ในส่วนนี้เราไม่ควรที่จะใช้พลังงานไปกับแต่ละ Task มากเกินไป เราเพียงแค่ทำตามแผนที่วางไว้ในเวลาที่กำหนด เพราะมีหลายสิ่งที่เราต้องทำ ภายใต้ข้อจำกัดของเวลา และพลังงาน
3. การวัดผลหรือตรวจสอบ (Tracking) — 5% ของเวลาทั้งหมด
เพื่อให้แน่ใจว่าเราใช้เวลาและพลังงานอันมีจำกัดของเราไปอย่างคุ้มค่า จึงต้องมีการคอยติดตามผลการทำงานของเราให้ไปทิศทางเดียวกันกับเป้าหมายที่เราวางไว้ และเพื่อคอยสังเกตุว่าระบบ และเครื่องมือที่เราใช้ในการทำงานนั้นมีส่วนไหนที่ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับตัวเรา
4. ทำอย่างลื่นไหล(Flow state)
2
สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่มีค่าได้คือ ‘กระบวนการ’ ถ้ากระบวนการนั้นเหมาะสมกับระดับความสามารถของเรา มีเป้าหมายย่อยที่ท้าทายแบบพอดี จะทำให้เรา เพลิดเพลินไปกับกระบวนการทำงาน ทำได้อย่างสม่ำเสมอ และเกิดการพัฒนาอยู่
ตลอดเวลา
การวางแผน และคอยติดตามการทำงานจะช่วยให้เราโฟกัสกับสิ่งสำคัญระหว่างการเดินทางไปสู่เป้าหมายที่เราวางไว้ เพราะด้วยความเป็นมนุษย์เป็นเรื่องง่ายมากที่สิ่งล่อใจรอบตัวเราจะพาเราหลุดออกจากเป้าหมายที่เราต้องการ หรือคนในแบบที่เรา
อยากจะเป็น
1
📍 ปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลา และการเติบโต
หากมองไปในอนาคตข้างหน้าแล้ว การพัฒนาของเรามีโอกาสเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีกระบวนการไหนที่ตายตัว และตอบความต้องการของเราได้ทุกช่วงเวลา เราจึงต้องปรับเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายในช่วงเวลานั้นๆ แต่ยังคงเค้าโครงของการทำงานอย่างมีคุณภาพไว้ เพื่อผลลัพธ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เครื่องมือนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตเท่านั้น เราไม่จำเป็นต้องพยายามทำทุกๆ อย่างให้ Productive อยู่ตลอดเวลา
| การทำงานเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
📍 เราจะ Productive ไปทำไม ?
✨ ส่วนที่สำคัญของสมการที่ขาดไม่ได้เลยคือ ความสุข เราจึงควรที่จะถามตัวเองว่า เป้าหมายของเราคืออะไร ต้องใช้อะไรบ้าง และเป็นไปได้ไหมที่เราจะไปถึงเป้าหมายนั้นด้วยความสุข
การที่เราเริ่มจากการถอยหลัง เพื่อมองดูชีวิตปัจจุบันอย่างมีสติ จะช่วยทำให้เราเห็นภาพได้ชัดขึ้น ว่าเราจะพัฒนาตัวเองไปทำไม และเป็นคน ‘Productive’ ไปเพื่ออะไร
✨ การมีเหตุผลที่แข็งแรง(Strong Why) ทดไว้ในใจ จะทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาตัวเอง และ เราจะตามหาความ Productive ในแบบของเราโดยอัตโนมัติ
2
การพัฒนาชีวิตเพื่อเป็นคนในแบบที่ตัวเองต้องการ ย่อมเป็นไปได้ในท้ายที่สุดโดยไม่ต้องเทียบกับใคร เราจะใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าในแบบของเรา และได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าในแบบที่เราต้องการ
- จุดเริ่มต้นของผลลัพทธ์ที่ยิ่งใหญ่ คือการมองเห็นและตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งๆนั้น -
2
📍 Life is marathon, not a sprint.
1
เต่าเอาชนะกระต่ายได้ เพราะมันเข้าใจว่า ถ้าหมดแรงตั้งแต่เริ่ม ก็ไม่มีทางไปถึงเป้าหมาย
หากเราต้องการไปสู่เป้าหมายมากมายในชีวิต ย่อมไม่เสียหายที่จะลองปรับเปลี่ยนตัวเองโดยเริ่มต้นทีละนิด เพื่อให้เราเป็นเราในแบบที่ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
คำว่า Productive แปลเป็นไทยคือ อุดม, งอกงาม คือผลลัพธ์ หรือผลผลิต ที่รอให้เราเก็บเกี่ยวเพื่อเติมเต็มส่วนต่างๆของชีวิต และเติบโตอย่างสวยงามในแบบที่ต่างกันออกไป
ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านทางคอมเมนต์ เพื่อแบ่งปันมุมมองกันนะครับ
ขอบคุณผู้รักการเรียนรู้ทุกท่านครับ :-)
โฆษณา