10 มี.ค. 2021 เวลา 08:02 • สุขภาพ
130.
การเดินทางไกล เพื่อลงจากภูเขา
 
.
1. ช่วงอายุที่ร่างกายสมบูรณ์ที่สุด
ดร. Leo Esaki หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ผู้ได้รับรางวัลโนเบลบอกว่า ส่วนใหญ่ของการค้นพบทฤษฎีใหม่ทางวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมต่างๆ มักเกิดขึ้นในช่วงอายุเฉลี่ย 32 ปี แล้วอีก 20-30 ปีให้หลัง เขา/เธอเหล่านั้น ถึงจะได้รับรางวัลโนเบล
ยิ่งกว่านั้น ดร.ลีโอ ชี้ให้เห็นว่า จุด peak สุดของการสร้างสรรค์ผลงานทางวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นในช่วงอายุ 20-30 ปี หลังจากนั้นเซลล์สมองและร่างกายจะเริ่มเสื่อมโดยมีสิ่งที่ได้มาทดแทน คือ ประสบการณ์
ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราควรกระตุ้นเซลล์สมองและร่างกาย ตั้งแต่อายุ 40 ปี เพื่อรักษาความฟิต รักษาร่างกายให้สมบูรณ์ที่สุด
2. เมื่อถึงยอดเขาแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวลงจากเขา
คนทั่วไป average population เมื่ออายุย่างเข้าช่วง 40 ปี จะเริ่มรู้สึกว่า เหนื่อยง่ายขึ้น กำลังวังชาลดน้อยลงแบบทวีคูณ นั่นคือ สุขภาพจะเริ่มถดถอยลงเรื่อยๆ (เส้น curve สีดำในรูป)
ยิ่งพอถึงอายุ 60 ปี เส้นโค้งเริ่มดิ่งลง ยิ่งผ่านอายุ 70 ปี เส้นดิ่งลงชันมาก เฉลี่ยอายุอยู่ได้ถึง 70 ปลาย หรือ 80 ต้น แต่อยู่ด้วยความไม่ฟิต อยู่แบบต้องใช้ไม้เท้า นั่งรถเข็น มีโรค NCD เป็นโรคประจำตัว มีของแถมเป็นอัลไซเมอร์หรือพาร์คินสัน หรือบางรายหนักถึงขั้นนอนติดเตียง รอวันหมดสถาพ
3. มาเเข็งแรงแบบนักกีฬา master altheletes กัน
แต่ถ้าเราเริ่มดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพ รักษาความฟิตไว้ได้แบบนักกีฬาสมัครเล่น ถึงแม้จะอายุ 50 หรือ 60 ปี ก็ยังคงมีสมรรถภาพที่แข็งแรงได้ใกล้เคียงกับช่วงอายุ 40 ปี ถึงความฟิตอาจจะตกไปบ้าง ก็เป็นลักษณะค่อยๆลง เหมือนลงเนินซึม (เส้น curve สีเทา)
และคนที่ยังคงสมรรถภาพได้ดีถึงอายุ 70 ก็มักจะรักษาได้ต่อถึงอายุ 80 ปลาย แล้วถึงจะดิ่งลงเนิน ไปถึงบทสุดท้ายของชีวิตที่อายุขัย 90 ต้น
4. อยู่ไปนานๆ ไม่ใช่ว่าจะดีนะ 😞
ถูกต้องเลย ถ้าอยู่แบบคนไม่ฟิต อยู่แบบต้องกินยาวันละกำมือ อยู่แบบต้องเข้า รพ.อยู่เป็นระยะๆ และอยู่แบบต้องพึ่งพาคนอื่น อยู่แบบนี้คงไม่ดีแน่
แต่ถ้าเราอยู่ด้วยร่างกายที่แข็งแรงแบบนักกีฬาสมัครเล่น แข็งแรงพอที่จะท่องเที่ยวไปไหนมาไหนได้ตามใจต้องการ หรือทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ด้วยตัวเอง ใครๆก็ปรารถนาอย่างนี้มิใช่หรือ
5. ”เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย” ไม่มีใครหนีพ้น
จริงอยู่ว่าเราเลือก ’เกิด’ ไม่ได้ บังคับให้ไม่ ’แก่’ ไม่ได้ เเละเราต้อง ’ตาย’ ทุกคน แต่เราพอจะเขียนบทสุดท้ายของชีวิตเราเองได้นะ เลือกให้ตายอย่างสงบ เลือกให้มีช่วงระยะเวลา ’เจ็บ’ สั้นที่สุด เจ็บป่วยน้อยที่สุด หรือไม่เจ็บป่วยเลยยิ่งดี คือ ทำช่วง compressed morbidity ในรูปให้แคบที่สุด แบบว่าวันนี้ยังเดินวิ่งเล่นได้ แล้วคืนนี้นอนหลับแบบไม่ตื่นไปเลย
เราไม่ได้ต้องการอายุยืนยาวมากมาย แต่เราต้องการคุณภาพที่ดีของชีวิตในช่วงสุดท้าย เดินได้, วิ่งได้, ไม่พึ่งไม้เท้าหรือรถเข็น, ไม่นอนติดเตียง เราจะตายตอนอายุ 65 ปีก็ได้ แต่ขอว่าตอนอายุ 64.9 ปี ยังวิ่งได้อยู่ แฮ่ๆ
ส่วนจะมีวิธี keep fit อย่างไร เพื่อที่จะหาตัวช่วยในการดัน health-span ออกไปทางด้านขวา เพื่อว่าเราจะมีสุขภาพดีไปให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เรื่องสำคัญมี 4 เรื่องหลักๆ คือ
~ ทำจิตใจไม่ให้เครียด
~ พักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่
~ กินอาหารที่ถูกต้อง
~ ออกกำลังกายให้เหมาะสม
ส่วนรายละเอียดทั้งสี่เรื่อง จะทำอย่างไร ไว้ค่อยๆอ่าน ค่อยๆเล่าในลำดับต่อไป แต่ตอนนี้ ลุงขอฉายภาพจุดหมายปลายทางกันก่อนว่า เราอยากจะเลือกใช้ช่วงชีวิตขาลงจากภูเขาแบบไหน
.
Cr รูปจากเพจ ยกร
.
โฆษณา