ทำไมผู้ชาย ต้องให้แฟนกินกล้วย
ความสุขทางใจ ที่ท่านชายส่วนใหญ่ต่างถวิลหา และเรียกร้องจากคนรัก ขืนขัดใจ เป็นอันต้องกระฟัด กระเฟียดทุกที นั่นคือกิจกรรมเซ็กซ์ ที่เรียกว่า Oral พูดกันให้จำเพาะ เจาะจงลงไปอีก ก็คือ Smoke ทว่าเรื่องนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ NO SMOKING AREA แต่อย่างใด
เล่าถึงประวัติความเป็นมา ของท่าบริหารกล้ามเนื้อเชิงกรามนี้ เกิดขึ้นมา นาน-นม เป็นพันปีแล้ว พิสูจน์ได้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เอกสารร้องเรียนที่กล่าวถึง การล่วงละเมิดงานด้านบริการ เรื่องการสอดใส่กัญชาภายในที่ลับ รวมถึงประเด็นเพศสัมพันธ์ ผ่านช่องว่างใต้จมูก
คนส่วนใหญ่ต่างเข้าใจว่า ออรัลเซ็กซ์ พึ่งจะเป็นที่นิยม ก็ทศวรรษที่ 1970 ซึ่งเป็นช่วงการถือกำเนิด ของหนังผู้ใหญ่เด็กห้ามดู แน่นอนว่าหนึ่งในซีนหลัก นอกจากฉากฟันแทง เลือดสีไม่แดงพุ่งปรี๊ดแล้ว ฉากเป่าปี่ ก็เป็นฉาก "ของมันต้องมี" ควบคู่กันด้วย แม้ว่าปี่ประเภทนี้ จะไม่มีเสียงก็ตาม
หลักฐานชิ้นหนึ่งถูกตีพิมพ์ โดยสำนักพิมพ์ดิอินดีเพ็นเดนต์ ระบุว่า นักโบราณคดีค้นพบโรงอาบน้ำ ตกแต่งด้วยภาพวาดฝาผนังปูนเปียก เล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเพศศึกษา ที่มีเส้นบาง ๆ ของราคะกั้นอยู่ อันมีท่วงท่าประกอบ ทำนองไม่ต้อง ที่จะทำให้เราเข้าใจถึง วิถีแห่งกล้วยน้ำว้าอย่างแท้จริง
ต่อมาในช่วงยุคกลาง มีจารีตประเภณีที่ห้าม การใช้ปากทำรัก หรือ การทำออรัลเซ็กซ์ เพื่อให้คนรักไปถึงฝั่งฝัน รวมทั้งท่วงท่าใด ๆ ที่ผิดแปลกไปจากท่า “มิชชันนารี” ถือเป็นการกระทำ ที่นำมาสู่ผลแห่งบาป ซึ่งก็อีกนั่นแหละ เราคงไม่รู้หรอก ว่ามีใครแอบทำบาปกันเยอะขนาดไหน
สิ่งที่ขัดแย้งต่อจารีต ก็ยังปรากฎในเวลาไล่เลี่ย นั่นคือ การพบหลักฐานจำนวนมากในรูปแบบของ พระคัมภีร์สมาโทษ โดยโอดอนเนลล์ ที่ระบุการปลงอาบัติ ด้วยวิธีสารภาพบาป รูปแบบต่าง ๆ เช่น การปลงอาบัติ 4 ปี โดยเลียโยนี หรือ ปลงอาบัติ 5 ปี โดยการอมลึงค์
แม้ว่าปัจจุบัน การทำ ออรัลเซ็กซ์ จะเป็นที่นิยมในวงกว้าง แต่ในประเทศยูกันดาแล้ว เรื่องนี้ กลายเป็นการปฎิบัติ ที่ขัดต่อกฎหมาย นายโยเวรี มูเซเวนี ประธานาธิบดียูกันดา สั่งห้ามการด้วบ ด้วบ แฮ่ก ๆ.. โดยให้เหตุผลว่า ปากมีไว้สำหรับรับประทานอาหารเท่านั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อของต่ำ อย่างการสำเร็จความใคร่แต่อย่างใด พร้อมกับได้ตำหนิ นานาประเทศ ที่พยายามชี้ทางผิด ให้แก่ประชาชนชาวยูกันดา
นอกจากนี้ ท่านผู้นำมูเซเวนี ยังได้ลงนามในกฎหมาย ต่อต้านรักร่วมเพศ ในปี 2557 ซึ่งโทษของพฤติกรรมรักร่วมเพศนั้น จะถูกจองจำไปตลอดชีวิต หากไม่เข้าไปรายงานตัวกับรัฐบาล เพื่อยอมรับสถานะภาพของตน
จากงานวิจัยในกลุ่มตัวอย่าง ของผู้ชายจำนวน 300 คน พบว่าชื่นชอบกิจกรรมเล่นน้ำลายนี้ถึง 97% เหตุผลหลัก ๆ ที่ท่านชายหลงไหล เป็นเพราะ ความสบาย ไม่สิ้นเปลืองพลังงาน มองดูแล้วรู้สึกได้อารมณ์ ได้ความเป็นใหญ่ เสมือนเป็นผู้มีอำนาจ การเป็นผู้เลือก และได้เป็นผู้กำกับไปในตัว
ในส่วนของข้อดี ทีมนักวิจัยพบว่า มันเป็นกิจกรรมที่ดี มีความสนุก ตื่นเต้น มีรสชาติ สามารถลดความเครียดลง กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ อีกทั้งยังทำให้ถึงจุดสุดยอดง่ายขึ้นกว่าเดิม นี่ยังไม่รวมถึง ช่วยแก้ภาวะนกเขาไม่ขัน หรืออาการแข็งตัวช้า ในกลุ่มคนที่ค่อนข้างมีอายุ
ประโยชน์ที่พบได้โดยตรงเลย คือ ป้องกันการตั้งครรภ์ อีกทั้งการศึกษายังพบว่า การกลืนกินน้ำอสุจิ ช่วยลดการเกิดภูมิต้านทานต่ออสุจิ ทำให้ลดโอกาสการแท้งลูก และครรภ์เป็นพิษ ของเหลวที่ว่านี้ ประกอบไปด้วย กรดอะมิโนและโปรตีน น้ำตาลประเภทฟรุกโตสและกลูโคส แร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ซิงค์ แคลเซียม วิตามินซี
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีสารอาหารมากมาย แต่แพทย์ก็ไม่แนะนำให้กลืนมันเข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากมันอาจจะปนเปื้อนเชื้อโรค ที่ติดมาในช่วงกิจกรรมเข้าจังหวะ และมันก็ไม่ได้มีคุณค่าสำคัญ ในด้านโภชนาการ รวมไปถึง สิ่งเหล่านี้ไม่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล
สำหรับข้อเสีย ของการทำออรัลเซ็กซ์ จะมาในรูปแบบของกลิ่น ซึ่งภาวะกลิ่นของแต่ละคนแตกต่างกันไป ตามพันธุกรรม อาหารที่บริโภค และสุขอนามัย รวมทั้งมีโอกาสติดเชื้อโรคตัวร้ายจากมังกรน้อย ติดเชื้อรา ติดเชื้อบิด ไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี และพยาธิลำไส้
มีความเสี่ยง ที่จะติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เอชพีวี หูดหงอนไก่ ที่สำคัญคือ โรคเอดส์ โดยโอกาสติดโรคเอดส์จากการกินกล้วยน้ำว้า (บางคนอาจเป็นกล้วยไข่) มีโอกาสเสี่ยง 0.04% ถึงจะน้อยแต่ก็ยังเสี่ยง
เซ็กซ์ที่เรียกว่า โอษฐ์กาม ตามนิยามของไทยนั้น ยังมีโอกาสก่อเกิดมะเร็งปาก ลำคอ หลอดลม จากการติดเชื้อไวรัส HPV โดยเฉพาะ มะเร็งปาก และลำคอ พบได้กว่าร้อยละ 50 จากโรคมะเร็งทั้งหมด
อ้างอิงนิตยสารทางการแพทย์ชื่อ New England Journal รายงานว่า ร้อยละ 50 ของมะเร็งในช่องปาก เกี่ยวข้องกับไวรัส HPV ส่วนมากมาจากสาเหตุการกินกล้วย และหากกินกล้วยตั้งแต่ 5 คน เอ้ย .. !!! 5 ลูกขึ้นไปโดยไม่ป้องกัน ก็จะมีโอกาสติดเชื้อ มากกว่าคนปกติ 9 เท่า อันจะนำมาซึ่งมะเร็งทอนซิล และมะเร็งลิ้น
สุดท้าย ก่อนจะท้ายสุด แพทย์ พยาบาล คุณหมอ และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระบุว่า ก่อนจะใช้ท่า บริหารกล้ามเนื้อช่องปาก ควรป้องกันด้วยการสวมถุงยาง เพื่อป้องกันเชื้อโรค และสุขอนามัยที่ถูกต้อง ตามหลักสากล .. (ถามจริง ???)
ข้ออภัยหากใช้คำกล่าวที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาในทางลบแต่อย่างใด
กดไลค์หากถูกใจ แชร์หากเห็นว่ามีประโยชน์ คอมเมนท์เพื่อแนะนำติชม
Blockdit : https://www.blockdit.com/topranking
Facebook : https://www.facebook.com/TopRankingFB
Youtube : http://bit.ly/3bY1Mwz
Twitter : https://twitter.com/T0pRanking
- 7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
