40 ข้อคิดที่ได้จากหนังสือ “คิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น”
.
.
สุดยอดหนังสือในตำนานที่ใครต่างก็บอกว่าดี
ซึ่งถ่ายทอดแนวคิดในการทำงานที่วิจัยแล้วว่า “เจ๋ง” ที่สุด
กับการคิดแบบยิวที่รอบคอบ ละเอียด มีชั้นเชิง
และการลงมือทำแบบญี่ปุ่นที่โคตรจะเนี้ยบ
ตกผลึกเป็นแนวคิดในการทำงานที่สมบูรณ์แบบ
โดยเราจะหยิบ “เรื่องเก่ามาเล่าใหม่”
ในมุมที่กระชับกว่าเดิม
ใครอยากได้แนวคิดดี ๆ สรุปมาแล้วในโพสต์นี้ !
.
.
1.คุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการเศรษฐีที่มีความสุข
คือ ความอยากรู้ อยากเห็น อยากลองอะไรใหม่ ๆ เสมอ
ความมุ่งมั่นที่จะทำตามความฝันให้เป็นจริง
ความรักในพวกพ้อง คนรอบข้าง และครอบครัว
ความมีศรัทรา เชื่อมั่นในสิ่งที่ตนกำลังทำ
.
.
2.คนที่เป็นเศรษฐีมักตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
ว่าจะเป็นอิสระจากเงิน โดยไม่ยึดติดกับมัน
แต่ให้ค่ากับการทำงานที่รักอย่างตั้งใจ
ส่วนคนที่เอาแต่ภาวนาว่าอยากเป็นเศรษฐี
คนนั้นจะไม่ได้เป็น เพราะเห็นได้ชัดว่า
ยังตกเป็นทาสของเงินอยู่
.
.
3.การจะเป็นเศรษฐี ต้องทำอะไรมากกว่าคนอื่น
ต้องมีการวางแผน ต้องมีการทำตามแผน
ที่วางไว้ให้ได้ อุปสรรคต่าง ๆ ที่เข้ามา
จะเป็นตัวบ่งบอกว่าคุณเหมาะสมหรือไม่
และกำหนดว่าเราจะเติบโตไปในทิศทางไหน
.
.
4.เมื่อเจอปัญหา….
คุณต้องมองทุกอย่างตามความเป็นจริง
ให้มองที่เนื้อแท้ของมัน ไม่ใช่แค่เปลือกนอก
ซึ่งจะสอนให้คุณกล้าเผชิญกับปัญหา
ไม่มองข้ามและเดินหนีอยู่ตลอด
.
.
5.ทำไมบางคนทำงานหนักแต่ได้เงินน้อย
ทำไมบางคนทำงานน้อยแต่ได้เงินเยอะ
คำตอบคือ คุณภาพและคุณค่าของงาน
เป็นสิ่งที่สร้างเงื่อนไขค่าตอบแทนที่สูงขึ้นต่างหาก
คุณไม่จำเป็นต้องทำงานหลังขดหลังแข็ง
แต่ทำให้เป็นก็พอ
.
.
6.คนทั่วไปมักคิดแต่จะหาเงิน คิดแต่จะทำงาน
และคิดวนเวียนแต่เรื่องของตัวเอง
สุดท้ายก็จบที่ตัวเอง ไม่ได้สร้างคุณค่าอะไรให้กับสังคม
.
.
7.แต่คนจะเป็นเศรษฐี มักสร้างสิ่งหนึ่งที่เอื้อประโยชน์
และสร้างความสุขให้กับคนอื่นอยู่เสมอ
เพราะจะช่วยให้เกิด Community
ที่สนับสนุนกันและกัน จนเกิดรายได้หมุนเวียนไม่มีที่สุด
.
.
8.เมื่อได้เจองานที่ชอบและเรามีความสุขที่จะทำมัน
ถึงขั้นที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับมันได้
นั่นคือ จุดเริ่มต้นของความสำเร็จแล้ว
.
.
9.การได้ทำในสิ่งที่ชอบจะเพิ่มพลังบวก
และ Energy ในการทำงานให้กับคุณ
เมื่อมีพลังบวกในตัวเยอะมากพอ
มันจะนำพาเราไปกับคนมากมายในสายงาน
ที่จะมอบโอกาสดี ๆ ให้กับคุณอย่างแน่นอน
.
.
10.หากใครยังไม่เจอสิ่งที่ชอบ
คุณไม่จำเป็นต้องรอมัน
แต่ให้รักและเต็มที่กับสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้
และมันจะส่งผลดีเอง สิ่งที่ใช่ก็จะเกิดตามมา
.
.
11.กฎ 4 ข้อของคนที่ดึงดูดความมั่งคั่ง คือ
พึงพอใจในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน
รู้จักการออมเงิน
สร้างกระแสเงินให้เติบโต
และผูกมิตรกับคนรอบข้างด้วยใจ
.
.
12.คนทื่มีไหวพริบสูง มักมองทุกอย่างขาด
เพราะรู้จักคาดการณ์กระแสสังคม กระแสการเงิน
โดยอาศัยสัญชาตญาณที่กลั่นมาจากประสบการณ์
บวกกับทักษะการอ่านและความช่างสังเกตเป็นเลิศ
.
.
13.ชีวิตจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับมิตรที่คบหา
คุณจะต้องมองคนตลอดเวลา สังเกตให้มาก ๆ
ในการสร้างทีมงาน คุณต้องเก็ตและมองให้ออกว่า
ใครถนัดงานอะไร ทำงานไหนได้ดี
เพื่อวาง Position ให้ถูกต้อง
.
.
14.คุณต้องตระหนักถึงพลังและความคิดทางอารมณ์
คิดอะไรออก ให้โน้ตลงไปในกระดาษ
แล้วจดจ่อกับมันให้มาก ๆ แล้วโลกจะดึงดูด
สิ่งนั้นมาหาตัวเราเอง
.
.
15.การกล้าที่จะถูกเกลียดเป็นเรื่องสำคัญ
ถ้าอยากมีชีวิตที่ดี ต้องโฟกัสแต่เรื่องดี ๆ
และให้คุณค่ากับเรา เพราะสิ่งที่คิด
มีผลต่อการกระทำและจะเกิดในชีวิตต่อ ๆ ไป
.
.
16.เคลียร์กับตัวเองให้ชัดว่า สิ่งไหนดี
สิ่งไหนกำลังกวนใจเราอยู่ ความคิดที่ดี ๆ
เก็บไว้ ส่วนความคิดที่แย่ให้ตัดทิ้ง
แล้วชีวิตจะเดินไปข้างหน้า ไม่มีการถอยหลัง
.
.
17.พนักงานขายที่ดี ต้องมีความเป็น “นักขาย”
ไม่ใช่สักแต่จะขาย แต่ต้องให้คุณค่ากับลูกค้าด้วย
เมื่อลูกค้าประทับใจ จะเกิดการบอกต่ออย่างไม่สิ้นสุด
.
.
18.เทคนิคในการขายให้สำเร็จ คือ
1.มีความมั่นใจว่าของของเราจะขายได้
2.ทำตัวให้ลูกค้าไว้วางใจและเชื่อใจ
3.พูดให้เห็นภาพ มีการสร้างอารมณ์ร่วม
4.เข้าใจสินค้าและบริการของตัวเอง
5.มีชั้นเชิงในการปิดการขาย
.
.
19.“คำพูด” เป็นตัวกุมชะตาชีวิตของเรา
จะทำธุรกิจสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับมัน
ให้พูดแต่เรื่องบวก เรื่องที่มีประโยชน์
ควรลดคำพูดติดปากและอคติที่เคยมีต่อผู้อื่น
.
.
20.การพูดถือเป็นเส้นทางที่จะพาเราไปสู่ความสำเร็จ
ฉะนั้น อย่าพูดอะไรที่ไม่จริงใจและ
ไม่ใช่ตัวตนของเรา ต้องถ่ายทอด
ให้ออกมาเป็นตัวเองที่สุด เมื่อคุณเชื่อในตัวเอง
คนอื่นจะเชื่อสิ่งที่คุณกำลังสื่อสาร
.
.
21.สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่คนประสบความสำเร็จ
มักพูดถึงคือ “การเข้าไปเป็นคนที่คนอื่นจะไว้ใจได้”
เมื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ทุกอย่างจะดีขึ้นตามมา
.
.
22.ความปรารถนาดี คือ เคล็ดลับในการทำธุรกิจให้สำเร็จ
เมื่อเราเอื้อประโยชน์ที่ดีให้กับผู้คน จะเกิดเป็นมิตรภาพ
เมื่อมิตรภาพโตขึ้นจะกลายเป็น Connection
ขนาดใหญ่ที่คนในนั้นเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
.
.
23.คนที่ประสบความสำเร็จ มักขอบคุณคนที่อยู่ข้าง ๆ
เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ให้เกิดการสนับสนุนกันต่อไปเรื่อย ๆ
.
.
24.มิตรภาพอยู่เหนือผลกำไรและขาดทุน
คนมีมิตรภาพที่ดี ถือว่าได้กำไรชีวิตที่สำคัญที่สุดไปแล้ว
.
.
25.คนที่รู้จักการวางสมดุลของเงิน
และมีทัศนคติที่ดีในการใช้เงิน
จะบริหารเงินให้งอกเงยและมีความสุขได้มากกว่า
เช่น ฉันจะนำเงินส่วนนี้ไปลงทุน
แต่ไม่กระทบชีวิตประจำวัน
ถ้าลงทุนแล้วได้ผล เงินก็เติบโต
แต่ถ้าลงทุนแล้วพังก็ไม่กระทบอะไร
ต่างกับอีกคนที่เทหมดหน้าตัก ตอนได้ก็ได้
แต่ตอนพังคือพังหมด
.
.
26.ธุรกิจคือ การนำเสนอสินค้าที่มีคุณค่ามาก
ให้ลูกค้ายอมจ่าย. เราต้องให้ความสำคัญ
กับสินค้าและการดูแลลูกค้า เพราะยิ่งทำให้
เขาพอใจมากเท่าไร เราจะยิ่งได้ค่าตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น
.
.
27.ตั้งเป้าให้เหมือนขอพรวิเศษจาก ‘อะลาดิน’
ลิสต์ทุกอย่างที่คิดว่าเป็นไปได้และไม่น่าเป็นไปได้
แล้วใช้ Passion เป็นตัวขับเคลื่อน
จงฝันให้ใหญ่ ไม่แน่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อาจเป็นไปได้เข้าสักวัน
.
.
28.การรู้จักขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเป็นเรื่องดี
อย่าทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว
กว่าคนที่ประสบความสำเร็จจะก้าวมาได้ในระดับนี้
ต้องศึกษาความรู้กันมาเป็นสิบปี ซึ่งทางลัดที่ดีที่สุดก็คือ
การหาคนปรึกษาและให้ความรู้ที่ถูกต้องนั่นเอง
.
.
29.ตัวชี้วัดของคนที่ประสบความสำเร็จกับคนทั่วไป
วัดกันที่ความล้มเหลวและพลังใจในการลุกขึ้นสู้
มิใช่วัดกันที่การทำงานหนักตามที่ใครบอกมา
.
.
30.ชีวิตจะดีหรือร้าย ขึ้นอยู่กับการตีความ
สิ่งที่เกิดขึ้นตามความจริง
ถ้าคุณตีความว่าปัญหานี้แก้ไม่ได้แน่
คุณจะแก้มันไม่ได้ แต่ถ้าเชื่อว่าปัญหาใหญ่
รอบนี้เราแก้ได้ คุณจะแก้มันได้สักวัน
.
.
31.ขณะเดียวกัน ชีวิตก็ต้องขับเคลื่อนด้วยความฝัน
หากแต่เป็นฝันในชีวิตความเป็นจริง
ที่ต้องอาศัยทั้งแรงกายและแรงใจ จึงจะทำสำเร็จได้
.
.
32.“อย่าลืมที่จะมีความฝัน
อย่าลืมความฝันของตัวเอง
พลังของความฝัน สามารถสร้างบุคคลที่
ยิ่งใหญ่ในอนาคตได้”
.
.
33.เวลาเจออุปสรรคที่ยากเกินความสามารถ
สิ่งที่จะช่วยให้คุณก้าวผ่านมันไปได้
คือ การไม่ยึดติดกับกรอบและต้องทลายกำแพงในใจให้ได้
.
.
34.คนที่จะประสบความสำเร็จ
มักเป็นคนที่มีเป้าหมายในชีวิต
ถ้าวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าเป้าหมายนั้นคืออะไร
สุดท้ายคุณจะสับสนในชีวิตและไปไม่สุดสักทาง
.
.
35.ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลายคนกลัว
พวกเขามักยึดติด แม้จะต้องใช้ชีวิตที่ไม่มี
ความสุขเลยก็ตาม เพียงเพราะไม่อยาก
ก้าวออกจาก Comfort Zone เท่านั้นเอง
.
.
36.แต่คนที่มีความสุขจริง ๆ มักชอบการเปลี่ยนแปลง
เมื่อใดที่เขาเจอทางที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขมากขึ้น
พวกเขาจะ Move on ไปหามันทันที
.
.
37.“ความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดในการตัดสินใจก็คือ
การไม่ตัดสินใจทำอะไรเลย”
.
.
38.กับดักอันตรายที่สุดที่หลายคนต้องยอมก็คือ
การคิดแล้วคิดอีก ยืดระยะเวลาการลงมือทำออกไปเรื่อย ๆ
จนสุดท้ายก็ไม่ได้ลงมือทำอะไร ความสำเร็จก็ไม่เกิด
.
.
39.คนที่ประสบความสำเร็จเป็น
คนกล้าตัดสินใจและลงมือทำ
พวกเขาจะตัดสินใจอย่างแน่วแน่
และใช้สัญชาตญาณกับความรู้ช่วยในการตัดสินใจ
.
.
40.การประสบความสำเร็จอย่างมีความสุข
ประกอบด้วยกุญแจ 3 ดอกคือ
“รู้จักตัวเอง ค้นหาสิ่งที่ชอบ
รักตัวเองและคนรอบข้างให้มาก”
.
.
นี่คือเหล่าสุดยอดแนวคิดของหนังสือชุดนี้
ที่เชื่อเหลือเกินว่า ทุกคนจะสามารถนำไปปรับใช้กันได้
และทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จแบบพวกเขา
“คิดให้ลึก ฝันให้ไกล แล้วทำมันให้เต็มที่”
ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน