11 มี.ค. 2021 เวลา 17:28 • ไลฟ์สไตล์
เส้นทางสู่การเป็นนักร้อง (สมัครเล่น)
เพลงอาจมีหลายคีย์ แต่นักร้องคนนี้ ไม่มีหลายใจ.. ฮิ้ว
ภาพจาก Pixabay
ใครจะเชื่อว่าเสียง แบบเป็ด ๆ ของอิชั้น จะได้มีโอกาสขึ้นเวทีมาแล้วหลายร้อยงาน โง้ววว..
เคยฝันอยากเป็นนักร้องมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนนั้นก็หัดร้องเพลงตามวิทยุทรานซิสเตอร์ เพราะชอบดูลิเก (เกี่ยวกันมั้ยคะ) คือลิเก จะมีช่วงที่เขาจะร้องเพลงบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงลูกทุ่ง ซึ่งอิชั้นหลงใหลมาก..
ความที่เป็นเด็กบ้านนอก เกิดสุพรรณบุรี ชอบไปงานวัดบ่อย ๆ กับยายทวด (คงเข้าใจละนะ ว่าทำไมถึงชอบดูลิเก 😉)
จะว่าไปแล้ว มีหลายคนกล่าวว่า คนสุพรรณร้องเพลงเพราะ จริงมั้ยน้อ ?
เข้าเรื่องแล้วกัน ยัยคนนี้ชอบเวิ่นเว้อยาว..
มาวันหนึ่ง ชีวิตเปลี่ยนตอนที่ไปอยู่กรุงเทพ (จริง ๆ เป็นเด็กเทพ ตั้งแต่ 2 ขวบ) เป็นสาวพาณิชย์ ปวส. ได้มีโอกาสไปเป็น Staff Cheer โดยไม่ได้ตั้งใจเพราะตอนนั้น ทีมสีฟ้ากำลังมีปัญหา คือทีมเชียร์ไม่อินกับประธานเชียร์
ด้วยความกล้าหาญ เพื่อนก็ถีบอิชั้นออกมาหน้าอัฒจันทร์ "เฮ้ย เล็กเมิงออกไปช่วยเขาหน่อยเหอะ" (ขออภัยใช้ศัพท์สูงนิสนึง) เพื่อนคงเห็นว่าเรามีความสามารถ ฮ่า ๆ ๆ เอาจริง ๆ เพลงที่เขาซ้อมกัน อิชั้นก็จำไม่ได้สักเพลง จะให้ออกมานำร้องเพลงอะไรว้าาา
ตัดสินใจเอาเพลงที่จำได้ ส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงแปลง ทะลึ่งตึงตัง ชื่อเพลงบีบ ทำนองเพลงของ Bee Gees เหมือนเป็นการร้องแล้วให้ทีมเชียร์โชว์มือ ร้องไป บีบมือไป ทางคู่ต่อสู้ที่กำลังแข่งขันบาสเก็ตบอลชาย เสมือนว่าข่มขู่ด้วยการบีบไข่พวกเขาเหล่านั้นให้แพ้ทาง ถามว่าเพลงร้องยังไง เอาเป็นว่า ไม่มีค่อยมีใครกล้านำร้องแล้วกัน 🤣
ปรากฎว่า ถูกใจทีมเชียร์ทั้งอัฒจันทร์ คงจะนึกสนุกตาม นังเล็กก็สรรหาเพลงแปลงมาเล่นต่อจนเลิก เป็นที่ฮือฮา และเป็นที่รู้จักทั้งวิทยาลัย (ดังในทางดีแท้)
หลังจากนั้นเชื่อหรือไม่ว่า มีเพื่อนผู้ชายในห้อง เห็นแววอิชั้น ติดต่อให้ไปเป็นนักร้องประจำวงของครอบครัว ซึ่งตัวเพื่อนเล่นดนตรีเป็นมือเบสในวง ผู้อ่านคงงง ว่าคือไรว้าา
เหตุผลเพื่อนบอกว่า "เฮ้ย ตรูว่าเมิงได้ กล้าดี" เท่านี้ค่ะท่านผู้อ่าน ถามว่าในใจอิชั้น โหย อยากกระโดดให้ตัวลอยเลยค่ะ แต่โดดในใจนะคะ อิ ๆ
ภาพจาก ผู้เขียน ตอนอวบ
วันที่ไป Audition มีเพื่อนสนิทไปด้วย ซึ่งเพื่อนคนนี้ต้องบอกเลยว่า เธอมีพรสวรรค์มาก เธอช่างมีน้ำเสียงอันไพเราะ ร้องเพลงดีมาก ชาติที่แล้วทำบุญด้วยอะไรมิทราบ เสมือนว่ามีนกแก้ว อยู่ในลำคอ
กลับมาที่อิชั้น มีแต่พรแสวง พรสวรรค์หามีไม่ แต่มั่นหน้าพูดไปกับหัวหน้าวงหลังจบการ Audition ว่า ถ้าพี่เลือกต้องเลือก 2 คนนะ เลือกคนเดียวไม่ร้อง เสมือนว่าเขาต้องเลือกอิชั้นแน่นอน ฮ่า ๆ ๆ นึกถึงทีไร ก็ขำทุกที
เอาจริง ๆ เขาอยากได้เพื่อนของอิชั้นคนเดียว แต่สรุปว่า หัวหน้าวงก็ต้องกล้ำกลืนรับอิชั้นไปเป็นนักร้อง โดยไม่รู้จะปฎิเสธอย่างไร
วงดนตรีวงนี้ไม่รับงานประจำที่ไหน เพราะทุกคนมีงานประจำ และเป็นนักศึกษา แต่รับงานเป็นครั้ง ๆ ไป เช่น งานเลี้ยงบริษัทฯ งานบวช งานแต่ง งานศพ งานเรือ ยันงานวัด ฯลฯ รวมแล้วน่าจะเกินร้อยครั้ง
แม้ว่าจะไม่มีพรสวรรค์ แต่อิชั้นขยันหมั่นเพียรซ้อมเพลงมากมาย ถ้าเทียบกับเพื่อนอีกคน เพราะนางร้องไพเราะอยู่แล้วไม่ต้องซ้อมเยอะ อิชั้นแทบจะกินนอนในห้องซ้อมเลยก็ว่าได้ เพราะเวลามีการรับงานครั้งนึง ต้องเตรียมแกะเพลงใหม่ (ภาษานักดนตรี คือไปฟังต้นฉบับ ทั้งเล่นดนตรีและร้องให้ถูกเหมือนต้นฉบับ) เนื้อร้องก็ต้องจดจำให้ได้ ไม่สามารถมาดูเนื้อร้องเหมือนปัจจุบัน
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น อันนี้ใช้ได้จริง ด้วยความตั้งใจ ขยันและทำแบบมีความสุข ทำให้การร้องเพลงของอิชั้นพัฒนาดีขึ้นเรื่อย ๆ ร้องได้ทุกแนว ลูกทุ่ง ลูกกรุง สตริง สากล ยันภาษาที่เราแปลไม่ได้ (ฮ่า ๆ ๆ ) จนวันนึงก็ได้รับการยอมรับจากทุกคนในวง และสุดท้ายก็เหลือนักร้องหญิงคนนี้คนเดียวในวง
แค่อยากจะบอกผู้อ่านว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เราอยากเป็น สามารถเป็นได้ เกิดจากความตั้งใจ ทำอย่างเต็มที่ รักที่จะทำและทำอย่างมีความสุข เล็กเชื่อว่าทุกคนทำได้ค่ะ
เขียนโดย แม่เล็กเวิ่นเว้อ
แม่บ้านลูก 2 ผู้อาศัยอยู่ในเบลเยี่ยม พูดเยอะจนได้ฉายาเวิ่นเว้อ
โฆษณา