จอมซ่าแห่งย่านวงเวียนเล็ก ย้อนกลับไปถึงมหาชัยอีกครั้งหนึ่งในตอนบ่ายจัด ! พอลงจากรถไฟ เขาก็จับสามล้อหนึ่งแรงคนดิ่งไปยังที่หมายอย่างไม่รอช้ามันเป็นเรือนชั้นเดียวหลังเล็ก ปลูกซุกอยู่ในแมกไม้ร่มรื่นค่อนข้างลับตาท้ายเขตวัด ซึ่งนักเลงเจ้าถิ่นยกให้เป็นที่พักพิงหลบซ่อนของคนหนีร้อนมาพึ่งเย็น หนุ่มสำอางก้าวขึ้นบันไดไม้สามสี่ชั้น สลัดรองเท้าทิ้งไว้ตรงระเบียงแคบๆ และสาวเท้าผ่านเข้าประตูพร้อม ๆกับที่สองจอมประลัยกัลป์ซึ่งนั่งอยู่ชิดผนังด้านในยันตัวลุกยืน ปุ๊ กรุงเกษม ขมวดคิ้วกังขา เมื่อกวาด สายตาสะดุดเข้ากับสำรับกับข้าวซึ่งยังไม่มีใครแตะต้อง ใสถาควางไว้ตรงมุมใกล้ ๆประตูแต่ยังไม่ทันได้ชักไช้ไต่ถาม ขาใหญ่บางลำภูก็ชิงเอ่ยชี้แจงเสียงขรึม
"เด็กวัดยกมาวางชักครู่ใหญ่ ๆนี่เอง ก็คงพรรคพวกของเอ็งน่ะแหละที่สั่งมันไว้ให้คอยเป็นธุระดูแลเรื่องอาหารการกิน"
ดาวดังฝั่งธนฯ พยักหน้าเนิบช้า
"ง้านเรอะ"
"ทางบ้านข้าว่าไงมั่ง ?"
"จะว่าไง ก็เป็นห่วงเป็นใยตามประสาพ่อแม่ไม่บ่นด่าเอ็งชักคำด้วยซ้ำ"
"ได้เงินมารึเปล่า ?"
"ได้ แม่เอ็งควักให้มาสองร้อย"
เอ่ยจบ เขาล้วงเงินจากกระเป๋าเสื้อยื่นให้อีกฝ่ายรับไปนับดูแล้วกระตุกหัวคิ้วขมวดย่นสุ่มเสียงขุ่นมัวขึ้นมาทันใด !
"ร้อยหกสิบสองบาท ไหงเหลือแค่นี้วะ ?"
หนุ่มสำอางยิ้มเก้อ ๆ
"ข้าแวะเข้าวังบูรพา กินโน่นกินนี่กะดูหนังรวมทั้งจ่ายค่ารถด้วย มันก็เลยพร่องไปมั่ง"
ประกายโทสะรอนแรงเจือแววอำมหิตน่าพรั่น โชนวายขึ้นในดวงตาเจ้าของฉายาระเบิดขวดอย่างปัจจุบันทันด่วน !
"ไอ้ปุ๊...!"
เขาค่ำรามลั่นด้วยความเดือดดาลสุดขีดเหวี่ยงเงินทิ้งกวัดมือขวาเข้าใต้ชายเสื้อ กระตุกมีดปลายแหลมเปลือยคมวาววับออกมาในฉับพลัน !
"อ๊ะ...!!"
ปุ๊ กรุงเกษม ผงะถอยหลังและหลุดอุทานตื่นเพริดด้วยคาดไม่ถึงและพร้อมกันนั้น เสือร้ายจากตรอกสาเกก็
ระเบิดเสียงกราดเกรี้ยวด้วยความโกรธแค้นจนขาด
สติ
"กูจะฆ่ามึง !!"
ขาดคำ เขาโผนเข้าแทงโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยนิด !
เกือบจะพริบตาเดียวกัน ร่างหนึ่งก็ถลันเข้ากั้นกลางอย่างฉับไว ! ไม่ใช่ใครอื่น ดำ เอ๊สโซ่ ! เขาฉวัดมือขวายันอกคู่ชี้ไว้พลางกระแทก
"ไม่เอานะ ! ปุ๊!!"
คนถือมีดถลึงตาวาวจ้า
"เอ็งหลีกไป !"
"ไม่ ! ถ้าเอ็งจะแทงปุ๊เจิด ต้องแทงข้าให้ล้มลงไปก่อน"
"อูวะ !"
"ข้าจำเป็นต้องป้องกันมัน เท่ากับที่ต้อง ป้องกันเอ็ง ปุ๊เจิดเป็นเพื่อนเรานะ"
"ไอ้ห่ะ ! ก็แม่งงเสือกเอาเงินข้าไปใช้ ทั้ง ๆที่รู้เต็มอกว่าเรากำลังเดือดร้อน"
"มันก็ไม่ใช่เงินมากมายอะไรนี่หว่า...แค่สามสี่สิบ เอ็งจะถึงกับฆ่าเพื่อนที่เคยร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันมาเชียวเรอะ ?"
ปุ๊ ระเบิดขวด สะอึกอึ้ง แววดุกระด้างโหดหินในดวงตาค่อย ๆอ่อนจางลคราลงทีละน้อยที่สุด เขาก็ระบายลมหายใจแผ่ว สบตาหนุ่มสำอางพลางเอ่ยเสียงอ่อน
"ข้ากำลังเครียดน่ะ กลุ้มด้วย ก็เลยหงุดหงิดง่าย โมโหร้ายไปหน่อย โทษที...เพื่อน !"
จบคำ เขาเหวี่ยงมีดที่หวิดจะได้ดื่มเลือดพวกเดียวกันปลิวเข้ามุมห้อง พร้อมกับเสียงถอนใจโล่งอกของคนหย่าศึก !