12 มี.ค. 2021 เวลา 01:30 • ข่าว
"ยะสุโอะ ทะคะมัตสึ" ผู้ไม่เคยหยุดค้นหาภรรยาตลอด 10 ปี
หลังสึนามิถล่มญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 ได้พรากเธอไปจากเขา
5
ความสูญเสียจากเหตุการณ์คลื่นยักสึนามิพัดถล่มทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น จากแผ่นดินไหวความรุ่นแรงขนาด 9.0 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 หรือ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นธรณีพิบัติครั้งที่รุนแรงที่สุดสุดในประวัติศาสตร์แดนอาทิตย์อุทัย และเป็น 1 ใน 5 แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดของโลกเท่าที่มีการบันทึกสมัยใหม่ ทำลายเมืองน้อยใหญ่ตามแนวชายฝั่งจนราบเป็นหน้ากลอง ทั้งฟูกุชิมะ มิยางิ อิวาเตะ และอิบาระกิ เป็นพื้นที่รับแรงปะทะจากคลื่นยักษ์โดยตรง โดยเฉพาะจังหวัดมิยางิ ซึ่งได้รับความเสียหายหนักและเผชิญคลื่นยักษ์ที่วัดความสูงมากที่สุดได้ถึง 40.5 เมตร มีผู้เสียชีวิตถึง 18,000 ราย และทำให้เกิดเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะไดอิจิ ระเบิดปล่อยสารกัมมันตรังสี จนประชาชนไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยในพื้นที่เดิมได้ แม้จะผ่านมานับสิบปีก็ตาม
3
คลื่นยักษ์ได้ทำลายเมืองโอนากาวะ ในจังหวัดมิยางิ จนราบคาบ
การที่ต้องพรากจากผู้เป็นที่รักไปโดยที่ไม่อาจล่วงรู้ชะตากรรมเลยว่าเขาหรือเธอจะเป็นอย่างไร แม้หากต้องตายไปก็ไม่อาจหาร่างพบนั้น เป็นสิ่งที่ทรมานหัวใจผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาชายที่ชื่อว่า “ยะสุโอะ ทะคะมัตสึ” วัย 64 ปี ออกตามหาภรรยาผู้เป็นที่รักที่ชื่อว่า “ยูโกะ” ซึ่งเวลานั้นอายุ 47 ปี ที่ต้องพลัดพรากจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์ในครั้งนั้น
1
ยะสุโอะ ทะคะมัตสึ และยูโกะ ภรรยา
ทั้งสองอาศัยอยู่ที่เมืองโอนากาวะ ในจังหวัดมิยางิ จุดปะทะกับคลื่นสึนามิที่รุนแรงโดยตรง เวลานั้นภรรยาของเขาขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคารแห่งหนึ่ง แต่ก็ไม่รอดพ้นคลื่นยักษ์ความสูงถึง 20 เมตรได้ เธอได้หายสาปสูญไปพร้อมกับกระแสน้ำ และไม่มีใครรู้ว่าร่างของเธอนั้นไปอยู่ที่ใด
8
ยะสุโอะผู้ที่ไม่เคยดำน้ำเลยมาตลอดชีวิต เขาได้เข้าคอร์สเรียนดำน้ำลึกในปี 2013 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกสัปดาห์เขาจะดำน้ำลัดเลาะตามแนวชายฝั่งของมหาสมุทรเพื่อตามหาร่างหรืออะไรก็ตามที่บ่งบอกว่าเป็นภรรยาอันเป็นที่รักของเขา แม้ว่ามันจะเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทรที่อาจไม่มีวันได้เจอเลยตลอดชีวิตของเขาก็ตาม
3
(บน) อาคารของธนาคารที่ยูโกะและพนักงานธนาคารขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อหนีคลื่นยักษ์ (ล่าง) อาคารที่ไม่สามารถต้านทางความแรงของคลื่นได้และถล่มลง
ไม่เพียงเท่านั้นยะสุโอะยังเข้าร่วมกับทีมนักประดาน้ำท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือภารกิจการค้นหาร่างผู้สูญหาย ที่เวลานี้ยังมีบุคคลที่ยังหาไม่พบอีกราว 3,000 คน จากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาตลอดหลายปี
“ผมดำดิ่งราวกับว่าผมจะได้พบเธอที่ไหนสักแห่ง และผมมักจะคิดว่าเธออาจจะอยู่ใกล้ๆ"
10
ในวันนั้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วข้อความสุดท้ายที่ยะสุโอะได้รับจากยูโกะคือ "คุณโอเคไหมฉันอยากกลับบ้าน"
6
และเช่นเดียวกับผู้เป็นสามีเขายังคงมุ่งมั่นที่จะทำตามความปรารถนาของภรรยาให้ได้
3
ยะสุโอะและทีมนักประดาน้ำท้องถิ่นที่ยังคงภารกิจค้นหาผู้สูยหายต่อไป
"ผมแน่ใจว่าเธอยังอยากกลับบ้าน ตราบเท่าที่ร่างกายของผมยังไหว แม้ว่าโอกาสที่จะได้พบเธอจะมีน้อยมาก ผมรู้ว่าเธอได้จากไปแล้ว แต่ผมไม่อยากให้เธอถูกทิ้งให้อยู่ใต้ทะเลเพียงลำพัง ผมจะหาเธอต่อไปจนกว่าจะพบ"
12
ต่อให้วันเวลาจะผ่านพ้นไปนานสักเพียงใด ความรักที่ชายคนหนึ่งซึ่งมีต่อภรรยาของเขาไม่เคยลดลง แม้เธอจะจากไปแล้ว แต่อย่างน้อยขอให้เขาได้พาเธอกลับมาสู่พื้นดิน แม้เป็นเพียงโครงกระดูกที่ไร้เนื้อหนังห่อหุ้ม แต่อย่างน้อยเขาก็จะทำเพื่อพาคนรักกลับมาให้ได้ และหวังว่าเขาจะทำตามความปรารถนาของเธอได้สำเร็จ
7
ต่อให้ต้องพลิกมหาสมุทรเพื่อตามหา เขาก็ยอมตราบใดที่ร่างกายยังไหว
โฆษณา