27 เม.ย. 2021 เวลา 23:09 • ศิลปะ & ออกแบบ
ความลับที่ซ่อนอยู่ในงานศิลปะ#004
ถ้าคุณเคยมีช่วงเวลาหนึ่งที่ต้องเผชิญหน้ากับภาพวาด หรือประติมากรรมบางอย่าง จู่ๆคุณก็รู้สึกคุ้นเคย ราวกับว่ามันแสดงออกถึงความรู้สึกซับซ้อนที่มีอยู่ในใจคุณมาตลอด แต่คุณกลับไม่สามารถบอกออกมาได้
และบุคคลที่สร้างงานศิลปะนี้ ไม่เคยอยู่ร่วมกับคุณ แต่พวกเขาและคุณกลับเชื่อมโยงถึงกัน
__นี่คือเสน่ห์ของงานศิลปะ__
ในโลกปัจจุบันสถานะของศิลปะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแม้ในปี 2021 เมื่อความอยู่รอดเป็นเรื่องน่ากังวล แต่ก็ยังมีผู้คนที่ใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่องานศิลปะ ความมหัศจรรย์ของศิลปะที่ดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วนเช่นนี้คืออะไร?
ในบทความนี้ผมจะลองมั่ว(อีกแล้ว)​เพื่อตีความผลงานศิลปะที่แพงสุดๆ จำนวนสิบชิ้น โดยตัดแบ่งเป็น 5 บทความนะครับ
ในปัจจุบัน ในความหมายดั้งเดิมพวกเขาไม่เพียงแต่ไม่น่าดูเท่านั้น บางคนยังแปลกและน่ากลัวอีกด้วย นั่นเป็นเพราะการพลิกผันของชีวิตศิลปิน การเดินทางทางจิตและการสะท้อนอารมณ์ในช่วงเวลานั้นทำให้ศิลปะเหล่านี้มีคุณค่าทางจิตวิญญาณที่ไม่เหมือนใคร จึงถ่ายทอดมันจากอารมณ์และความทรงจำที่ลึกซึ้งภายใต้พื้นผิวงานศิลปะที่ยอดเยี่ยม
นั่นคืองานศิลปะที่ เคลื่อนไหวได้ในหัวใจที่แตกสลาย....
กับ... ชิ้นที่..7
เปิดขายภาพ ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ถวัลย์ ดัชนี
เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์สู้โควิด-19 ในชื่อ “จตุรธาตุพิฆาตภัย”
1
จัดทำจำนวนทั้งสิ้น 500 ชุด
ในราคาที่จับจองได้ชุดละ 2,000 บาท
โดยใน 1 ชุดประกอบด้วยภาพสัตว์ 4 ภาพ
ได้แก่ นพสุบรรณ(ช้าง) ,กัณฐกะ(ม้า) ,
นันทวิสาล(กระทิง) และนิลกาลพยัคฆ์รา (เสือ)
จัดพิมพ์บนกระดาษเกรดพรีเมียมอย่างดี ขนาด A2 (42X59 ซ.ม.)
ไวรัสโควิด-19 ทำให้ ดอยธิเบศร์ ดัชนี ผู้เป็นบุตรชาย ได้นำภาพวาดของถวัลย์ ดัชนี ซึ่งวาดไว้ในช่วงท้ายของชีวิต และไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
1
มาจัดทำเป็นภาพชุดจำหน่ายเป็นครั้งแรก
เพื่อนำรายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่าย
นำไปซื้อเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ สำหรับโรงพยาบาลทั่วประเทศ
1
ถวัลย์ (พ.ศ. 2482- พ.ศ. 2557)
‘ดร. ถวัลย์ ดัชนี’ ท่านเป็นจิตรกรชื่อดัง
เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากผู้ศรัทธาในฝีมือทั่วฟ้าเมืองไทย
ท่านได้รับฐานะให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์
ในปี พ.ศ. 2544 ท่านเกิดที่จังหวัดเชียงราย
ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นคนเชียงรายโดยแท้
เป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์ทั้งผลงานและภาพลักษณ์
ที่มักปรากฏกายในชุดสีดำพร้อมเคราสีขาว
และเครื่องประดับทำจากกระดูกและเขาสัตว์
พร้อมน้ำเสียงทรงพลังทว่าแฝงด้วยอารมณ์ขัน
ผลงานที่เป็นซิกเนเจอร์และรู้จักกันดีคือ
ภาพสัตว์แบบเอกรงค์ (monochrome) สีดำ
ด้วยฝีแปรงหรือปากกาที่ถ่ายทอดกายวิภาคของสัตว์
ด้วยเส้นสายที่ทั้งอ่อนช้อยและดุดันกึ่งเหนือจริง
1
ถวัลย์เคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Nation
เมื่อ พ.ศ.2547 ว่า “ผมเคยใช้เวลาแค่ 6 วินาทีในการตวัด
ฝีแปรงรูปปีกนกอินทรีย์ และใช้เวลาทั้งหมด 18 วินาทีเพื่อได้ภาพที่สมบูรณ์”
3
นั่นเป็นเพราะถวัลย์ทุ่มเทกับการศึกษากายวิภาคของสัตว์แต่ละชนิด​อย่างละเอียดและฝึกฝนการวาดจนชำนาญ
อย่างที่เขาเคยกล่าวไว้ว่า
“ผมใช้เวลา 3 เดือนที่ประเทศฟิลิปปินส์
เพื่อสังเกตพฤติกรรมของนกอินทรีย์ขณะล่าเหยื่อและกินสมองลิง
ผมยังเดินทางไปทะเลทรายที่อริโซน่า
เพื่อสังเกตการเลื้อยคลานของงูในทะเลทราย
เพราะฉะนั้นถ้าเราจะวาดรูปสัตว์เชิงสัญลักษณ์
หรือเชิงเหนือจริง คุณต้องแม่นยำในกายวิภาค
ของสัตว์แต่ละชนิดก่อน
คุณต้องวาดรูปงูให้เป็นก่อนจะวาดพญานาค
ไม่งั้นพญานาคจะกลายเป็นงูก้นขบ
หรือรูปสิงโตของคุณจะดูคล้ายสุนัข”...(ฮาาาาา)
4
ประโยคติดปากที่ถวัลย์มักพูดเสมอ
เมื่อใครก็ตามถามถึงความหมายในผลงานของเขา คือ
“ผมไม่เคยถามดวงดาวในห้วงเวหาว่าเปล่งแสงเพื่อใคร
ไม่เคยถามนกที่ร้องเพลงว่าร้องทำไม
เพราะมันคือธรรมชาติ
5
ผมอยากให้คนดูรู้สึกบางอย่างขณะดูรูป
ไม่ใช่พยายามหาความหมายของมัน
เพราะความรู้สึกเป็นสิ่งที่แยกมนุษย์ออกจากสัตว์ทั้งปวง”
1
วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557
เหตุการณ์อันโศกเศร้าได้เกิดขึ้น เมื่อ ‘อ.ถวัลย์ ดัชนี’ เสียชีวิต
เพราะป่วยด้วยโรคตับอักเสบต่อเนื่อง
มาเป็นระยะเวลานานกว่า 3 เดือน
ครอบครัวของอาจารย์ได้นำศพมาทำพิธีทางศาสนา
โดยมีการขอพิธีพระราชทานเพลิงศพให้สมเกียรติ
2
และมาต่อกับ... ชิ้นที่.8
Edvard Munch, "The Scream " Edvard Munch,
The Scream 1895
ราคา: 120 ล้านเหรียญสหรัฐ
เวลาประมูล: 2 พฤษภาคม,
ปี 2555 : Sotheby's New York
ศิลปิน Expressionist ...Edward Munch
ผลงานชิ้นเอก "The Scream"
ที่เรียกได้ว่าเป็นศิลปะแห่งศตวรรษที่ 20
ที่กวนทีนสุด ๆ ในปี 2555
5
Sotheby's ในนิวยอร์ก
เริ่มการประมูลด้วยเงิน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และหลังจากนั้น 12 นาที
ก็ขายได้ในราคาสูงถึง 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
1
"ความเจ็บป่วยความบ้าคลั่งและความตาย
เป็นเทวดาที่อยู่รอบอู่ของฉัน
และพวกเขาจะอยู่กับฉันไปตลอดชีวิตของฉัน"
1
ในฐานะผู้บุกเบิกงานศิลปะ
ที่วิเคราะห์อารมณ์ภายใน Munch
ได้ต่อสู้กับความหดหู่และความเศร้าโศกตลอดชีวิต
1
โดยยืนกรานที่จะวาดภาพ
ความรักความเจ็บปวดและความกลัวความตาย
ภาพวาดแต่ละภาพสามารถสัมผัสได้อย่างลึกซึ้ง
ถึงความหมดหนทางมองโลกในแง่ร้าย
และความสิ้นหวังในหัวใจ
เมื่อเผชิญกับชะตากรรมที่ไม่อาจหยุดยั้งได้
Edvard Munch, 1863-1944
Munch เล่าถึงแรงบันดาลใจสำหรับ "The Scream"
"วันนั้นฉันไปเดินเล่นกับเพื่อนสองคน
เมื่อพระอาทิตย์ตกดินทันใดนั้นดวงอาทิตย์
ที่กำลังตกดินก็เป็นเหมือนเลือด
และความเศร้าลึก ๆก็ปรากฏบนใบหน้าของฉัน
1
ฉันยืนอยู่คนเดียวโดยเกาะราวบันไดสีน้ำเงินเข้ม
อ่าวและเมืองต่างๆเป็นเหมือนเลือดและไฟ
ที่ลุกไหม้และชนกัน
ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกถึงความสยองขวัญ
และความสั่นสะเทือนที่ไม่อาจพรรณนาได้
จากส่วนลึกที่สุดของหัวใจและธรรมชาติของฉัน
มีเสียงร้องไห้ที่ทำให้จักรวาลตกใจ "
ความวิตกกังวล Edvard Munch
"เสียงกรีดร้อง"
เปลี่ยนความกลัวภายในสุดขั้ว
ให้เป็นรูปแบบนามธรรมที่น่าตกใจ
โดยใช้ catharsis บริสุทธิ์(อ่านอธิบายต่อท้ายบทนะครับ)
3
เพื่อปลดปล่อยอารมณ์
แห่งการล่มสลายอย่างอิสระ
ภายใต้แรงกดดันของสังคมอุตสาหกรรม
ความวิตกกังวลภายใน
ความหดหู่และความตื่นตระหนก
ที่ปลุกกระแสทั้งยุค
การต่อสู้แห่งความตาย Edvard Munch
Munch ได้เนรมิต​สร้าง "The Scream" ทั้งหมดนี้ถึง​ 4 เวอร์ชันด้วยกัน...
โดยรุ่นแรกคือ "The Scream" เวอร์ชัน 1893
ซึ่งตอนนี้อยู่ในคอลเล็กชันของ Oslo National Gallery (ด้านล่างซ้าย)
และแผงไม้ Tempera Oslo Munch Museum (ด้านล่างขวา)
เวอร์ชัน "Scream" หนึ่งในบทความ
ในครั้งนี้คือเวอร์ชัน 1895
1
และ "Scream" เพียงหนึ่งเดียว
ในคอลเลกชันส่วนตัว
แตกต่างจากเวอร์ชันอื่น
เวอร์ชันนี้มีสีสันและสดใสที่ซู๊ดดดด
1
References
- invaluable|31 of the Most Expensive Paintings Ever Sold at Auction
- wealthygorilla|The 20 Most Expensive Paintings In the World
- culture trip|The 10 Most Expensive Paintings In The World
- businessinsider|The 16 most expensive paintings ever sold
- workandmoney|Top 25 Most Expensive Paintings Ever Sold
- Luxhabitat |TOP 10 MOST EXPENSIVE PAINTINGS IN THE WORLD
อธิบาย ท้ายบท.......
catharsis คือ คำที่ปรากฎในหนังสือ Poetics ของ Aristotle ในความหมายที่ว่า เป็นการเข้าถึงความรู้สึกอย่างแท้จริงถึงขั้นเห็นทางชำระจิตใจให้ใสสว่างของคนดู
ผ่านความรู้สึกหดหู่เศร้าหมองเมื่อได้ประจักษ์ถึงโศกนาฎกรรมที่ปรากฎบนเวที
1
เมื่อการแสดงเรื่อง Die Räuber (The Robbers) ของ Friedrich von Schiller แสดงเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1787 คนดูมีปฏิกริยาขั้นสุดอย่างที่เรียกว่า Catharsis คือหลายคนสวมกอดกันร่ำไห้ บางก็เป็นลมล้มไปเลย...
1
Aristotle ให้ความเห็นว่า คนเรามีความพึงพอใจมากที่ได้อ่านวรรณคดีประเภทโศกนาฎกรรม ไม่ใช่เพราะเราอยากจะมีประสบการณ์เดียวกันกับตัวละครในเรื่อง
ไม่ได้อยากจะร้องไห้หรือมีอารมณ์ฟูมฟาย
แต่ความพึงพอใจนั้นเกิดขึ้นจากความรู้สึกสุนทรีย์ เราสนุกที่ได้เห็นการนำเสนอเหตุการณ์อันน่าเศร้า เพราะมันเป็นการสร้างสรรค์ความโหดร้ายอย่างมีศิลปะถึงขั้นที่ทำให้คนดูเข้าถึงความรู้สึกที่เรียกว่า Catharsis​ นั่นเอง​ครับ​
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา