12 มี.ค. 2021 เวลา 13:14 • หนังสือ
สรุปหนังสือ อยากเก่งต้องกล้า ....lean in....โดย....Sheryl Sandberg
ฟังไฟล์เสียงได้ที่ 👉🏻 https://youtu.be/tcwfPHouw0Y
ผู้เขียนเป็นประธานฝ่ายปฎิบัตการของ facebook เป็นหนังสือที่จูลอ่านแล้วทำให้เข้าใจถึงความคิดของผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จระดับสูงคนหนึ่ง ว่าการขึ้นสู่ที่สูงต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องเผชิญอะไรบ้าง เป็นประสบการณ์ที่มีค่า ได้เรียนรู้แนวคิดที่ทำให้เรามาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองได้มากขึ้น ดั่งคำพูดที่ว่า เราต้องการเป็นอะไรให้เราเปลี่ยนเป็นแบบนั้นก่อน แล้วความสำเร็จนั้นจะเข้ามาหาเราเอง มาดูกันค่ะว่า สิ่งที่จูลได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้มีอะไรบ้าง
1. คุณจะทำอะไรก็ได้ หากคุณปราศจากความกลัว
....ความกลัว อาจเกิดจาก เพศ การเลี้ยงดู ประเพณี ความเชื่อ วัฒนธรรมที่ถูกปลูกฝังมา ความคิด
2. เชื่อว่าผลงานของตัวเองดีพอ (เชื่อมั่นในตัวเอง และ ความสามารถของตัวเอง)
....ผู้หญิงชอบคิดว่าความสำเร็จได้มาเพราะโชคช่วย และได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่น
....การขาดความมั่นใจเป็นเพียงภาพหลอนเท่านั้น (เป็นเพียงปรากฎการณ์ทางจิตใจ)
....การกระตุ้นจิตใจตอนรู้สึกด้อยค่า คือ แกล้งทำเป็นรู้สึกเช่นนั้น เช่น แกล้งยิ้ม แกล้งทำดีกับคนที่เราโกรธ แกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยมีงานวิจัยว่า การใช้ภาษาท่าทางที่เปิดเผย/แสดงอำนาจ ทำให้เรามีความอดทนเพิ่มขึ้น และพร้อมเผชิญหน้ากับปัญหา และ ความเสี่ยง เพราะฉะนั้นอยากมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น แกล้งทำให้เหมือนคนมีความมั่นใจสูง
1
3. พยายามไขว่ขว้าหาโดกาสตลอดเวลาในการลองทำสิ่งใหม่ กล้าที่จะเสี่ยงถึงแม้จะข้องใจในความสามารถของตนเอง
....อย่าคิดว่าไม่แน่ใจว่าดีพอไหม ต้องเรียนรู้ก่อน อย่าคิดว่ายังไม่ชำนาญพอหรือเกินความสามารถ
....กระตือรือร้นเพื่อไขว่ขว้าหาสิ่งใหม่ๆทำ พยายามไปมีส่วนร่วม ไม่มีใครพิจารณาคนที่ดูสงบเสงี่ยม พูดน้อย
....หากอยากทำอะไรที่ดีขึ้น ต้องฉวยโอกาสที่มีอยู่ และทำมันให้เกิดประโยชน์กับตัวเอง ไม่ใช่รอโอกาสดีๆที่จะเข้ามาหา ศักยภาพด้านการเรียนรู้นั้น ถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้นำปัจจุบัน
1
4. ผสมผสานความเป็นคนที่น่าชื่นชอบและความแน่วแน่ )อ่อนนอกแข็งใน
....ความสำเร็จกับการเป็นที่ชื่นชอบอาจไม่ได้มาด้วยกัน ความสำเร็จมีผลทางบวกกับผู้ชาย แต่มีสหสัมพันธ์เชิงลบสำหรับผู้หญิง (งานวิจัย) ไฮดี้และอาวาร์ด
....โดยอาจถูกหาว่า ก้าวร้าว หยาบกระด้าง ชอบทำงานเอาหน้า เชื่อถือไม่ได้ เข้ากับคนอื่นไม่ได้ ทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่สามารถก้าวสู่จุดสูงสุดในอาชีพการงาน เพราะอยากเป็นที่ชื่นชอบ จึงลดความสามารถของตัวเองลง เป็นเพราะตัวเองสร้างปมด้อยให้ตัวเอง อย่าพะวงทัศนคติของคนอื่น หากใส่ใจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้น้อยลง
5. เพิ่มขีดความสามารถในการเจรจาต่อรอง
....จุดหมายของการเจรจาที่มีประสิทธิผลคือ ต่างฝ่ายต่างบรรลุเป้าของตนเองอย่างสมดุล
....ผู้หญิงเพิ่มขีดความสามารถการเจรจาต่อรองได้โดย
ก. ทำตัวเป็นสุภาพสตรี โดยทำตัวเป็นที่ชื่นชอบของคนรอบข้าง เอื้ออาทรต่อผู้อื่น คิดถึงตัวเองแต่ทำเพื่อส่วนรวม ใช้คำว่าเรา แทนดิฉัน
ข. ต้องมีหลักในการอธบาย และ ชี้แจงในการเจรจาต่อรอง เช่น อ้างอิงผู้อาวุโสกว่า อ้างอิงถึงบรรทัดฐานของกลุ่มธุรกิจที่ทำอยู่ อ้างอิงถึงประโยชน์ส่วนรวม
....ควรทำตัวยิ้มแย้ม อ่อนโยน แสดงความเห็นอกเห็นใจ แต่มีเป้าหมายที่แน่วแน่แก้ปัญหาด้วยการเจรจาต่อรองแทานการวิจารณ์
6. ยืนหยัดต่อคำติฉินนินทาและคำวิจารณ์ต่างๆ
....เราอาจระบายอารมณ์โกรธ น้อยเนื้อต่ำใจได้ แต่อย่าปล่อยให้คำวิจารณ์มาหยุดยั้งเรา และควรก้าวหน้าต่อโดยไม่ใส่ใจกับสิ่งนั้น เหมือนเด็กน้อยที่ร้องไห้ชั่วขณะและกลับไปเล่นตามเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
1
7. มีเป้าหมายที่จะก้าวหน้า
....ความก้าวหน้าในอาชีการงานเหมือนเครื่องเล่นปีนป่าย หาใช่การเดินขึ้นตามขั้นบันได
....การใช้ความสามารถในการคิดค้นดัดแปลงเส้นทาง ปีน ลัดเลาะอ้อมเพื่อหลีกเลี่ยงทางตัน จะช่วยให่เห็นโอกาส พบเส้นทางสู่ความสำเร็จ ช่วยให้มองเห็นช่องทางที่เปิดกว้างที่ยังไปไม่ถึงจุดสูงสุด แต่การขึ้นบันไดเมื่อคนที่อยู่เหนือเราหยุด เราไม่สามารถเดินต่อไปได้
....เราต้องไม่ย่อท้อ แม้กระทั่งกับเป้าหมายที่ดูเลือนลาง เพราะเราพยายามให้ดีที่สุดเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น เราก็ได้เดินหน้าไปได้
....หลักเกณฑ์ที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาเลือกงานนั้นคือ การที่ตะก้าวหน้าได้เร็ว (ไม่ใช่ตำแหน่ง)
....หากมีคนยื่นข้อเสนอให้คุณได้ไปนั่งในยานอวกาศ คุณควรรีบตอบโดยไม่ต้องรอถามว่าที่นั่งคุณอยู่ตรงไหน เพราะมันคือโอกาส
8. วางแผนอนาคตระยะยาวและแผนระยะสั้น 18 เดือน
....แผนระยะสั้น 18 เดือน มี2 รูปแบบ
ก. ให้ความสำคัญมากที่สุดคือ เป้าหมายสำหรับทีมงานให้ความสำคัญกับพนักงานที่เพ่งความสนใจไปที่ผลงานและผลประโยชน์องค์กร
ข. เรียนรู้และเสริมความสามารถใหม่ ถามว่าจะทำให้ตนเองมีคุณค่ามากขึ้นได้อย่างไร หากยังกลัวในการทำอะไร เพราะคิดว่าตนเองมีความสามารถไม่พอ หาจุดอ่อนตัวเอง และ หาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อแก้ไข
9. กล้าที่จะเสี่ยง
....มัวแต่คำนึงถึงความมีเสถียรภาพมั่นคงทำให้เสียโอกาสดีๆไป การกลัวเสี่ยงทำให้คุณหยุดอยู่กับที่ เช่น เปลี่ยนงาน เปลี่ยนสถานที่ทำงาน
....ผู้หญิงมักให้ความสำคัญกับคู่สมรสมากกว่าตนเอง การที่จะย้ายสถานที่ทำงาน หากไม่สะดวกต่อคู่สมรสมักปฎิเสธทำให้ไม่สามารถก้าวหน้า
....มีความระมัดระวังมากเกิน ไม่รับงานที่ดูยื้ดเยื้อและโครงการที่ต้องใช้วิสัยทัศน์ก้าวไกล ความสามรถเฉพาะตัว หรืองานที่ต้องร่วมงานกับผู้ชาย
....ผู้หญิงจะยื่นใบสมัครทำงานเพราะมั่นใจ100% ส่วนผู้ชายมั่นใจ60% ก็สมัครงานแล้ว
....เพราะฉะนั้นเปลี่ยนความคิดจากฉันยังไม่พร้อมที่จะทำ เป็นฉันอยากทำและฉันต้องการเรียนรู้ที่จะทำให้ได้
10. รู้จักเสนอตัวเอง....ขอเลื่อนตำแหน่ง
....ผู้หญิงมักคาดว่าหากทำดีแล้วจะมีผู้มาประดับมงกุฎบนศีรษะของเธอ คิดว่ารอให้คนอื่นเห็นคุณค่าและมอบรางวัลโดยไม่ต้องร้องขอ คิดว่าทำงานหนักเจ้านายจะเห็นคุณค่า แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะฉะนั้นต้องนำเสนอตัวเองด้วยความรอบคอบ
11. พัฒนาตนเองให้ดีที่สุด แล้วคุณจะได้ที่ปรึกษาและผู้สนับสนุนที่ดี
....การที่คนให้การสนับสนุนและแนะนำแก่ใคร เพราะเขาพิจารณาถึงผลงาน และ บุคคลที่จะช่วยว่าคุ้มต่อการลงทุนในการผลักดันหรือไม่
....ไม่ควรเข้าไปขอให้ใครมาเป็นที่ปรึกษา แต่เข้าไปสอบถามข้อมูลและความเห็นจะดีกว่า โดยการดึงดูดความสนใจในระยะยสั้น สามารถทำได้ด้วยการเตรียมตัว เตรียมคำถามที่เหมาะสม มีจุดประสงค์ชัดเจน จะมีโอกาส รับข้อเสนอแนะที่ดี
....ที่ปรึกษไม่จำเป็นต้องเอ่ยขอ ต้องหาสายสัมพันธ์ให้เกิดขึ้น ทำให้ผู้ใหญ่ให้ความสนใจ โดยแสดงผลงานให้พวกเขาเห็น อาจขอความเห็น คำแนะนำ หาโดกาสรายงานความคืบหน้า หาโอกาสขอบคุณ จะทำให้ผู้ใหญ่เกิดความผู้พันที่จะช่วยเหลือ
....การสร้างสายสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นผลดีที่จะได้รับตำแหน่งสูงขึ้น
12. สื่อสารด้วยความจริงใจ
....เป็นองค์ประกอบสำคัญในความสัมพันธ์ของครอบครัวและที่ทำงาน คนเราไม่เปิดเผยความจริงทั้งหมด เพราะต้องการปกป้องความรู้สึกตัวเองและคนรอบข้าง การอดกลั้น ไม่ยอมรับความจริง ปิกหั้นการพัฒนาตนเองและองค์กร เพราฉะนั้นแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยไม่ให้เป็นลักษณะขู่เข็น ชี้แจงด้วยเหตุและผล ใช้ภาษาเรียบง่ายตรงไปตรงมา สั้นกระชับ
13. เป็นผู้ฟังที่ดี
....ฟังแบบเอาใจเขาใส่ใจเรา คิดถึงความรู้สึกคนอื่นก่อนแสดงปฎิกิริยาโต้ตอบ
....ทุกคนอยากให้ผู้อื่นรับรู้ความรู้สึกเรา การฟังทำให้เราคิดถึงจิตใจคนอื่น ทำให้รู้สาเหตุถึงปัญหา และเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหานั้น
....การถามถึงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาเป็นวิธีที่ดีกว่าการคาดเดา
....ถาม..ฉันจะปรับตัวให้ดีขึ้นได้อย่างำร มีอะไรที่ควรจะได้เรียนรู้เพิ่มเติม มีอะไรที่ทำตกหล่นไปบ้าง
....การถามความเห็นแบบตรงไปตรงมาอาจทำให้ได้รับความเจ็บปวดกับคำติชม แต่ดีกว่าสบายใจที่ไม่ได้รับรู้อะไรเลย (เชอริน คุยกับมาร์คซักเกอร์เบริ์ก ติชมและปรึกษาหารือการทำงานกันเพื่อระบายความขัดข้องใจ คลี่คลายปัญหากันทุกสัปดาห์) เป็นส่วนสำคัญในการสร้างมิตรภาพ
14. ยอมรับความจริง....รับผิดชอบในความผิดพลาด
....พูดถึงจุดอ่อนของตัวเองอย่างเปิดเผย เช่น ค่อนข้างหงุดหงิดง่ายกับปัญหาที่ถูกปล่อยปละละเลย บอกให้เพื่อนร่วมงานบอกว่าควรสติอารมณ์ได้
15. มีอารมณ์ขัน
....เป็นวลีที่นิยมใช้บ่งถึงคุณสมบัติของผู้นำที่ดี
16. แบ่งปันความรู้สึกกับเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย
....การแบ่งปันเป็นความรู้สึกนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันมากขึ้น แรงบันดาลใจในการทำงานมาจากที่เราทำสิ่งที่เราสนใจ ได้ทำงานกับคนที่มีความเข้าใจกัน รู้ว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร รวมทั้งความรู้สึกนึกคิด มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน
....มีความเป็นตัวของตัวเองในการทำงาน ไม่ต้องสร้างภาพ อาจมีการร้องไห้บ้างไม่ใช่พ่ายแพ้/อ่อนแอ แต่เป็นการแสดงออกถึงความจริงใจ มุ่งมั่น อ่อนไหว เห็นใจผู้อื่น ทุ่มเท ยอมรับความจริง พูดเปิดเผยและจริงใจ เป็นการแสดงอานุภาพของความน่าเชื่อถือ
17. ตักตวงผลประโยชน์ในหน้าที่และโอกาสให้มากที่สุด
....อย่าหยุดถอยก่อนเวลาอันควรโดยเฉพาะการเตรียมตัวล่วงหน้าหลายเดือนก่อนจะตั้งครรภ์
....ผู้หญิงไม่เลือกที่จะละทิ้งหน้าที่การงาน แต่มักใช้วิธีก้าวถอยหลังทีละก้าว แต่เป็นการปิดโอกาสก้าวหน้าในอาชีพการงาน
....ผู้หญิงมีความสามารถมักปฎิเสธงานที่สร้างโอกาสให้เธอเพราะคิดว่าจะมีลูก แต่ที่จริงเป็นเวลาที่เหมาะสมเพราะหากพบว่างานมีความท้าทายและให้ผลตอบแทนดี มันเป็นแรงผลักดันให้มีกำลังใจที่จะกลับมาทำงานหลังคลอดลูก
....ผู้หญิงควรพร้อมที่จะเดินหน้าสู้อุปสรรคปัญหาทุกสถานการณ์ หากรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก็อาจจะเสียโอกาสที่ดีไป
....หากมีงานที่ดี ได้รับโอกาสในการขยับขยาย ไม่ควรไปกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เหมือนการปิดกั้นตัวเอง เหมือนขับรถที่ควรเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นและไม่ควรเหยียบเบรคกระทันหัน อาจชลอความเร็วบ้าง แต่ไม่ควรเหยียบเบรคหยุดทันทีก่อนที่จะตัดสินใจแน่วแน่ อย่ายอมแพ้ จนกว่าจะได้สู้
18. ทำให้คู่สมรสของคุณเป็นหุ้นส่วนชีวิตที่แท้จริง
....โดยเปิดโอกาสให้เขาได้ทำอย่างอิสระและให้ความเท่าเทียมกัน
....สิ่งสำคัญที่ผู้หญิงจะก้าวหน้าในอาชีพการงานต้องหาคู่ที่สามารถเป็นหุ้นส่วนชีวิตที่แท้จริง และได้รับแรงผลักดันสนับสนุนจากสามี ทั้งเรื่องงานบ้านและอาชีพการงาน
...เด็กๆ ได้ประโยชน์หลายประการจากการที่พ่อแม่เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆของพวกเขา มีพฤติกรรมทางจิตและความสามารถในการเรียนรู้ได้ดีดว่าเด็กที่ได้รับการเอาใจใส่จากพ่อน้อยมาก มีผลต่อศักยภาพ การรับผิดชอบได้ดี มีสามัญสำนึกได้ดี
....ควรเลือกผู้ชายที่เขาให้เกียรติเรา ยอมรับเราไม่ว่าจะดี/ด้อนกว่าเขา ที่สำคัญพร้อมเป็นหุ้นส่วนที่แท้จริงและสมัครใจสนับสนุนเราทั้งในอาชีพการงาน การดูแลบ้านและครอบครัว
....ความเสมอภาคในชีวิตคู่ ทำให้คู่สามีภรรยามีความสุขมากขึ้น เป็นแบบอย่างให้คนรุ่นต่อไป
19. ไม่มีใครมีอะไรครบทุกอย่าง อย่างมากสุดก็มีเพียงพอที่เขาต้องการ
....คนเราทุกคนมีขีดจำกัด การคาดหวังทำทุกอย่างสมบูรณ์แบบเป็นสาเหตุของการผิดหวัง เพราะฉะนั้นตัดสินว่าสิ่งใดควรให้ความสำคัญ สิ่งใดไม่จำเป็น เรียนรู้ทำสิ่งที่สำคัญให้สมบูรณ์แบบ
....ทำให้สำเร็จดีกว่ารอทำให้สมบูรณ์แบบ (การแสวงหาความสมบูรณ์แบบทำให้หงุดหงิดและหยุดการกระทำ)
....เราสามารถแสวงหาประโยชน์กับความสับสนวุ่นวาย อย่าตื่นตระหนกกับมัน เพราะคุณสามารถที่จะเปลี่ยนความคิดคุณได้ตลอด
....การที่คนเราจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานได้ในภายภาคหน้า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า เราต้องพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับคำสั่งให้ทำ แต่วิธีที่ดีที่สุด คือ การที่เรารู้จักจัดสรรเวลาส่วนตัวกับเวลาทำงานให้เหมาะสมตามขีดความสามารถของเราและทำมันให้ได้
....ลดการประชุมที่ไม่จำเป็นจริงๆออกไป เงินค่าจ้างได้เพราะคุณภาพของงานไม่ใช่เวลาทำงาน
20. นอนหลับให้เพียงพอ
....การนอนไม่เต็มอิ่มสมองทำงานช้าลง ไม่ต่างกับขับรถขณะเมาสุรา ทำให้เราหงุดหงิดง่าย วิตกกังวลสับสนในบางเวลา
21. จัดสรรเวลาทำงาน และเวลาให้กับครอบครัวให้เหมาะสม
....มีวิจัยว่า มารดาที่เลี้ยงลูกตลอดไม่ได้มีผลต่อการที่เด็กจะมีนิสัยดี/ไม่ดี เพราะฉะนั้นมารดาที่ทำงานนอกบ้านไม่คสรรู้สึกว่าเป็นผลเสียต่อเด็ก เป็นสิ่งที่แม่กังวลไปเอง
....ความสำเร็จคือสลัดทิ้งความรู้สึกผิด เคล็ดลับคือ การที่คุณทำให้ดีที่สุดกับทรัพยากรที่มีอยู่
22. กล้าแสดงออกและชี้ให้เห็นถึงอุปสรรคที่ขวางกั้นความก้าวหน้าและร่วมกันแก้ไข
....หากเราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่กว้างใหญ่ เราต้องค่อยๆกระทุ้งกระแทกทีละเล็กละน้อย เพราะการค่อยๆเพิ่มบทบาททำให้คนเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเองและกล้ามากขึ้น เหมือนการดึงดูดให้คนเราตื่นตัว
....อย่ากลัวที่จะขอถึงแม้มันดูเหมือนไกลเกินเอื้อม เช่น เสนอตัวขอเลื่อนตำแหน่ง
....การทำงานทุกอย่าง ต้องมีการเสียสละอยู่บ้าง แต่อย่าเสียสละมากเกินไป
23. ร่วมมือกัน ปกป้องกันและกัน เพื่อสถานภาพของผู้หญิงที่สูงขึ้น ทำลายอคติเรื่องเพศ
....การเลือกได้อย่างแท้จริงต้องได้รับการสนับสนุนจากเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน และคู่ชีวิตที่พร้อมจะแบ่งเบาภาระการดูแลบ้านและครอบครัว
....เราต้องคอยดูแลกัน ทำงานร่วมกันและร่วมมือกัน ทำให้เกิดพลัง แรงผลักดันอย่างมหาศาล
....การที่ผู้หญิงให้ความช่วยเหลือกันเหมือนการช่วยตัวเองไปในตัว
.
.
. เพิ่มการพัฒนาตัวเองวันละนิด
. เหมือนเติมวันละ 1 องศา
. 1 วัน อาจจะไม่มีอะไร
. 10 วันไม่มีความต่าง
. แต่ 100 วันล่ะ 1000 วันล่ะ
. จะเปลี่ยนแปลงไปโดยแทบไม่เห็นร่องรอยเดิม
.
. มาพัฒนาวันละ 1 องศา
. เพื่อเติมเต็มวงล้อชีวิตให้สมบูรณ์ไปด้วยกัน
. ...กับเพจ #องศาที่หายไป
.
.
. 🪴🪴🪴🪴🪴🪴
👍🏻เลื่อนนิ้วโป้งกด Like กด Share ให้จูลสักนิด..เพื่อชีวิตที่มีกำลังใจให้จูลนะคะ..ขอบคุณค่ะ
⭐️ติดตามที่ Blockdit
❤️ติดตามที่ Youtube
🥰คุยกับจูลได้ใกล้ชิดมากขึ้น ที่Line ค่า (Add ไว้ จะได้ทราบข่าวสารอัพเดตค่า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา