13 มี.ค. 2021 เวลา 09:46 • หุ้น & เศรษฐกิจ
EP2: บ่อน Bitcoin (บิตคอยน์)
🪙 บ่อนมีลักษณะคล้ายๆกันอย่างหนึ่งก็คือ เป็นที่ซึ่งคนส่วนใหญ่เสียเงิน ซึ่งการเทรดบิตคอยน์ก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เราเข้าบ่อนครับคือส่วนใหญ่มักจะเสียเงิน
🪙 ผมเห็นว่าการที่เราจะอยู่รอดได้จำเป็นต้องมีการวางแผนที่ดี ซึ่งต้องเกิดจากทั้งการศึกษาหาความรู้รวมทั้งต้องมีประสบการณ์และทักษะในการเทรด
ขณะที่เขียนบทความนี้(วันที่ 13 มีค. 2021 เวลา 02.36pm) ราคาบิตคอยน์อยู่ที่ 56,865.60 USD(ประมาณ 1,746,001.38บาท) จะเห็นว่าราคาได้ลดลงมาจากที่คุยกันเมื่อคืนประมาณ 1% ซึ่งก็คือเราเริ่มเสียเงินแล้วครับ! นี่มันมากกว่าอัตราดอกเบี้ยฝากประจำนะครับ เวลาผ่านไปแค่ 14 ชั่วโมง คุณเทรดบิตคอยน์ คุณขาดทุน 1% ในขณะที่คุณต้องฝากเงินในธนาคาร 1 ปี(8,544 ชม.) เพื่อให้ได้ดอกเบี้ย 0.8%
คุณเริ่มรู้สึกถึงความเสี่ยงมั๊ยครับ
หลายคนอาจจะบอกว่าก็ยังไม่ต้องขายแล้วรอราคาเด้งกลับขึ้นไปตอนกลางคืน ก็จะกลับมาได้กำไรอีก แต่ปัญหาคือมันไม่มีใครยืนยันได้ครับว่ามันจะขึ้นหรือจะลงต่อไปอีก บ่อนนี้(บ่อนบิตคอยน์) มันถูกกำหนดทิศทางโดยรายใหญ่ซึ่งเปรียบเสมือนเจ้ามือของบ่อน พวกเค้ามีเงินและถือครองบิตคอยน์มากกว่าเราหลายเท่า ทำให้สามารถบังคับให้ราคาเป็นไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งพอราคามันวิ่งไปทางไหนเดี๋ยวพวกเค้าก็จะหาข่าวมาอธิบายว่าเศรษฐกิจเป็นแบบนู้นเป็นแบบนี้ ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นหรือเกิดกังวล ส่งผลให้มีการเข้าซื้อหรือเทขายบิตคอยน์ ทำให้ราคามันวิ่งขึ้นหรือวิ่งลงได้
จะเห็นว่าข่าวมันมาที่หลังการเปลี่ยนแปลงของราคา ซึ่งการติดตามข่าวนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่มันไม่แน่ว่าจะทำให้คุณได้กำไร?!?!
🪙 เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ
สิ่งที่ผมอยากจะแชร์ให้ทุกท่านคือ เรื่องของระบบเทรดครับ อาจจะฟังดูยากแต่ถ้าคุณทำเป็นแล้วมันจะทำให้คุณมีเงินกลับออกมาจากบ่อนครับ หมายถึงว่าคุณจะไม่หมดตัวนะครับ เพราะคุณอาจจะขาดทุนในวันนี้แต่คุณจะยังเหลือเงินเพื่อแก้มือ หลังจากที่คุณได้ปรับสภาพจิตใจของคุณแล้ว
ถ้าจำกันได้ในบทความที่แล้ว ผมเสนอให้เปลี่ยนคำถามเป็น จะขายตอนไหน ใช่มั๊ยครับ เราจะเห็นว่ามันเป็นคำถามที่มีเงื่อนไขครับ
เราลองดูที่ Chart ปัจจุบันครับ
รูปที่1: กราฟบิตคอยน์(Daily Chart) วันที่13 มีค. 2021 เวลา 02.36pm
สิ่งที่เราควรจะสังเกตได้ก็คือ ราคากำลังขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดเดิม หรือที่เค้าเรียกกันว่าแนวต้านนะครับ ซึ่งที่ผมตีเป็นกรอบสี่เหลี่ยมเพราะไม่อยากให้เราไปยึดติดกับราคามากจนเกินไป เอาเป็นว่าโซนแถวๆนี้คือแนวต้านของรอบนี้ครับ ที่จุดนี้จะมีการวัดกำลังกันระหว่างคนซื้อกับคนขายครับ ที่เมื่อคืนมันลงมาก็เพราะมีคนขายมากกว่าซื้อ อาจจะเป็นเพราะขายเก็บกำไรไว้ก่อน หรือ Short future เพราะเห็นว่าตรงนี้อยู่บนยอดดอยแล้ว(เรื่อง Short future เอาไว้คุยกันวันหลังนะครับ)
จริงๆแล้วเราไม่ควรซื้อที่ยอดดอยครับเพราะก็เห็นๆอยู่ว่าคุณเสียเปรียบต้นทุนชาวบ้านเค้าเยอะมาก ดังนั้นแผนของเราคือ
👉แผนที่1: ถ้าคันมือและอยากซื้อก็ต้องหาจังหวะราคาย่อใน time frame เล็กๆเช่น รายชั่วโมงหรือราย 15 นาที แต่ต้องจำไว้นะครับว่าไม่ไล่ราคาเด็ดขาด และก็ต้องไม่ถือนาน คือกะว่าได้กำไร 1%-2% ก็ต้องออกครับ ไม่ถือยาว และก็ต้องมีวินัยที่จะ cut loss ถ้ามันสวนทางเราด้วย ซึ่งผมว่าแผนนี้ไม่ค่อยคุ้มครับ เสียเวลานั่งดู เสี่ยง และ ได้ผลตอบแทนน้อย
👉แผนที่2: ยังไม่ซื้อ และรอราคาย่อลงมาที่แนวรับ (ซึ่งวิธีดูก็คือ ให้คุณสังเกตุแนวต้าน2 ที่ราคามันทะลุขึ้นมาจะกลายเป็นแนวรับในรอบนี้ และ มี Pin bar เป็นตัวยืนยัน) ถ้าราคาย้อนมาถึงจุดที่เราตั้งไว้ก็ให้ถือไปขายที่จุดสูงสุดเดิม(แนวต้าน1) แต่ถ้าราคาถอยจนทะลุแนวรับ2 ก็ต้อง cut loss
👉แผนที่3: ยังไม่ซื้อ และรอให้ราคาทะลุแนวต้าน1 ขึ้นไปเลย ซึ่งหมายความว่า แรงซื้อชนะแรงขาย โดย แผนที่ 3 นี้ทำได้ 2 แบบ คือ ซื้อทันทีเมื่อราคาทะลุและยืนเหนือแนวต้าน1 ได้(อันนี้เรียกว่า ซื้อตอน Breakout) โดยมี Stop loss คือแนวต้าน1 ที่ทะลุมา ซึ่งถ้าราคาย้อนทะลุกลับลงไปก็ต้องขายนะครับ ส่วนอีกแบบคือ ยังไม่ซื้อทันทีตอนทะลุ แต่จะรอให้ราคาย่อกลับมาทดสอบที่แนวต้าน1(ซึ่งได้กลายเป็นแนวรับของรอบใหม่ไปแล้ว) แล้วค่อยเข้าซื้อ แต่ถ้าราคาดันย้อนทะลุกลับลงไปก็ต้อง cut loss ครับ แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่ว่าจะใช้แผน 3.1 คือซื้อตอนยืนเหนือแนวต้าน หรือ 3.2 คือ รอราคาย่อกลับมาทดสอบแนวต้าน เราก็ถือขึ้นไปหาจังหวะขายเมื่อหลุดแนวรับด้านบน ซึ่งใช้หลักการเดียวกันและเราจะเห็นเองเมื่อมันเกิดขึ้น(สำหรับคนที่มีประสบการณ์)
🪙 เป็นยังไงบ้างครับกับการตอบคำถามว่า “ จะขายตอนไหน ” ถ้าเราเตรียมตัวมาดีและทำได้ตามแผน เราก็จะปลอดภัยและสนุกไปกับการเทรดครับ
บทความต่อๆไป จะแชร์เรื่องระบบเทรดให้มากขึ้นนะครับ คือมันมีหลายเรื่องที่ต้องพูดกันไม่ว่าจะเป็นการหาจังหวะเข้าซื้อขายจากรูปแบบราคา, การทำ money management และ จิตวิทยาการลงทุน รวมทั้งเรื่อง Short future ด้วยครับ เพราะบ่อนมันมีหลายแบบครับ บ่อนที่ยกตัวอย่างในบทความนี้เป็นบ่อนปกติที่เราหากำไรจากการซื้อถูก ขายแพง (เล่นขาขึ้น) อย่างเดียว แต่มีบ่อนอีกแบบที่เรียกว่า Future ที่หากำไรได้จากทั้งขาขึ้น และ ขาลงครับ
ท่านไหนที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องอะไรก็ comment มานะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา