หนังสือเล่มนี้คือ What Smart Students Know: Maximum Grades. Optimum Learning. Minimum Time. ของ Adam Robinson ซึ่งพูดเรื่องเทคนิคการเรียนของนักศึกษาที่เรียนเก่งว่า พวกเขาไม่ได้มีสมองที่ฉลาดมากกว่านักเรียนทั่วไป แต่การที่พวกเขาสอบได้คะแนนดี เพราะมีกลยุทธ์การเรียนที่ดีกว่า
การ “ดึง” ข้อมูลที่หนังสือ What Smart Students Know แนะนำ คือ เทคนิคอย่างหนึ่งของ Retrieval Practice นั่นเอง
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
1
ผมรู้จักคำว่า Retrieval Practice ครั้งแรกจากหนังสือ Ultralearning: Master Hard Skills, Outsmart the Competition, and Accelerate Your Career ของ Scott Young ซึ่งบทหนึ่งในหนังสือเล่มนี้ได้เล่าเรื่อง Retrieval Practice ในแง่ของการเรียนรู้ทักษะสำคัญ
2
จากนั้น ผมได้อ่านหนังสือเรื่อง Powerful Teaching: Unleash the Science of Learning ของ Pooja K. Agarwal และ Patrice M. Bain ซึ่งกล่าวว่า Retrieval Practice เป็นเครี่องมือสำคัญที่ครูใช้ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียน
2
ดังนั้น เนื้อหาในบทความนี้จึงนำมาจากหนังสือสองเล่มนี้ครับ ถ้าคุณสนใจเรื่อง Retrieval Practice ขอแนะนำให้อ่านสองเล่มนี้ ซึ่งยังมีรายละเอียดอีกมากที่บทความนี้ยังไม่ได้กล่าวถึง
1
Retrieval Practice คืออะไร
1
Retrieval Practice คือการดึงความรู้หรือความจำออกมา โดยไม่เปิดดูหนังสือหรือแหล่งข้อมูล
2
ดังนั้น Retrieval Practice จึงเน้นที่ดึงข้อมูล (output) ไม่ใช่การอ่าน ซึ่งเป็นการป้อนข้อมูลเข้าไป (input)
บทความนี้จะแนะนำ Retrieval Practice 2 วิธีคือ การพูดและการเขียน
Photo by mentatdgt from Pexels
1. การพูด
1.1 พูดคนเดียว
การทำ Retrieval Practice แบบง่ายที่สุดโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เลยคือ การพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่จำได้หลังจากเรียนรู้เรื่องนั้นแล้ว