15 มี.ค. 2021 เวลา 02:44 • บ้าน & สวน
งบแต่งบ้าน - คอนโด ควรเตรียมไว้เท่าไหร่ถึงกำลังดี?
🧐🏠🛋
1
การซื้อที่อยู่อาศัยไม่ได้จบแค่ตอนที่เราเซ็นสัญญาซื้อขาย และรับโอนสินทรัพย์ (จริงๆ คือหนี้สินชั่วคราว) เป็นของเราครับ นั่นถือว่าเป็นภาค 1 ของหนังไตรภาค เพราะภาคที่ 2 ที่จะตามมาหลังจากนี้ก็คือ ‘การแต่งบ้าน - แต่งคอนโด’
ก็แหม่... ซื้อบ้านมาแล้วจะนอนบนพื้นบ้านเลยก็คงไม่ได้เนอะ มันก็ต้องมีการตกแต่ง
งบสำหรับตกแต่งบ้าน เลยเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมไว้ แล้วเตรียมไว้เท่าไหร่กำลังดี?
หากดูจากข้อมูลของธนาคารที่ปล่อยกู้ ส่วนใหญ่เขาจะอนุมัติวงเงินตกแต่งบ้านที่ประมาณ 5-10% ของราคาที่อยู่อาศัยครับ
1
หากกู้ 3,000,000 บาท ก็อาจจะยื่นกู้เป็นวงเงินเพิ่มอีก 150,000 - 300,000 บาทเป็นค่าตกแต่งต่อเติมก็ได้ครับ
ตัวเลขนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่อ้างอิงได้เบื้องต้นว่า งบที่ทำให้บ้านสามารถตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ได้ ก็ไม่เกิน 5 - 10% ของราคาบ้านนี่แหละ
แล้ว 5 - 10% ของราคาที่อยู่อาศัยมันพอไหม?
สมมติว่าคอนโด ขนาด 25 ตร.ม. ราคา 2 ล้านบาท งบแต่งคอนโดอยู่ที่ 1 - 2 แสนบาท บอกตรงๆ ว่า ‘พอครับ’ ยิ่งหากไม่ได้เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ที่คอนโดให้มา (ซึ่งคอนโดส่วนมากจะให้เป็นแบบ Fully Fitted) แล้วเน้นเพิ่มเติมเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว กับของตกแต่งที่ราคาไม่สูงก็ยิ่งทำได้เลย
--- ใครที่งงๆ คำว่า Fully Fitted หรือเรื่องประเภทของการขายบ้าน-คอนโดแบบต่างๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้ครับ https://www.livingpop.com/4-category-for-sale/ ---
ถ้าจ้างมืออาชีพออกแบบ และตกแต่งให้ ก็มีหลายราคาที่เป็นไปได้ ถ้าไม่ได้ตั้งสเป็กไว้สูงมากๆ ตอนนี้มีหลายบริษัทที่รับออกแบบ และตกแต่งคอนโดตามงบ
อย่างคอนโดของแอดมินเอง ก็ใช้บริการของบริษัทรับเหมาตกแต่งภายในเหมือนกัน โดยห้องขนาด 34.5 ตารางเมตร ก็กำหนดงบบิ๊วอินเอาไว้ประมาณ 3.5 แสนบาท รวมพวกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอีกนิดหน่อย ก็ตกราวๆ 4.5 แสนแบบสวยๆ ครับ
เดี๋ยวถ้ามีโอกาสผมว่าจะมารีวิว (อวด) การแต่งห้องตัวเองอีกที 5555+
แล้วหากเป็นบ้านราคา 3 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. งบแต่งบ้านอยู่ที่ 3 แสนบาทล่ะพอไหม?
ก็เป็นงบที่ไม่ได้น้อยเกินไป ถ้าไม่ต่อเติมครัวหลังบ้าน งบเท่านี้ทำได้สบายเลยครับ หากเน้นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเป็นหลัก ไม่เน้นบิวท์อิน ไม่ได้ทำอะไรกับโครงสร้างบ้าน ไม่กรุผนัง ไม่ทำฝ้าหลุม บ้านสวยๆ ทำได้ไม่ยากในราคานี้
...แต่หากจะจ้างอินทีเรียมาออกแบบ และตกแต่ง ก็ต้องเตรียมเงินไว้ราว 400,000 - 600,000 บาท หรือประมาณเกือบ 15 - 20% ของราคาบ้านเอาไว้ก่อนเลย บ้านสวยๆ ที่อยากได้ จะเป็นของคุณได้ไม่ยาก ขอแค่มีเงิน
บางคนอาจจะบอกว่า ยากตรงต้องมีเงินนี่แหละ...5555+
สรุปคือถ้าเป็นบ้านเนี่ย 5% เนี่ยไม่พอแน่ๆ (แค่เตียง ที่นอน โต๊ะกินข้าว โต๊ะทำงาน ก็จะเกินงบแล้ว...) แต่ 10% ก็จัดว่าไหวอยู่ครับ
แล้วระหว่างการจ้างออกแบบและตกแต่ง หรือตกแต่งเอง แบบไหนประหยัดงบกว่ากัน หรือดีกว่ากัน? คำถามนี้ตอบยาก แต่ก็มีเหตุผลที่สนับสนุนได้ทั้ง 2 แบบ แล้วแต่จะพิจารณานะครับ
✴️ จ้างผู้เชี่ยวชาญมาตกแต่งและออกแบบ : แพงกว่า แต่ได้สิ่งที่ต้องการ
การจ้างอินทีเรีย หรือผู้รับเหมามาช่วยตกแต่ง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยคุมงบได้ดีกว่าการแต่งเอง
สมมติแต่งเอง ตั้งงบไว้ 1 แสนบาท ทำไปทำมา นั่นก็ดี นี่ก็สวย ... เอ้า! เกินเฉย แถมไม่เหมือนแบบที่คิดไว้ เพราะเลือกเฟอร์นิเจอร์ผิด หรือซื้อมาเยอะไปนิด จะแต่งแบบ minimalist ทำไปทำมา อ้าว… หมดกัน จากห้อง Muji กลายเป็นห้องอบซาวน่าเฉย ไม้เยอะเกิ๊น!
🥵 จากที่จะเสียน้อย กลายเป็นเสียมากแทน
แต่ถ้าตัดสินใจเพราะจะใช้ผู้เชี่ยวชาญจริงๆ มาดูแลจัดการให้การแต่งบ้านของเราอยู่ในงบประมาณ ไม่บานปลาย มีงบเท่าไหร่ก็คุยกันไปเลยตั้งแต่แรกๆ ให้เคลียร์
ยิ่งถ้าจ้างบริษัทที่น่าเชื่อถือ นอกจากงบไม่บานแล้ว ยังได้บ้านที่เราพอใจ อยากได้ค่อยมาซื้อเติมที่หลังก็ได้ แถมประหยัดเวลากว่าแต่งเองเยอะ อันนี้ยืนยันจากคนใกล้ตัว ส่วนถ้างบจะบานจากการจ้างแต่ง และออกแบบก็มีนะ ถ้าเจอผู้รับเหมาไม่ดี หรือเราเองแหละที่อยากได้เพิ่ม อันนี้ต้องว่ากันไปตามกรณีไปครับ
✴️ ตกแต่งเองและออกแบบเอง - ประหยัดกว่า แต่อยู่ที่ความชำนาญ
จริงๆ แล้วการแต่งบ้านหรือคอนโดด้วยตัวเอง ประหยัดกว่าจ้างค่อนข้างจะแน่นอน ส่วนจะมากหรือน้อยกว่าแล้วแต่บุคคลและสไตล์การตกแต่ง เพราะเราจะมีเวลาคัดสรร เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เข้ากับโทนบ้านที่เลือกไว้
บางคนเข้าใจว่าแต่งบ้านเองก็ทำได้แต่ซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมาวางเองเฉยๆ ป่าว ...ไม่เสมอไปครับ
แต่งบ้านเองในที่นี้คือ บางครั้งเราก็ออกแบบบ้านในฝันโดยใช้โปรแกรมที่มีฟังก์ชันนั้น แล้วทำตามแบบเอง หรือไปหาผู้รับเหมามาทำตามแบบ คุมงาน คุมงบ คุมคุณภาพเองโดยไม่ต้องผ่านบริษัทไหน
✅ ข้อดีคือถูกกว่าและเราเลือกเองทุกอย่าง
แต่ข้อเสียคือเราต้องมาคุมงานเอง อาจต้องไปซื้อของเอง ดูแลจัดการทุกอย่างเองให้เข้าที่เข้าทาง ถ้ามีความสามารถและมีเวลาในการจัดการก็ไม่ยาก
1
ถ้าไม่ใช่ทางสายนี้ ก็อาจเจอความขลุกขลักในการประสานงาน และเสียเวลาชีวิตไปเยอะเหมือนกันในการคุมงาน (คุมงานทำบ้านนี่ไม่สนุกเลย เหนื่อย ปวดหัวด้วย ฮืออออ)
รวมถึงอาจจะโดนผู้รับเหมาเทงาน ทิ้งไว้กลางก็ได้ถ้าดวงไม่ดี
หากอยากให้การแต่งบ้านและคอนโดออกมาดีที่สุด ก็ต้องทุ่มเทครับ ใช้เวลากับสิ่งนั้นเยอะๆ แล้วผลลัพธ์ที่ได้ยังไงก็คุ้มค่ากับเงิน และเวลาที่จ่ายไป
เพราะการตกแต่งที่อยู่อาศัย คงไม่ได้ทำได้บ่อยๆ อาจต้องใช้เวลาให้เยอะเหมือนตอนที่เลือกซื้อที่อยู่อาศัยในการตัดสินใจ ให้สอดคล้องกับงบที่เตรียมไว้
แต่สุดท้าย ‘ถ้ามีเงินเยอะๆ’ เราจะไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องนี้เลยครับ /พับไมค์
🤣
โฆษณา