10 ก.ค. 2021 เวลา 07:39 • ท่องเที่ยว
#การเดินทาง
13/12/2019
1
"ถึงเวลาแล้วสินะ...ที่เราจะต้องแยกย้าย"...
วันนี้เราสนุกมาก ได้เที่ยวปั่นจักรยานชมเมืองในเมืองเก่า…กับเพื่อนใหม่ เราสองคนปั่นจักรยานไปทั่วย่านเมืองเก่า เก็บรูป เสพสถาปัตยกรรม ที่สำคัญ…ได้กินของอร่อยๆ พุงแทบแตก!!!!
สถานีรถไฟ Jakarta Kota เป็นอีกที่ที่เราไปเยี่ยมชม สถานีรถไฟเก่าแก่ที่งดงามไม่แพ้สถานีหัวลำโพงบ้านเรา รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล สะท้อนให้เห็นภาพประวัติศาสตร์ และกลิ่นไอของวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างเอเชียและยุโรป ในยุคสมัยแห่งความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม ได้เดินทางผ่านกาลเวลาจนมาถึงในปัจจุบัน ฉากหลังของการดำเนินชีวิตในยุคใหม่ ตัวอาคารกลมกลืนไปกับวิถีชีวิตของคนที่นี่ ได้อย่างลงตัว เราเก็บภาพนี้ไว้ ก่อนที่จะเดินทางไปยังเมืองอื่น
Jakarta Kota Railway station
เมื่อถึงเวลาแล้ว…ก็ต้องเดินทางต่อ
รีนาพาเรานั่งรถมอเตอร์ไซ ไปยังสถานีรถไฟ Pasar Senen รถไฟสายตะวันออก รถไฟสายนี้จะพาเราไป เมืองแห่งวัฒนธรรมอันยาวนาน ถ้าเราพูดชื่อเมือง อาจจะนึกกันไม่ค่อยออก แต่เราบอกเลยว่า เราจะไม่ยอมพลาดเมืองนี้แน่นอน!!!!!
เรามาถึงสถานี Pasar Senen ประมาณ หกโมงหน่อยๆ พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินเลย แดดยังร้อนใช้ได้เลย😅😅 เราซื้อตั๋วเป็นที่เรียบร้อย ผ่านเวบไซต์ มาถึงก็ไปเช็คอิน และออกตั๋วก่อน บอกเลยไฮเทคมาก แค่เอาคิวอาร์โค้ดไปแสกน แล้วก็ปริ้นท์ออกมาได้เลย รอเวลารถไฟออกเท่านั้น สะดวกสุดๆ จากที่นี่ไป เราต้องนั่งรถไฟประมาณ 8-9 ชั่วโมง ถึงจุดหมายปลายทางประมาณ 6 โมงเช้า เราได้ตั๋วแบบชั้นประหยัดมา ใจอยากอัพอีกนิด เพราะกะจะนอนยาว แต่ตั๋วเต็ม5555 ได้ตั๋วรอบ 3 ทุ่ม 45 รอไปอีก ประมาณ 3 ชั่วโมง😅😅
รีนานั่งรอส่งเราขึ้นรถไฟ เพราะนี่คือครั้งแรกที่เราขึ้นรถไฟแบบข้ามคืนที่อินโดฯ นางกลัวเราไปผิดที่ 555 ระหว่างรอรถไฟนี่ไม่ต้องกลัวว่าจะหิวกันเลย เพราะจัดกันมาเต็มมากจากไชน่าทาวน์
รอบๆ สถานีรถไฟ บรรยากาศไม่ต่างจากเมืองไทยเท่าไร เพราะมีรถเข็นขายของเต็มเลย แค่อาหารคนละแบบกันเท่านั้นเอง แต่ความน่ากินก็ไม่ได้แพ้อาหารบ้านเราเลยเช่นกัน
สะเต๊ะเนื้อ ที่สถานีรถไฟ ….. อาหร่อยยยย
เรากับรีนา นั่งรอรถไฟไปสักพัก คุยกันไปเพลินๆ แป้บเดียว ก็เป็นเวลา สามทุ่มละ เวลาผ่านไปไวจริงๆ เราต้องเข้าไปที่ชานชาลาแล้ว รถไฟที่นี่ ต่างจากที่บ้านเราตรงที่ คนที่มาส่ง อยู่ได้แค่จุดพักรอเท่านั้น เข้าไปในชานชาลาไม่ได้ คนที่จะเข้าไปชานชาลาได้คือคนที่มีตั๋วเท่านั้น ถ้าเป็นบ้านเรา เราจะเห็นภาพ ญาติ เพื่อน พี่ น้อง ไปส่งได้ถึงชานชาลา แต่ที่นี่ไม่ได้ ไม่รู้ว่าเมืองอื่นจะเหมือนกันหรือเปล่านะ😅
รีนามาส่งเราตรงจุดเช็คตั๋ว ตรงนั้นมีเจ้าหน้าที่อยู่ เค้าจะตรวจตั๋วและบัตรประชาชน ก่อนเข้าไปในบริเวณชานชาลา มีเครื่องกั้นแยกกันระหว่างผู้โดยสาร และคนทั่วไป ก่อนเราจะไปต่อ เราแลกไลน์กับรีนา ไว้ติดต่อกัน เรารู้สึกขอบคุณรีนาสำหรับวันนี้มากจริงๆ ที่สร้างความทรงจำดีๆ ให้กับเราในวันนี้
เพราะการเดินทางจะไม่มีความหมายเลย หากเรามัวแต่ก้มหน้าก้มตา เดินไปคนเดียว หรือมองไปแต่ข้างหน้า โดยไม่มองสิ่งต่างๆ ข้างทาง
1
การไปคนเดียวมันก็ดี แต่จะดีกว่าถ้าเราได้เก็บมิตรภาพดีๆกลับมาด้วย จริงไหม😀
1
เอาล่ะ ได้เวลาเดินทางแล้ว เราขอบคุณรีนาและกล่าวคำอำลา การเดินทางในอินโดนีเซียของเรา เริ่มจริงจังขึ้นมาแล้วสิ เราเดินไปยังจุดเช็คตั๋ว ตรวจพาสปอร์ต และไปยังชานชาลา รถไฟรอเราอยู่…. ไม่สิ การเดินทางต่างหาก ที่รอเราอยู่ รถไฟเคยรอใครที่ไหน😅😅
ไปค่ะ...ไปขึ้นรถ
เรากำลังมุ่งหน้าไป ยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) เช้ามาเราจะได้เจอกับวิถีชีวิตยามเช้าของยอกยาการ์ตาแล้ววว ตื่นเต้นนนน!!!
ที่นั่งชั้นประหยัดของเส้นทาง จาร์กาต้าไปยังยอกยาการ์ตา เป็นแบบที่นั่งคู่ หันหน้าชนกัน เหมือนรถไฟบ้านเรา เบาะปรับไม่ได้ แต่เบาะก็หนานุ่ม พอได้อยู่ มีที่วางโทรศัพท์ปลั้กไฟสามารถชาร์จแบตได้ มีถุงขยะไว้ให้ใต้เบาะ มีพนักงานคอยเก็บตลอด แล้วก็รถไฟติดแอร์จ้าาาา
ตรงที่นั่งเราไม่มีใครเลย นอกจากเรา สบายละทีนี้ นั่งไปยาวๆ ก็เมื่อยนิดนึงนะ แต่เรานั่งเต็มพื้นที่เลย ขาพาดไปอีกเบาะนึงด้วย55 พนักงานบนรถมีทั้งชายและหญิง และเปิดไฟตลอดทั้งคืน เรางีบหลับสักพักมารู้สึกตัวอีกทีตอนเค้าประกาศ ตอนรถไฟใกล้ถึงที่หมายแล้ว
รถไฟแล่นผ่านตัวเมือง
รถไฟยังคงแล่นไปเรื่อยๆ ภาพที่เห็นนอกหน้าต่าง คือบรรยากาศตอนเช้าของยอกยาการ์ตา รถไฟค่อยๆ แล่นผ่านทุ่งนา แม่น้ำ บ้านคน เมือง อาคาร มัสยิด ไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ถึงสถานีปลายทาง สถานี Lempuyangan เป็นเวลาเกือบ 7 โมงเช้าเตรียมตัวลงจากรถแล้วเดินไปโรงแรม
จากสถานีไปยังที่พักใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที ไม่นาน แต่สำหรับเรา เราคงไม่เดินรวดเดียวถึงโรงแรมหรอก555 คงมีแวะระหว่างทางแน่นอน ก็เราไม่ต้องรีบเหมือนไปทำงานนี่เนอะ เดินทางไปไหนแต่ละที่ เราไม่รู้หรอกว่าเราจะได้กลับมาอีกเมื่อไหร่ เรารู้แค่ว่า ไปแล้ว จงเต็มที่
บรรยากาศตอนเช้าในเมืองยอกยาการ์ตา
การเดินทางแต่ละครั้ง ไม่ได้มีจุดประสงค์เหมือนกันทุกครั้งเสมอไป วิธีการก็ด้วย
1
เมื่อเราเดิน ทุกอย่างจะช้าลง แต่เราก็ได้เห็นรายละเอียดรอบตัวเรามากขึ้น
1
เมื่อเราปั่นจักรยาน เร็วขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราเสียเวลามากเกินไป เรายังคงเก็บเรื่องราวข้างทางได้ในอีกแบบนึง
เมื่อเราขี่มอเตอร์ไซค์ เราก็ไปได้เร็วกว่าเดิม และไกลกว่าเดิม
เมื่อเรานั่งรถไฟ เราได้แต่มุ่งไปข้างหน้า เพื่อให้ถึงยังจุดหมาย แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่เห็นข้างทาง
สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะแบบไหน เร็วหรือช้า เราก็ต้องลงรถเพื่อเดินไปต่ออยู่ดี สิ่งที่จะพาเราไปไหนต่อไหนได้ท้ายที่สุดแล้ว มันก็คือตัวเราเอง
เราจะนำเรื่องราว ที่เก็บเกี่ยวได้จากระหว่างทางมาเป็นวัตถุดิบใช้ได้มากน้อยแค่ไหน มันก็อยู่ที่ตัวเราแล้ว
อ่อ….อีกอย่างนึง
.
.
.
.
.
ถ้าเราขับรถ….เราต้องมีใบขับขี่นะ ผ่ามๆๆๆๆ!!
ด้วยรัก
Me And My Sis.
10/07/2021
ที่นี่ยังมีรถสามล้อรับจ้างอยู่เลยนะ
การเดินทางในอินโดนีเซียของเรายังไม่จบ ไปด้วยกันได้นะ เที่ยวทิพย์ไปก่อน โควิด19 คงอีกยาวนาน สิ่งที่พอจะเยียวยาได้ก็นี่แหละจ้า
โฆษณา