2 เม.ย. 2021 เวลา 03:12 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ
by หนีดอย ประจำวันที่ 2 เม.ย. 2021
1
"เมื่อ S&P 500 ทำจุดสูงสุดที่ 4000 เรียบร้อยแล้ว"
1
💭วันนี้ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดทำการหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, อินเดีย, ยุโรป, และ สหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นวัน Good Friday แต่ตลาดหุ้นที่ยังเปิดทำการคือ ญี่ปุ่น เกาหลี และ เวียดนาม ทำให้หลายๆกองทุนไม่สามารถซื้อขายได้ในวันนี้ครับ ขอให้ทุกคนตรวจสอบอีกทีว่ากองที่เราสนใจยังซื้อขายได้หรือไม่ครับ
2
💭เมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนี Dow Jones ปิดที่ +0.52% , S&P 500 +1.18%, และ Nasdaq ที่ +1.76%
4
💭ขณะที่ตลาดยุโรป ดัชนีอย่าง Euro Stoxx50 ปิดที่ +0.68% ส่วนตลาดอินเดีย ดัชนีอย่าง SENSEX ปิดตลาดที่ +1.05%
3
💭สำหรับเช้านี้ ตลาดเอเชียเริ่มกันที่ ดัชนี CSI300 อยู่ที่ +0.76% , ตลาด Hang Seng ปิดอยู่ที่ +1.98%, ตลาด Nikkei อยู่ที่ +1.10%, ตลาด Kospi +0.76%, ส่วนเวียดนาม VN30 อยู่ที่ +0.45% (ทะลุ 1200 ทำ All Time High ไปเรียบร้อย)
3
💭ส่วนทองคำขยับขึ้นมายืนหนือ 1700 ได้อีกครั้ง มาอยู่ที่ 1,730 ด้วยค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ขณะที่ราคาแร่เงินอยู่ที่ 24.94 USD/Oz. โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปีปรับตัวลงมาอยู่ที่ 1.672% และ US dollar index อยู่ที่ 92.89
(ข้อมูลจาก investing.com/indices/major-indices)
💭 สำหรับดัชนี Fear & Greed index ล่าสุดสำหรับตลาดสหรัฐอยู่ที่ 58 ซึ่งไปทาง Greed มากกว่า Fear เล็กน้อย (วันก่อนหน้านี้ = 51)
(ข้อมูลจาก money.cnn.com/data/fear-and-greed/)
💵 ในวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยมีการกล่าวถึงการเพิ่มภาษีนิติบุคคลจากเดิม 35% ก่อนปรับลดเหลือ 21% ในยุคของโดนัล ทรัมป์ และจะปรับขึ้นมาอีกครั้งให้มาอยู่ที่ 28% และมีงบที่ต้องการใช้ดังนี้คือ
- 6.21 แสนล้านเหรียญในแง่โครงสร้างพื้นฐาน เช่น สะพาน ถนน ขนส่งมวลชน ท่าเรือ สนามบิน และการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า
- 4 แสนล้านเหรียญสำหรับการดูแลผู้สูงอายุและคนพิการ
- 3 แสนล้านเหรียญสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านน้ำดื่ม
- 3 แสนล้านเหรียญสำหรับการจัดหาบ้านราคาไม่แพง ปรับปรุงที่อยู่อาศัย พัฒนาโรงเรียน
- 5.8 แสนล้านเหรียญสำหรับการวิจัยพัฒนา และเพิ่มพูนการฝึกทักษะ
โดยเน้นการสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จรถไฟฟ้า 500,000 สถานีให้ได้ภายในปี 2030 และไบเดนยังรวมไปถึงการอัดงบ 50,000 ล้านเหรียญสำหรับการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ และ 40,000 ล้านเหรียญเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการวิจัยของห้องแล็ปทั่วประเทศอีกด้วย
1
💵 ผมลองไล่ชื่อหุ้นกลุ่มที่น่าจะได้รับผลประโยชน์ที่ไบเดนประกาศ
แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งตามกลุ่มจะได้ว่า
-EVs : Tesla, GM, F, VWAGY
-EV Charging station : CHPT, BLNK, NVVE
-Lithium : ALB
-Solid state battery : QS
-Semiconductors : Intc, AMD, NVDA, LSCC, ON, MRVL, Xilinx, Qorvo, SWKS, AMBA, STM, MU, QCOM, NXPI, AVGO, TXN, CSIQ, FSLR, MX
-Semiconductors equipments : Enphase, SolarEdge, AMAT, Kla, Lam research, ASML, TSMC, TER
-5G : VZ, T, TMUS, ERIC, NOK, AMT, CCI
-Infrastructure (Material & Industrial) : CAT, CP, KSU, NUE, USCR, ITI, BIPC, FCX, URI, DE, MLM, VMC, UNP, TRMB
-Water service : AWK, CWT, PRMW, WMS
-Renewable Energy : NEE, ENPH, RUN, NOVA
จริงๆ อาจมีมากกว่านี้ แต่นึกออกราวๆนี้ครับ
2
💵ถ้าดูในแง่ของกองทุน ที่พอเข้ากับตีมกลุ่มข้างต้นได้ก็จะเป็น
EVs : UEV
Semiconductors : ASP-ROBOT
Renewable energy : T-GlobalEnergy/MRENEW, T-ES-ggreen, WE-Tenergy/SCBCLEANA
Infrastructure : KFINFRA-A
5
💵ซึ่งเป็นผลให้ดัชนี S&P500 ทำสถิติปิดที่เหนือระดับ 4,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นบริษัทเทคโนโลยี เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าหุ้นกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากรัฐบาลสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นครั้งใหญ่ รวมไปถึงกลุ่มพลังงาน ที่ตอบรับการประชุม OPEC+ เมื่อวานนี้ที่มีมติปรับกำลังการผลิตขึ้นเป็นขั้นบันได หรือเพิ่มการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเพิ่ม 350,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. และเพิ่มอีก 350,000 บาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. ก่อนทีจะเพิ่ม 441,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค. หนุนราคาน้ามันดิบ Brent ปรับตัวขึ้น +3.4% สู่ 64.86 เหรียญ/บาร์เรล
2
💵PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ เดือน มีนามคม ดีดตัวสู่ 64.7 จุด สูงสุดในรอบ 38 ปี และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 61.7จุด ซึ่งเป็นสัญญาณถึงเศรษฐกิจสหรัฐอาจกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ขณะที่ยอดคำขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้นสู่ 719,000 ราย สูงกว่าตลาดคาดที่ 630,000 ราย ซึ่งปัจจัยนี้อาจเป็นผลทำให้มีแรงซื้อทองกลับเข้ามา นอกจากปัจจัยที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเช่นกัน
1
💵ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมีนาคมของสหรัฐในวันนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 630,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 6.0%
💵สำหรับใครยังงงว่าหุ้นลงหนักมากเป็นเพราะอะไร ผมมีเขียนบทความไว้แล้ว "⭐️ ทำไมตลาดหุ้นปรับตัวลงหนักมากกกก เอาไงดี?"
💵คำแนะนำการลงทุนในวันนี้ หรือในช่วงนี้ก็คงไม่เปลี่ยนแปลงมาก สามารถทยอยซื้อสะสมได้ โดยถ้าใครที่ซื้อไปหนักๆแล้วตั้งแต่ 15-31 มีนาคม ที่ผ่านมา ไม่ต้องซื้อแล้วครับ ให้รอไปก่อนดูว่าตลาดเด้งขึ้นมาครั้งนี้ เด้งเพื่อลงต่อ หรือ เด้งขึ้นไปเลยจบการพักฐานแล้ว ส่วนใครไม่เคยซื้อเลย หรือมีกระสุนอยากเก็บเพิ่ม ช่วงนี้ก็ทยอยซื้อสะสม 1 ไม้ได้ดังนี้ คือ
1. KT-PRECIOUS
2. SCBGOLD (แบบไม่ Hedge)
3. SCBGOLDH (แบบ Hedge)
4. ASP-DISRUPT
5. ASP-EUG
6. ASP-EVOCHINA
7. ASP-ROBOT
8. K-CHANGE-A
9. K-HIT
10.K-USA-A
11.K-USXNDQ-A
12.KF-EUROPE
13.KF-GTECH
14.KF-ORTFLEX
15.KF-US
16.KFHTECH-A
17.KT-ASHARES-A
18.KT-CHINA-A
19.KT-EURO
20.LHESPORT-A / WE-PLAY
21.LHINNO-A
22.BCAP-CTECH
23.MATECH-A
24.M-EM
25.ONE-DISC-RA
26.ONE-UGG-RA
27.ONE-GECOM
28.PRINCIPAL GCLOUD-A
29.PRINCIPAL GHEALTH-A
30.PWIN
31.SCBKEQTG
32.SCBUSSM
33.TCHTECH-A
34.T-ES-GGREEN
35.T-ES-GINNO / TMB-ES-GINNO
36.T-GLOBALENERGY
37.TBIOTECH
38.TCHCON
39.TCLOUD
40.TGENOME
41.TGHDIGI
42.TNEXTGEN / WE-CYBER
43.TMB-ES-CHINA-A
44.TMBAGLF
45.TMBCOF
46.UCI
47.UCHI
48.UEDTECH
49.UEV
50.WE-CHIG
51.WE-GOLD
52.MFTECH
2
ปล. หากใครสนใจกองทุนกลุ่ม Value Play ก็จะมีตัวเลือกอาทิเช่น
1.KT-FINANCE
2.TUSFIN-A
💵หรือหากใครคิดว่าการดีดขึ้นมามากในรอบนี้ จะถือโอกาสขายหรือสับเปลี่ยนกองเพื่อลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ ก็ทำได้ตามแผนการที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ
💭โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1660, 1680, 1730, หรือ 1775 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15% หรือหากใครกังวลว่าสุดท้ายแล้วทองจะลงไปถึง 1,440 USD/Oz. แล้วซึมยาว ก็สามารถรอดูท่าทีของทองคำอีกครั้งได้เช่นกันครับ
1
💭กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1760, 1800, 1840, 1865, 1890, 1900 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💵สำหรับทองคำผมได้เขียนมุมมองทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 มี.ค. 2021) ในแง่ของปัจจัยทางกราฟเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากดูรายละเอียดคลิกได้เลยที่ www.blockdit.com/posts/6056f2206494ea0c445b2151
💵คำแนะนำการขายสำหรับคนที่ต้องการรินกำไรขายออกบ้างหรือจะขายทั้งหมดก็ตาม โดยผมใช้ RSI ที่เกิน 70 ในตัว ETF ที่เป็นกองแม่ของกองทุนนั้นๆ หรือแยกดูเป็นหุ้นรายตัว พบว่ามี RSI เกิน 70 มากกว่าครึ่ง หรือ ดัชนีอยู่ใกล้แนวต้านเดิม พบว่ามีกองที่เริ่มน่าขายรินกำไรออกได้ ได้แก่
***** ไม่มีกองทุนที่แนะนำให้ขาย
💭สำหรับข้อมูลข้างต้น เหมาะกับคนอยากจับจังหวะการลงทุน หากใครมีแผนทำ DCA ซื้อทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องดูส่วนนี้นะครับ ให้ทำตามวินัยเดิมที่ตั้งใจไว้ได้เลยครับ
💭หมายเหตุ ความเห็นข้างต้น เป็นการใช้กราฟเทคนิคดูจุดเข้าซื้อ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง 100% เพราะซื้อแล้ว ราคาอาจย่อลงได้กว่าเดิม และการซื้อกองทุนก็ไม่ได้ราคา Real time ตามหน้าหุ้นนั้นๆครับ
💭เพราะการลงทุนนั้น ไม่ต้องซื้อให้ถูกที่สุด
แต่ขอให้ห่างจากจุดที่เรียกว่า "ดอย" ก็พอ
💭ใครชอบบทความดีๆแบบนี้ รบกวนกด Like เป็นกำลังใจให้แอดมิน
ใครคิดว่าบทความนี้ใช่ รบกวนกด share ให้เพื่อนๆมีความรู้เพิ่มในการลงทุน
หรือใครมีข้อเสนอแนะ ติชมอะไร พิมพ์ทิ้งไว้ได้เลยครับ
==================================
***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนการลงทุนทุกครั้ง
==================================
💭หากใครอยากได้ข้อมูลการลงทุนแบบฉับไว
ไม่พลาดทุกการลงทุนในทุกสินทรัพย์
กด Follow Twitter "หนีดอย"
พร้อมกดกระดิ่งแจ้งเตือนได้ที่ www.twitter.com/needoykan
💭เผื่ออนาคตผมมีจัด Clubhouse ด้านการลงทุน ใครสนใจสามารถ follow @winneuro เพื่อติดตามกันได้เลยนะครับ...
💭ช่องทาง Podcast ทั้งหมดของ "หนีดอย"
Apple Podcast : apple.co/3pC8Gwh
โฆษณา